สวัสดีครับท่านนักเที่ยวสายบุญทั้งหลายวันนี้ผู้เขียนมีสถานที่ดี ๆ มานำเสนออีกแล้วครับท่านสถานที่ที่ว่านี้คือวัด ใช่ครับวัดอีกแล้ว...วัดที่ว่านี้เป็นวัดเล็ก ๆ ครับแต่ภายในวัดมีสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่เล็กตามชื่อนะครับ..อิอิ วัดแห่งนี้เป็นวัดที่ประชาชนในเขตตำบลเวียง อำเภอฝางมีความศรัทธาอีกวัดหนึ่งไม่แพ้วัดสำคัญ ๆ ในพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่นี้เลยทีนี้มาดูกันครับว่าวัดที่ผู้เขียนจะนำเสนอนี้คือวัดอะไร และมีอะไรภายในวัดบ้าง วัดที่ว่านี้คือ “ประทุมมาวาส” หรือชาวบ้านแถวนี้เรียกติดปากว่า วัดหนองบัว การเดินทางมาวัดแห่งนี้นะครับให้ท่านใช้ทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-ฝาง เมื่อมาถึงแยกสัญญาณไฟจราจรทางเลี่ยงเมือง (นันทาราม) ให้ท่านใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองตรงมาประมาณ 2 กิโลเมตรจะพบกับป้ายทางเข้าวัดอยู่ซ้ายมือและตรงข้ามาอีกประมาณ 300 เมตร จะพบกับจุดหมายดังกล่าว ทีนี้มาดูกันครับว่าจุดที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง จุดแรก เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาในวัดจะพบกับพระพุทธรูปปางมารวิชัยหรือปางชนะมารประดิษฐานอยู่ทางด้านขวามือครับ จะมีกุมภัณฑ์ตนใหญ่สองตน (ตนหนึ่งสีแดง ตนหนึ่งสีเขียว...มีผ้าปิดจมูกป้องกันโควิด-19 ดูแล้วเท่ไปอีกแบบ...อิอิ) สำหรับพระพุทธรูปปางมารวิชัยหรือปางชนะมารนี้ (ตามพุทธประวัติผู้เขียนทราบว่าปางปางมารวิชัยหรือปางชนะมารนี้เป็นปางหนึ่งที่พระพุทธเจ้าได้ผจญพญามาครั้งเมื่อจะตรัสรู้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ (ที่เราเห็นมีพระแม่ธรณีบีบมวยผมปล่อยน้ำออกมาท่วมพญามารจนพ่ายแพ้) จุดที่สอง ที่สะดุดตาผู้เขียนอีกจุดหนึ่งคือ รูปปั้นพระศิวะเทพเป็นรูปปั้นที่ตั้งประดิษฐานอยู่ถัดลงมาต่อจากพระพุทธรูปปางมารวิชัย รูปปั้นพระศิวะเทพนี้มีสี่กรประทับนั่งบนหลังเสือสีทองพระองค์ทรงผู้ที่นับถือจะมีความเชื่อว่า ท่านสามารถประทานพรวิเศษให้แก่ผู้หมั่นกระทำความดี และยึดมั่นในศีลธรรม หากผู้ใดประพฤติเพื่ออุทิศถวายแก่พระองค์แล้วปรารถนาสิ่งวิเศษใด ๆ พระองค์ก็จะประทานพรนั้น ๆ ให้ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าหากใครบูชาพระศิวะเทพท่านสามารถช่วยปัดเป่ารักษาเยียวยาอากาศเจ็บไข้ได้ป่วยต่าง ๆ ได้ จุดที่สาม ซุ้มครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาไทยจุดนี้จะมีรูปปั้นครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาที่คนทางภาคเหนือให้ความเคารพนับถือ (มาก ๆ ) หากท่านเคยมาเที่ยวชมวัดทางภาคเหนือแทบทุกวัดจะมีรูปปั้นครูบาเจ้าศรีวิชัย (หลายท่านอาจไม่รู้จักว่าท่านเป็นใคร...ท่านลองหาดูประวัติผู้ที่นำทีมสร้างทางขึ้นดอยสุเทพครับ..แล้วจะพบว่าครูบาเจ้าท่านเป็นพระที่นำสร้างทางขึ้น) อีกทั้งคนทางภาคเหนือจะให้ความนับถือท่านในส่วนที่นอกจากเป็นพระนักพัฒนาแล้วยังนับถือในส่วนของท่านเป็นพระภิกษุผู้มีวัตรปฏิบัติงดงามอีกด้วย จุดที่สี่ พระวิหารประจำวัด เป็นพระวิหารหลังเล็ก ๆ ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในเทศกาลงานบุญสำคัญต่าง ๆ หากท่านเดินทางมาแล้วอย่าลืมขึ้นไปกราบขอพรพระประธานบนพระวิหารด้วยนะครับเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว จุดที่ห้า พระเจดีย์เหลี่ยมมีโขง (เหมือนประตู-ซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพรสี่ด้านสวยงามมากด้านบนสุดจะมีเหมือนทรงระฆังคว่ำสีทองปลายสุดมียอดฉัตรสีทองเปล่งประกายเมื่อกระทบกับแสงแดดดูแล้วสวยงาม รู้สึกสงบร่มเย็นไปอีกแบบ เครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.)