เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ แนวปะการังยักษ์ที่มีชีวิต เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ (The great barrier reef) คือ แนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่สร้างขึ้นโดยสิ่งมีชีวิต อันประกอบด้วยเกาะกว่า 900 เกาะ, แนวปะการังย่อยกว่า 2,900 แห่ง และระบบนิเวศที่มีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ (The great barrier reef) ยังอาจเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสิ่งมหัศจรรย์เพียงอย่างเดียวของธรรมชาติที่สามารถมองเห็นได้จากอวกาศ ด้วยแนวปะการังที่ทอดยาว 2,600 กิโลเมตร ตามแนวชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลียครอบคลุมพื้นที่กว่า 344,000 ตารางกิโลเมตร ผู้มาเยือนสามารถมองเห็น เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ (The great barrier reef) ได้จากทางอากาศด้วยเที่ยวบินพาชมทิวทัศน์ หรือจากใต้น้ำด้วยการดำน้ำลึก (scuba) หรือจากบนผิวน้ำด้วยการดำน้ำตื้น (Snorkelling) แนวปะการังนี้ได้รับการคุ้มครองโดยอุทยานทางทะเล เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ ที่มีทางเชื่อมต่อสาธารณะมากมายไปสู่ที่พักบนเกาะในแนวปะการังดังกล่าวเพื่อการล่องเรือชมทิวทัศน์จากแผ่นดินใหญ่ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่พักราคาประหยัด มีโรงแรมหลายแห่งตามแนวชายฝั่งที่มีบริการนำเที่ยวด้วยการล่องเรือชมแนวปะการัง และเมืองทาวส์วิลล์ (Townsville) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม หากมีงบประมาณเหลือพอ อยากให้ผู้มาเยือนเลือกพักรีสอร์ทที่ตั้งอยู่บนเกาะใน เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ (The great barrier reef) เพราะจะดีที่สุดต่อการเดินทางมาท่องเที่ยว และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จะทำให้ดำน้ำตื้น (Snorkelling) และดำน้ำลึก (scuba) ได้ทันทีเนื่องจากอยู่ห่างจากแนวปะการังเพียงไม่กี่วินาที อีกทางเลือกหนึ่งคือการพักบนเรือที่อาศัยอยู่ได้ก็จะทำให้พักอยู่เหนือผืนน้ำได้ 2 – 3 วัน โดยสามารถนอนหลับไปกับเสียงคลื่นของมหาสมุทร ในขณะที่ตื่นขึ้นมาก็สามารถลงดำน้ำได้เลยก่อนจะทานมื้อเช้า วิธีที่อาจจะดีที่สุดในการชมและสัมผัสกับ เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ (The great barrier reef) คือการได้มองผ่านหน้ากากดำน้ำในการดำน้ำตื้น (Snorkelling) หรือดำน้ำลึก (scuba) ทำให้ผู้มาเยือนได้ใกล้ชิดกับปลา ปะการัง และสิ่งมีชีวิตในทะเลที่มีชีวิตชีวาที่สุด การได้อยู่ใกล้ชิดและเป็นส่วนตัวด้วยการดำน้ำตื้น (Snorkelling) หรือดำน้ำลึก (scuba) จะเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ แต่ส่วนมากทริปดำน้ำ (Live aboards) ลักษณะนี้ ผู้มาเยือนมักจะใช้เรือโป๊ะเพื่อให้เข้าถึงแนวปะการังได้มากขึ้น ด้วยการลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ เปิดโอกาสให้ได้สัมผัสแนวปะการังอย่างใกล้ชิดเป็นระยะเวลานาน ผู้มาเยือนสามารถเลือกการท่องเที่ยวด้วยเรือหรือเรือสำราญได้ซึ่งมีอยู่หลากหลายทั้งการเดินทางแบบวันเดียว การพักผ่อนระยะยาว และขนาดเรือที่ต่างๆ กัน เกาะแนวปะการังบางเกาะมีโรงแรมมากมายตั้งอยู่ ช่วยให้ผู้มาเยือนเข้าถึงการผจญภัยใต้น้ำได้โดยตรงเลยทีเดียว ไม่ว่าจะพักอยู่ที่ใด พาหนะประเภทอะไร หรือระยะเวลามาท่องเที่ยวนานเพียงใด ขอรับรองว่าการได้ใช้เวลาดำน้ำตื้น (Snorkelling) หรือดำน้ำลึก (scuba) จะทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด การท่องเที่ยวด้วยเฮลิคอปเตอร์เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยม ทำให้ผู้มาเยือนได้บินอยู่เหนือ เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ (The great barrier reef) และเป็นประจักษ์พยานให้กับความกว้างใหญ่ของสิ่งมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติทางทะเลอันน่าทึ่งนี้ ในหลายแห่งดวงอาทิตย์จะส่องผ่านน้ำตื้นและทำให้แนวปะการังที่อยู่ด้านล่างดูสว่างขึ้น การบินข้ามแนวปะการังดังกล่าวจะช่วยให้ผู้มาเยือนได้ชื่นชมความยิ่งใหญ่ของสิ่งมหัศจรรย์แห่งธรรมชาตินี้ สภาพอากาศของบริเวณนี้จะเป็นแบบร้อนชื้น ไม่ค่อยร้อนจัดหรือหนาวจัดมากนัก ฤดูร้อนมีอุณหภูมิประมาณ 73 - 91 องศาฟาเรนไฮต์ ส่วนฤดูหนาวมีอุณหภูมิระหว่าง 50 - 70 องศาฟาเรนไฮต์ ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคมซึ่งในช่วงเวลานี้จะมีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 75% ของปริมาณน้ำฝนรายปี สิ่งสำคัญต้องรู้เกี่ยวกับสภาพอากาศของที่นี่คือมีแดดจัดและร้อนจัด ดังนั้นการวางแผนท่องเที่ยวในขั้นต้นควรจะต้องเกี่ยวข้องกับการป้องกันแสงแดดและความสะดวกสบาย หากผู้มาเยือนต้องการถ่ายภาพความงดงามของ เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ (The great barrier reef) จากใต้ท้องทะเล ต้องแน่ใจว่ามีกล้องใต้น้ำที่เหมาะสมหรืออุปกรณ์ป้องกันใต้น้ำสำหรับกล้อง หลายเมืองตามแนวชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย จัดนำเที่ยวด้วยการล่องเรือ เกาะหลายเกาะตามแนวปะการังนี้กลายเป็นรีสอร์ทที่เหมาะสำหรับผู้มาเยือนในแต่ละวันเพื่อการท่องเที่ยวและสำรวจแนวปะการัง โดยทุกปีจะมีผู้มาเยือนเดินทางมาที่ เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ (The great barrier reef) ประมาณ 2 ล้านคน จึงนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องวางแผนก่อนออกเดินทาง นั่นก็เพื่อรักษาโอกาสหรือทางเลือกที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ของผู้จะมาเยือนให้ดีที่สุด รูปภาพที่ 1/ รูปภาพที่ 2/ รูปภาพที่ 3/ รูปภาพที่ 4