//ภาพโดย 31Singha// หลายวันก่อน แฟนสาวเหลือบไปเห็นสติกเกอร์วัตถุมงคลรูปพญาครุฑแบกเสมา ที่ติดอยู่หน้ากระจกรถกระบะของผม ซึ่งเป็นสติกเกอร์ที่เช่าบูชามาจากวัดหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด กรุงเทพฯ เมื่อ 2 - 3 ปี ก่อน เธอก็เอ่ยขึ้นว่า นึกถึงสติกเกอร์พญาครุฑที่เธอเองก็เคยมีติดหน้ากระจกรถของเธอ โดยเช่าบูชามาจากวัดโพธิ์ทอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดหลวงพ่อโอภาสีมากนัก แต่สติกเกอร์ของเธอจำต้องถูกลอกออกตอนที่เปลี่ยนฟิล์มติดกระจกรถยนต์เมื่อไม่นานมานี้ เธอเลยอยากจะกลับไปเช่าบูชาและไหว้พระที่วัดนั้นอีกครั้ง นั่นก็ทำให้ผมนึกขึ้นได้เช่นกันว่าไม่ได้ไปวัดทั้งสองนั้นนานแล้ว และช่วงนี้ซึ่งไม่ค่อยได้เข้ากรุงเทพบ่อยนัก จึงทำให้ยังหาเวลาและโอกาสกลับไปไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ลืมบรรยากาศความงดงาม และความเข้มขลังของวัดทั้งสอง โดยเฉพาะความสง่างามของรูปจำลองพญาครุฑ อันเป็นเสมือนสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของวัดทั้งสอง ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกัน ณ เขตบางมด กทม. ย้อนนึกไปถึงจุดเริ่มต้นของการไปวัดทั้งสองวัดครั้งแรก ก็มีที่มาจากความสนใจในความเชื่อเกี่ยวกับพญาครุฑ ซึ่งช่วงนั้นผมมีความสนใจเป็นพิเศษ โดยได้สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับประวัติ ตำนาน ความเชื่อ รวมถึงวัตถุมงคลและสถานที่ที่เกี่ยวกับพญาครุฑ ซึ่งแน่นอนว่า หนึ่งในบรรดาสถานที่และวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับพญาครุฑในประเทศไทยนั้น ก็คือ วัดโพธิ์ทอง เขตบางมด กทม. โดยมีท่านเจ้าอาวาสคือ พระอาจารย์วราห์ เกจิชื่อดังที่เป็นที่รู้จักกันดีในวงการผู้ที่สนใจวัตถุมงคลเกี่ยวกับพญาครุฑ และวัดหลวงพ่อโอภาสี พระสุปฏิปันโนผู้มีวัตรปฏิบัติอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ตอนที่ไปครั้งแรก ผมตั้งจุดหมายไปที่วัดหลวงพ่อโอภาสีก่อน เพราะตอนนั้นได้มีโอกาสเช่าบูชาวัตถุมงคลพญาครุฑมารุ่นหนึ่ง ซึ่งแม้จะเป็นเป็นวัตถุมงคลรุ่นหลัง ๆ และไม่ได้สร้างที่วัดนั้น แต่ก็มีความเกี่ยวข้องกับหลวงพ่อโอภาสี และเท่าที่ทราบ ในการจัดสร้าง ได้มีการนำไปทำพิธีพุทธาภิเษกที่วัดหลวงพ่อโอภาสีด้วย วัตถุมงคลพญาครุฑ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปวัดหลวงพ่อโอภาสี //ภาพโดย 31Singha// และในการเช่าวัตถุมงคลนั้นมา ทำให้มีโอกาสได้อ่านประวัติของหลวงพ่อ และเกิดความศรัทธา อยากจะตามรอยไปกราบสักการะสรีระสังขารของท่านที่ประดิษฐานไว้ที่วัดดังกล่าว จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปวัดหลวงพ่อโอภาสี หรือที่เรียกกันว่า อาศรมบางมด สรีระสังขารหลวงพ่อโอภาสี ในพระเจดีย์ ณ วัดหลวงพ่อโอภาสี (อาศรมบางมด) //ภาพโดย 31Singha// ซึ่งการไปที่วัดหลวงพ่อโอภาสี นอกจากจะได้สักการะสรีระสังขารของท่าน ที่ประดิษฐานอยู่ในเจดีย์ภายในวัด และชื่นชมชมความงามของสถานที่แล้ว ยังสังเกตเห็นรูปจำลองพญาครุฑที่ว่ากันว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวอย่างหนึ่งของหลวงพ่อโอภาสี โดยเป็นรูปครุฑแบกเสมาปรากฎอยู่บนวัตถุมงคลหลายชนิด เช่น ผ้ายันต์ เหรียญ ซึ่งรวมถึงสติกเกอร์ติดรถที่ผมบูชามาด้วย และถ้าเดินไปดูริมบ่อน้ำด้านข้างฝั่งหนึ่งของวัด ก็จะพบรูปปั้นครุฑองค์สีแดง ซึ่งทั้งหมดนี้น่าจะสื่อให้เห็นว่า ครุฑ คือมงคลความเชื่ออย่างหนึ่งที่มีความเกี่ยวพันกับสถานที่แห่งนี้ //ภาพโดย 31Singha// และก็อย่างที่บอกว่า วัดหลวงพ่อโอภาสี อยู่ไม่ไกลจากวัดโพธิ์ทองของหลวงพ่อวราห์ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการสร้างวัตถุมงคลพญาครุฑ โดยทั้งสองวัดห่างกันไม่ถึงสองกิโลเมตร อีกทั้งถนนจากวัดหลวงพ่อโอภาสีที่จะออกสู่ถนนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นทางถนนพระราม 2 หรือถนนสุขสวัสดิ์ ก็ต้องผ่านวัดโพธิ์ทอง ซึ่งมองเห็นสถาปัตยกรรมอันงดงามของวัดเด่นสะดุดตาตั้งแต่ด้านหน้า แล้วไฉนเลยตัวกระผมซึ่งไปถึงที่นั่นแล้วจะไม่แวะเล่า จากภาพความทรงจำและภาพถ่ายที่เก็บไว้ ต่างก็บันทึกถึงความสวยงามของวัดตั้งแต่ด้านหน้า ที่มีพระพุทธรูปนาคปรก ขนาบข้างด้วยรูปจำลองพญาครุฑในเทวลักษณะที่สง่างาม แล้วยังมียักษ์สองตนยืนคุมเชิงเพิ่มความน่าเกรงขามเข้าไปอีก //ภาพโดย 31Singha// ไม่เท่านั้น เมื่อเข้าไปในวัด ก็เหมือนจะสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจของรูปจำลองพญาครุฑสองตนบริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ // ด้านหน้าพระอุโบสถวัดโพธิ์ทอง ถ่ายภาพไว้เมื่อประมาณ ปี 2561 (ภาพโดย 31singha)// และไม่ใช่แค่เพียงเท่านั้น แม้แต่เมื่อเข้าไปกราบพระประธานในพระอุโบสถ เงยหน้าขึ้นมองผ่านไปยังจิตกรรมฝาผนังด้านหลังองค์พระประธาน ก็ยังปรากฏภาพวาดพญาครุฑโดดเด่นอยู่ท่ามกลางภาพวาดเทพเทวดาต่าง ๆ อันเป็นเสมือนการสื่อว่า ที่นี่คือดินแดนแห่งพญาครุฑ //ภาพโดย 31Singha// ช่วงนั้นที่ผมไปวัดโพธิ์ทองในปีนั้น ยังไม่ได้มีโอกาสเข้ากราบหลวงพ่อวราห์ และยังไม่ได้เช่าบูชาวัตถุมงคลพญาครุฑมาจากวัด คงได้แต่เพียงเก็บภาพความงดงามของรูปจำลองพญาครุฑไว้ชมเป็นที่ระลึก และเชื่อว่า ด้วยพลังแห่งจิตที่คิดถึง สักวันหนึ่งจะเป็นแรงดึงดูดให้กลับไปที่นั่นอีกครั้ง...กลับไปชื่นชมความงามของพญาครุฑที่บางมด ภาพปกบทความ โดย 31singha