สายเที่ยวหลายคนที่ชอบวางแผนการเดินทางล่วงหน้าคงจะเฉากันไม่น้อย เมื่อเปิดปฏิทินแล้วพบว่า เดือนกันยายนไม่มีวันหยุด! ถึงแม้เดือนนี้จะไม่มีวันหยุดยาวให้ลาไปเที่ยวไกล ๆ ได้ แต่วันนี้ PinkMatcha ได้รวบรวมที่พักแบบ Staycation ที่เน้นไปพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบไม่ต้องใช้วันลา เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกทั้งบางที่ยังสามารถเดินทางไปได้แบบไม่ต้องใช้รถส่วนตัวอีกด้วย ที่พักเหล่านี้เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมแบบครบจบในที่เดียว ชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นการพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อย่างเต็มที่ ทั้งประหยัดวันลา เวลาและพลังงานในการเดินทาง เพื่อให้พร้อมสำหรับการทำงานต่อในวันจันทร์แบบไม่รู้สึกล้า :3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3 Cocoon.BKK , สมุทรปราการ (บางนา) คนที่กำลังมองหาที่พักบรรยากาศสงบ ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว ห้ามพลาดที่ Cocoon.BKK ที่พัก Pet-friendly สามารถพาน้องหมาน้องแมวไปได้ Cocoon.Bkk ตั้งอยู่ย่านบางนา ตรงข้ามกับเมกาบางนา หากเดินทางด้วยการขับรถส่วนตัวจากกรุงเทพไปยังที่พักก็ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น และไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถ เพราะที่พักมีลานจอดรถบริเวณทางเข้า นอกจากนี้ ยังสามารถเดินทางไปด้วยการนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีอุดมสุข (ทางออก 1) หรือรถไฟใต้ดิน MRT สายสีเหลือง ลงที่สถานีศรีเอี่ยม แล้วต่อรถแท็กซี่จากสถานี BTS / MRT เพื่อเข้าไปยังที่พักได้อีกด้วย เรียกได้ว่าสามารถเดินทางได้หลากหลายรูปแบบและสะดวกมาก ที่พักของ Cocoon.BKK มีลักษณะเป็นบ้านทรงกล่องปูนเปลือย เน้นการตกแต่งภายในบ้านพักด้วยวัสดุจำพวกไม้และหินอย่างเรียบง่าย ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสงบร่มรื่น มากกว่านั้นระเบียงของบ้านพักทุกหลังจะหันหน้าเข้าหาสระน้ำ ซึ่งสามารถออกไปนั่งเล่นรับลม ถ่ายรูปสวย ๆ อัปลงโซเชียลมีเดีย หรืออ่านหนังสือเล่มโปรดก็ได้ ภายในบ้านพักยังมีโต๊ะทำงานและปลั๊กไฟสำหรับชาวออฟฟิศที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน Work From Home / Work From Anywhere อีกด้วย ส่วนกลางของ Cocoon.BKK จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง คาเฟ่เล็ก ๆ ฟิตเนส และสวนบริเวณโดยรอบให้เดินเล่นได้ตามอัธยาศัย ในส่วนของอาหาร ทางที่พักจะมีอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ให้บริการ บริเวณคาเฟ่ริมสระว่ายน้ำ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 10.00 น. แต่สำหรับอาหารมื้อกลางวัน มื้อเย็น รวมไปถึงมื้อดึกนั้น ต้องใช้บริการจากแอปพลิเคชันสั่งอาหารเดลิเวอรี่แทน เนื่องจากร้านอาหารของ Cocoon.BKK ยังไม่เปิดให้บริการ ราคาที่พักต่อคืน Cocoon.BKK จะมีบ้านพักทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้ Standard room (rates 2,200 - 2,400 บาท) Deluxe room (rates 3,200 - 3,500 บาท) Family room (rates 3,600 - 4,000 บาท) โดยราคาเข้าพักแต่ละเรทรวมอาหารเช้าตามจำนวนผู้เข้าพักเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่รวมค่าบริการเพิ่มเติมกรณีที่พาน้องหมาน้องแมวเข้าพักด้วย ทั้งนี้ ราคาเข้าพักอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับวันเข้าพักและช่วงฤดูกาล PinkMatcha แนะนำให้สอบถามรายละเอียดและจองที่พักได้โดยตรง ผ่านช่องทาง Facebook: Cocoon.BKK :3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3 Bangkok Tree House , สมุทรปราการ (บางน้ำผึ้ง) ใครที่ฝันอยากลองใช้ชีวิตอยู่ในบ้านต้นไม้ วันนี้ฝันของคุณสามารถเป็นจริงได้ ที่ Bangkok Tree House บางน้ำผึ้ง ที่พักแบบบ้านต้นไม้ใกล้ชิดกับธรรมชาติของคุ้งบางกระเจ้า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมกับกิจกรรมสำรวจธรรมชาติมากมาย เช่น ทัวร์ปั่นจักรยาน พายเรือ Canue ล่องเรือชมสวนปาล์ม อีกทั้งยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ และ Snack Bar บริการครบครันภายในที่พัก เพียงขับรถส่วนตัวหรือเรียกรถแท็กซี่จากกรุงเทพฯ เดินทางไปยังวัดบางน้ำผึ้งนอก ใช้เวลาประมาณ 50 นาที สำหรับใครที่ขับรถยนต์ส่วนตัวมา สามารถจอดรถไว้ที่ลานจอดรถของวัดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จากนั้นเดินต่อหรือใช้บริการพี่ ๆ วินมอเตอร์ไซค์เพื่อเข้าไปยังที่พักก็ได้ ส่วนใครที่ขับรถมอเตอร์ไซค์ส่วนตัวมา ก็สามารถขับเข้าไปจอดบริเวณที่พักได้เลย นอกจากนี้ Bangkok Tree House ยังมีบริการรถรับ-ส่งที่สนามบินดอนเมือง หรือสนามบินสุวรรณภูมิด้วยนะ โดยจะมีค่าบริการเพิ่มเติมซึ่งสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ Bangkok Tree House room booking หรือติดต่อสอบถามกับทางที่พักโดยตรง ที่พักของ Bangkok Tree House โดดเด่นด้านการออกแบบบ้านพักที่ถึงแม้จะเป็นบ้านต้นไม้เหมือนกัน แต่การตกแต่งภายในบ้านแต่ละหลังนั้นมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน ยกตัวอย่างบ้านพักประเภท "Tree Top Nest" บ้านพักสำหรับ 2 คน (สามารถเพิ่มเตียงเสริมได้ โดยมีค่าบริการเพิ่มเติม) บ้านต้นไม้ 3 ชั้น ที่แบ่งห้องภายในไว้อย่างเป็นสัดส่วน ชั้นที่ 1 หรือชั้นล่างสุดจะเป็นโซนนั่งเล่น + มินิบาร์ และห้องน้ำแบบแยกโซนเปียก-แห้ง ซึ่งไฮไลท์ของชั้นนี้ก็จะต้องยกให้กับบริเวณ ห้องอาบน้ำโซนเปียกแบบ Rain Shower กึ่ง Open-air ท่ามกลางธรรมชาติ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนมาสปาธรรมชาติดี ๆ สักที่เลย ถัดขึ้นมาชั้นที่ 2 จะเป็นห้องนอนและมุมโต๊ะเครื่องแป้งเล็ก ๆ พร้อมกับลำโพงบลูทูธที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือเพื่อเปิดเพลงได้ บ้านพักทุกหลังจะไม่มีทีวี จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ชีวิตแบบ Back old days และสาย Slow life ที่เน้นการดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ไฮไลท์สำหรับห้องนอนในชั้นนี้ก็คือการตกแต่งภายในด้วยธีมสัตว์ชนิดต่าง ๆ ตามธรรมชาติ อย่างผึ้ง หิ่งห้อย ผีเสื้อ และมด ซึ่งน่าจะถูกใจสายเที่ยวที่ชื่นชอบที่พักแนวใกล้ชิดกับธรรมชาติ รวมถึงน้อง ๆ หนู ๆ ที่มาพักกับครอบครัวแน่นอน และชั้นที่ 3 หรือชั้นดาดฟ้า จะเป็นโซนนั่งเล่นสำหรับชมวิวป่าต้นปาล์มสีเขียวขจีที่อยู่ล้อมรอบที่พักทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะคนที่ชอบดูดาว หรือจะนั่งเล่น นอนเล่น คุยกันเพลิน ๆ ก็ล้วนเป็นบรรยากาศที่ดีต่อใจทุกสไตล์ ข้อควรระวัง: บ้านต้นไม้มีบันไดทางขึ้นแต่ละชั้นค่อนข้างสูงและชัน ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการเดินขึ้น-ลงบันได โดยเฉพาะผู้สูงอายุ Bangkok Tree House ยังมีทั้งร้านอาหารและคาเฟ่เปิดให้บริการด้วย โดยมีที่นั่งให้เลือกทั้งแบบ Indoor ในห้องแอร์ และแบบ Outdoor ใต้ร่มไม้ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยร้านอาหารและคาเฟ่จะปิดให้บริการเวลา 18.00 น. แต่ผู้เข้าพักสามารถสั่งอาหารเย็นไว้ล่วงหน้า พร้อมกับแจ้งเวลาที่จะมารับประทานอาหารได้ หรือหากต้องการให้เสิร์ฟถึงห้องก็สามารถแจ้งได้เช่นกัน โดยจะมีค่าบริการ Service charge เพิ่มเติม เหมือนกับโรงแรมทั่วไป ทางที่พักมีจักรยานให้ยืมได้ฟรี หรือหากสนใจกิจกรรมอื่น ๆ ที่ทางที่พักมีบริการ ก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมและแจ้งกับพนักงานบริเวณเคาน์เตอร์ได้เลย ราคาที่พักต่อคืน Bangkok Tree House จะมีบ้านพักทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้ Tree Top Nest (rates 2,790 - 2,990 บาท) Family Nest (rates 4,200 - 4,500 บาท) Bee Hive (rates 3,390 - 3,600 บาท) โดยราคาเข้าพักแต่ละเรทรวมอาหารเช้าตามจำนวนผู้เข้าพักเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่รวมค่าบริการอื่น ๆ เช่น เตียงเสริม ทั้งนี้ ราคาเข้าพักอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับวันเข้าพักและช่วงฤดูกาล PinkMatcha แนะนำให้สอบถามรายละเอียดและจองที่พักได้โดยตรง ผ่านช่องทาง Facebook: Bangkok Tree House :3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3 Worita Cove Hotel , ชลบุรี (พัทยา) Worita Cove Hotel โรงแรมติดทะเลพัทยา Full option ทั้งร้านอาหาร Sky bar & Beach Bar สระว่ายน้ำกระจกใส และชายหาดส่วนตัว แน่นอนว่าถ้าพูดถึงที่พักและที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สำหรับคนที่อยากเดินทางไปต่างจังหวัด แต่ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ก็ต้องไม่พลาดที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งใช้เวลาขับรถเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ก็ได้เห็นทะเลสวย ๆ พร้อมกับเมนูอาหารทะเลแสนอร่อยที่รอเสิร์ฟถึงท้อง วันนี้ PinkMatcha ขอแนะนำโรงแรมสำหรับ Staycation สบาย ๆ ที่พัทยา ณ Worita Cove Hotel โรงแรมติดทะเลที่มีชายหาดส่วนตัว สามารถไปนอนอาบแดด เพลิดเพลินกับพิซซ่าเตาถ่าน Signature ของโรงแรม และเมนูอีกมากมาย ถ่ายรูปทำ Content ไปจนถึงลงเล่นน้ำทะเลก็ได้ พร้อมด้วยกิจกรรมทางน้ำอีกมากมายที่พร้อมบริการสำหรับผู้เข้าพัก ตอบโจทย์สาย Staycation แบบครบจบในที่เดียว ห้องพักของโรงแรม Worita Cove Hotel มีให้เลือกถึง 8 ประเภท ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าพัก วิวที่สามารถมองเห็นได้จากห้องพัก และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในห้องพัก ส่วนห้องพักแนะนำสำหรับที่นี่คือ ห้อง Deluxe seaview panorama เพราะสามารถชมวิวของเมืองและทะเลพัทยาได้รอบห้อง และเป็นห้องที่อยู่ริมสุดเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ห้องพักนี้จะไม่มีอ่างอาบน้ำให้ บริเวณส่วนกลางของโรงแรมจะมีห้องสำหรับรับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ สระว่ายน้ำแบบกระจกใสพร้อมกับสไลเดอร์น้ำ และบริเวณโซนที่นั่งทั้งแบบ Indoor และ Outdoor รวมถึงเก้าอี้ผ้าใบชายหาดไว้ให้บริการ และไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้สำหรับสายกิน โดยเฉพาะ Pizza Lover ก็คือร้านพิซซ่าเตาถ่านริมหาด "Little Red Oven" ที่เป็นพิซซ่าเตาถ่านสูตรเฉพาะของร้านทางโรงแรม แป้งนุ่ม กลิ่นหอมจากการอบด้วยเตาถ่าน หากอยากลองชิมพิซซ่าหลาย ๆ หน้า ก็สามารถเลือกสั่งแบบ Half 2 หน้าในถาดเดียวกันได้ (ราคา 270 - 320 บาทขึ้นไป) เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 13.00 - 22.00 น. นอกจากร้านพิซซ่าเตาถ่านแล้ว ยังมีร้านเครปสำหรับสายขนมหวานอย่าง "Crepes A Day" และคาเฟ่สำหรับสั่งเครื่องดื่ม รวมถึงอาหารทานเล่นอีกมากมาย ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงกลางวันไปจนถึงเวลา 22.00 น. ส่วนใครอยากดินเนอร์สุดหรูบน Rooftop เพลิดเพลินไปกับมื้อค่ำ ดนตรีสด พร้อมกับวิวเมืองและทะเลพัทยาตอนกลางคืน ก็สามารถขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น Rooftop โซน "Sky bar & Beach bar" ของโรงแรมได้ ซึ่งจะมีทั้งเมนูอาหารทะเล ข้าวและกับข้าวต่าง ๆ ให้บริการสำหรับมื้อค่ำ รวมถึงเครื่องดื่มเย็น ๆ สำหรับนั่งจิบสบาย ๆ โดยจะมีดนตรีสดเล่นทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป ราคาที่พักต่อคืน Worita Cove Hotel จะมีห้องพักทั้งหมด 8 ประเภท โดยราคาเข้าพักแต่ละเรทจะขึ้นอยู่กับวันเข้าพักและช่วงฤดูกาล PinkMatcha แนะนำให้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและจองที่พักได้โดยตรง ผ่านช่องทาง Facebook: Worita cove hotel (เพจจริง) :3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3:3 และทั้งหมดนี้ก็คือ Staycation แนะนำทั้ง 3 แห่ง ใกล้กรุงเทพฯ ที่สามารถเที่ยวได้แบบ 2 วัน 1 คืน ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบไม่ต้องใช้วันลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนกันยายนที่ไม่มีวันหยุดแบบนี้ PinkMatcha หวังว่าจะเป็นไอเดียให้สายเที่ยวหลายคนได้วางแผนไปพักผ่อน ชาร์จแบตให้ตัวเองในช่วงนี้นะคะ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ยังคงอยู่ในหน้าฝน อย่าลืมเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทางและระมัดระวังในการเดินทางด้วยนะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าจาก PinkMatcha ค่ะ ภาพประกอบบทความ: - Photo by PinkMatcha (Edited with Canva) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !