เรียกได้ว่ากำลังร้อนระอุกันเลยทีเดียวสำหรับอากาศประเทศไทยในช่วงกลางเดือนเมษายนที่เดือดจัด ๆ แบบนี้ ก่อนสงกรานต์หนึ่งวันก็ได้ฤกษ์งามยามดีที่เราซึ่งย้ายมาอยู่แถวนนทบุรีมาได้สักพักใหญ่จนจะย้ายไปที่อื่นแล้วตัดสินใจล็อกปฏิทินชวนน้องที่สนิทกันไปเที่ยวเกาะเกร็ดเป็นครั้งแรกแบบไม่ได้ศึกษาอะไรเลย นอกจากวิธีการเดินทางไปให้ถึงที่ท่าเรือเท่านั้น แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทริปที่จะอยู่ในความทรงจำ วันนี้ก็เลยอยากจะขอมาบันทึกเอาไว้ให้ตัวเองได้กลับมาดู แล้วก็ถือเป็นการรีวิวการเที่ยวเกาะเกร็ดครั้งแรก แนว ๆ แชร์ประสบการณ์เผื่อว่าใครอยากจะลองไปบ้างจะได้วางแผนถูกตั้งแต่ต้นจนจบทริป ซึ่งจะเป็นยังไงบ้างนั้น ไปดูกัน... ทริปเกาะเกร็ดครั้งนี้เราเริ่มต้นด้วยการนัดน้องที่ท่าเรือวัดสนามเหนือ ซึ่งการเดินทางไปยังวัดสนามเหนือจริง ๆ แล้วก็ไม่ยากเลยถ้านั่งรถไฟฟ้าเป็น เพียงแค่นั่งรถไฟฟ้าสายสีชมพูหรือที่เราชอบเรียกติดปากว่า "น้องนมเย็น" ตามใครสักคนใน X มาลงที่สถานี "แยกปากเกร็ด" บรรยากาศตอนไปถึงอาจจะดูวังเวงเล็กน้อยจนตอนแรกเรายังอดคิดไม่ได้ว่าลงผิดสถานีรึเปล่า ต้องเช็คแล้วเช็คอีกถึงมั่นใจว่าถูกแล้ว จากนั้นก็มุ่งหน้าออกมาทางประตูที่ 2 จะเจอวินมอเตอร์ไซค์จอดรออยู่ นั่งต่อไปวัดสนามเหนือ 25 บาท แป๊บเดียวก็ถึง แต่นี่แค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น การเดินทางของเรายังคงอีกยาวไกล พอถึงวัดสนามเหนือก็ได้เวลาเดินไปลงเรือข้ามฟาก ค่าใช้จ่ายตรงจุดนี้ก็ประมาณ 3 บาทเท่านั้น เมื่อข้ามฟากแล้วเราก็จะมาถึงที่ฝั่งของเกาะเกร็ด โดยบริเวณท่าเรือจะมีโต๊ะที่ขายตั๋วเรือเที่ยวรอบเกาะในราคา 90 บาทต่อคนอยู่ มาถึงแล้วเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรากับน้องก็ตัดสินใจลงเรือเที่ยวรอบเกาะกันก่อน เส้นทางการล่องเรือในครั้งนี้ก็จะเริ่มต้นที่วัดปรมัยยิกาวาส หรือก็คือตรงบริเวณท่าเรือข้ามฟากที่อยู่ตรงข้ามกับฝั่งของวัดสนามเหนือนั่นเอง ระหว่างการเดินทางจะมีการแวะพัก 3 จุด จุดละประมาณ 20 นาที ซึ่งจะมีที่ไหนบ้างไปดูกัน เริ่มต้นจากจุดที่ 1 คือวัดบางจาก เรียกได้ว่าเป็นสถานที่เอาใจสายมูเบา ๆ ไปถึงสิ่งที่โดดเด่นสะดุดตามาก ๆ ก็คือพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ริมน้ำ มองเห็นได้ในระยะไกล นอกจากนี้ยังมีถ้ำปู่นาคาที่สามารถเดินเข้าไปไหว้สักการะ ภายในจะมีรูปปั้นรูปเคารพของพญานาคราชหลายองค์ และยังมีรูปเคารพของเหล่าทวยเทพตามความเชื่อต่าง ๆ อีกมากมาย จุดที่ 2 คือวัดแสงสิริธรรม วัดแสงสิริธรรมเป็นวัดโบราณที่มีความเก่าแก่อยู่ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานของ "หลวงพ่อโต" พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย กับ "หลวงพ่อดำ" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ในสมัยอยุธยา จุดที่ 3 คือบ้านบาติก เป็นเรือนริมน้ำ เป็นเรือนริมน้ำที่จัดแสดงและจัดจำหน่ายงานผ้าบาติกซึ่งเป็นสินค้า OTOP ซึ่งก็จะมีทั้งเสื้อ ผ้าคลุม กระเป๋า หมวก พัด สามารถหาซื้อกลับไปใช้เองก็เป็นของฝากก็ได้ เมื่อเรือวนรอบเกาะและจอดครบทั้ง 3 จุดแล้ว ก็จะไปสิ้นสุดตรงจุดสุดท้าย คือกลุ่มหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผา โดยจุดนี้เรือจะไม่จอดรอ แต่จะเลยไปส่งผู้ที่ไม่ประสงค์ลงเดินเที่ยวต่อที่ท่าเรือข้ามฟากทั้งสองฝั่งคือวัดสนามเหนือ และวัดปรมัยยิกาวาสอันเป็นจุดเริ่มต้นเลยถือเป็นการจบทริป ซึ่งดูเวลาและอากาศในวันนั้นแล้วเราก็น้องจึงตัดสินใจกลับไปที่วัดปรมัยยิกาวาสเพื่อสักการะเจดีย์เอียง หรือพระเจดีย์มุเตากันก่อน เสร็จแล้วก็ไปหาทานข้าว แล้วก็คิดว่าอาจจะหาคาเฟ่นั่งเบา ๆ เผื่อจะได้พักผ่อนให้คลายร้อนกันกลับมาที่บริเวณวัดปรมัยยิกาวาสพอดีช่วงนี้มีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์อยู่จึงมีทั้งผู้คนและร้านค้ามากมาย เราสนใจชิมดอกไม้ทอด แล้วก็ไปเดินเล่นหาอะไรกินตามตรอกจนมาหยุดอยู่ที่ร้านข้าวแช่คุณแดง บรรยากาศสงกรานต์แบบนี้ก็ต้องลองชิมข้าวแช่กันซักหน่อย ซึ่งการกินข้าวแช่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกสำหรับเรา รีวิวคร่าว ๆ ก็ถือเป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีกับข้าวแช่น้ำเย็น ๆ ที่มีกลิ่นหอม กินคู่กับเครื่องเคียงและทั้งหมดนี้เป็นของคาว ก็ให้ความรู้สึกสดชื่นไปอีกแบบ จากนั้นเราก็ไปเดินเล่นในตรอกกันต่อ เห็นมีขนมไทยโบราณแปลก ๆ ทั้งที่เคยได้ยินชื่อและไม่เคยรู้จักเลยหลายชนิด หน้าตาสวยงามน่ากิน เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ ราคาก็เรียกได้ว่าเป็นมิตรสุด ๆ ของซื้อของฝากก็ราคาน่ารักจับต้องได้ จนทำให้เราหลงเพลิดเพลินไปกับการช็อปชิมแบบชิว ๆ รู้ตัวอีกทีก็ใช้จ่ายไปมากมายเลยทีเดียว ก่อนจบทริปเราก็น้องก็ได้มานั่งเล่นพูดคุยกันที่ลานวัดปรมัยยิกาวาสอีกพักใหญ่ โดยรวมแล้วการไปเที่ยวเกาะเกร็ดครั้งนี้ ได้บรรยากาศแบบไทยมอญเบา ๆ และจะเป็นอีกทริปหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำ เพราะเอาจริง ๆ ก็ไปไม่ยาก เพียงแต่เราพึ่งจะมีโอกาสได้ไปเยือนก็เท่านั้น สำหรับสายเดินเที่ยว สายมู เรียกได้ว่าโอเคเลยค่ะ แต่สายคาเฟ่ที่อยากไปนั่งสวย ๆ ชิค ๆ เก๋ ๆ เย็น ๆ ในห้องแอร์ก็อาจจะพลาดหน่อยเพราะร้านรวงต่าง ๆ ในเกาะเกร็ดส่วนใหญ่จะเป็น Oper air กันเกือบหมด งานนี้ก็อย่าลืมเตรียมพัด เตรียมพัดลมมือถือให้พร้อมด้วย จะได้สู้ร้อนกันไหวนะคะ ภาพถ่ายโดย: Yimmy_Bussakorn เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !