เมื่อพูดถึงจังหวัดนครนายก หลายคนอาจนึกถึงน้ำตกสาริกา น้ำตกนางรอง หรือกิจกรรมล่องแก่งที่โด่งดัง แต่อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือ เขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย นอกจากจะเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มอบประสบการณ์ทางธรรมชาติที่งดงามและกิจกรรมที่หลากหลายให้กับผู้มาเยือน เขื่อนขุนด่านปราการชลตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยในการบริหารจัดการน้ำ ป้องกันน้ำท่วม และเป็นแหล่งน้ำสำหรับเกษตรกรรมในพื้นที่ใกล้เคียง มีความยาวกว่า 2,720 เมตร และเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย นับเป็นโครงการที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของจังหวัดนครนายก โดยมีผืนน้ำกว้างใหญ่และภูเขาสูงสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติ สิ่งที่ทำให้เขื่อนขุนด่านปราการชลเป็นที่นิยมคือ วิวทิวทัศน์ที่สวยงามและบรรยากาศอันเงียบสงบ นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปบนสันเขื่อนเพื่อชมทิวทัศน์แบบพาโนรามา ซึ่งจะเห็นผืนน้ำที่กว้างไกลและทิวเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่าไม้เขียวขจี โดยเฉพาะช่วงเช้าหรือเย็นที่แสงแดดส่องกระทบผืนน้ำ สร้างภาพสะท้อนที่งดงามจนทำให้หลายคนอดใจไม่ไหวต้องหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพความประทับใจ อีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเขื่อนขุนด่านปราการชลคือ การล่องเรือชมวิวและเล่นน้ำตก นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือนำเที่ยวเพื่อไปยัง น้ำตกช่องลม, น้ำตกคลองคราม, และ น้ำตกผางามงอน ซึ่งเป็นน้ำตกที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ การล่องเรือผ่านเส้นทางที่โอบล้อมด้วยภูเขาและต้นไม้นานาพรรณ ช่วยให้ผู้มาเยือนรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายจากความวุ่นวายของชีวิตเมือง วันนี้ผู้เขียนจะพาทุกท่านไปชมความสวยงามของน้ำตกช่องลม ที่หลายๆคนต่างยกย่องคือกรีนแลนด์แห่งเมืองไทย โดยการเดินทางไปยังน้ำตกช่องลมจะต้องติดต่อเรือนำเที่ยวได้ที่บริเวณสันเขื่อน อัตราค่าโดยสารคือ 200 บาทต่อคน หรืออาจจะเหมาเรือนำเที่ยวจะตกอยู่ที่ 1,500 บาท สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย การเดินป่าเพื่อไปชมน้ำตกและสำรวจธรรมชาติรอบๆ เขื่อนก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่น้ำตกมีปริมาณน้ำมาก ทำให้ทัศนียภาพสวยงามเป็นพิเศษ การเดินผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้เขตร้อนและเสียงของธรรมชาติที่รายล้อม ช่วยให้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น นอกจากกิจกรรมท่องเที่ยวแล้ว บริเวณรอบเขื่อนขุนด่านปราการชลยังมี ที่พักและร้านอาหาร ให้บริการหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ตที่มีวิวติดอ่างเก็บน้ำ หรือโฮมสเตย์ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน บางแห่งยังมีกิจกรรมเสริม เช่น ขี่จักรยาน พายเรือแคนู หรือแม้แต่ตั้งแคมป์เพื่อชมดาวในยามค่ำคืน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากในเมืองใหญ่ นอกจากนี้ เขื่อนขุนด่านปราการชลยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเชิงศึกษาด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับระบบการบริหารจัดการน้ำ การก่อสร้างเขื่อน และความสำคัญของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตประจำวัน การเดินทางมายังเขื่อนขุนด่านปราการชลทำได้ง่ายและสะดวก โดยสามารถขับรถจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเพียงประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือหากต้องการสัมผัสธรรมชาติให้เต็มที่ ก็เลือกพักค้างคืนได้ โดยบริเวณใกล้ๆเขื่อนขุนด่านปราการชลนั้น มีที่พัก โฮมสเตย์ให้เลือกเยอะไม่น้อย แต่หากต้องการจะมาแบบ One Day Trip ผู้เขียนแนะนำให้เดินทางด้วยรถส่วนตัวหรืออาจจะเช่าเหมารถโดยสาร เนื่องจากในจังหวัดนครนายก ระบบขนส่งสาธารณะอาจมีตัวเลือกไม่มาก ตัวเลือกทั้งสองนี้จะทำให้การเดินทางง่ายและสะดวกขึ้น สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้ทั้งความรู้สึกผ่อนคลายและความตื่นเต้นจากกิจกรรมกลางแจ้ง เขื่อนขุนด่านปราการชล คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะมาเที่ยวกับครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือแม้แต่มาคนเดียวเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติ ที่นี่พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับทุกคน สุดท้ายแล้ว ความงดงามของเขื่อนขุนด่านปราการชลไม่ได้มีเพียงแค่ทัศนียภาพที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถของมนุษย์ในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล ที่นี่จึงเป็นมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงคุณค่าทางธรรมชาติและวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่ของไทย หากมีโอกาสผู้เขียนแนะนำให้มาในช่วงเวลาเช้าตรู่ หรือ ช่วงเย็นๆเพื่อที่จะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยที่สุด💙🌿🏞 📷 : ภาพประกอบโดย JK. (ผู้เขียน) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !