ในช่วงเวลาที่โรคโควิด 19 กำลังเล่นงานมนุษยชาติ และการอยู่บ้านเฉย ๆ หลีกเลี่ยงการเดินทาง เป็นหนทางที่จะช่วยกอบกู้โลก สิ่งที่จะชุบชูจิตใจของผมได้คือการรำลึกถึงการเดินทางที่ผ่านมา และเขียนคำแนะนำแบ่งปันไว้ให้ได้อ่านกัน "มะละกา" ชื่อนี้ผมคุ้นหูมานานจากการเป็นชื่อช่องแคบสำคัญของโลกที่เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก ความสำคัญทางภูมิศาสตร์ดังกล่าวทำให้ช่องแคบมะละกาเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลก และตัวเมืองมะละกาเป็นเมืองท่าการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ จึงเป็นความใฝ่ฝันของผมมาเนิ่นนานว่าอยากไปเยือนมะละกา เมืองมรดกโลกสีแดงแห่งนี้ให้ได้สักครั้ง จนกระทั่งเมื่อมีโอกาสได้ไปเยือนมาเลเซีย ผมไม่พลาดที่จะจับจองตั๋วรถทัวร์จากสถานีขนส่ง Kuala Lumpur TBS ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ด้วยค่าโดยสารประมาณ 130 บาท ก็ถึงสถานีขนส่งมะละกา เซ็นทรัล แต่ยังครับ ปลายทางในฝันของผมยังไม่ใช่ที่นี่ จากสถานีขนส่ง ต้องต่อรถเมล์ไปยังเขตเมืองเก่าอีกทีหนึ่ง ได้ชาวบ้านท้องถิ่นในสถานีเป็นคนชี้ทางขึ้นรถเมล์ให้ ข้อดีของการท่องเที่ยวในมาเลเซียคือผู้คนเป็นมิตรและสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี เมื่อมาถึงเขตเมืองเก่ามะละกา ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก กลุ่มอาคารสีแดงที่เคยเห็นแต่ในภาพก็ปรากฏต่อหน้าผม เขตเมืองเก่าของมะละกามีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถเดินเที่ยวได้ด้วยเท้าของเราเอง ผมใช้เวลาทั้งวันตะลอนอยู่ในเมืองนี้ จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวในเขตเมืองเก่ามะละกามาแนะนำ 5 ที่ที่คุณไม่ควรพลาดกันครับ 1. จัตุรัสแดง จัตุรัสแดงแห่งนี้เป็นเอกลักษณ์ของเมืองมะละกา บางคนก็เรียกว่าจัตุรัสดัตช์ เพราะเป็นศูนย์กลางการปกครองของเมืองมะละกาในสมัยที่ชาวดัตช์ปกครองเป็นเจ้าอาณานิคม กลุ่มอาคารสีแดงที่สำคัญในบริเวณนี้ประกอบด้วยโบสถ์คริสต์ หอนาฬิกา และพิพิธภัณฑ์ บรรยากาศโดยรวมให้อารมณ์เหมือนเดินอยู่ในเมืองเล็ก ๆ ของยุโรปแต่แดดร้อนมาก มีมุมสวย ๆ หลายมุมให้ถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเคยมาเยือนมะละกาเมืองประวัติศาสตร์ ผมใช้เวลานานที่สุดในมะละกาก็ที่จัตุรัสแห่งนี้ เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการยืนชื่นชมบรรยากาศ ผมว่ามันเป็นภาพที่ผสมกันอย่างลงตัว ระหว่างความคลาสสิกของกลุ่มอาคารโบราณ และวิถีชีวิตที่ดำเนินโดยรอบ ฉากที่ประทับใจที่สุดคือภาพแขกเหรื่อเดินออกมาจากโบสถ์ หลังสิ้นสุดพิธีแต่งงานแบบคริสต์ บ่งบอกให้เห็นถึงการเป็นเมืองโบราณที่ยังมีชีวิตของมะละกา 2. ป้อม A Famosa ป้อม A Famosa เป็นป้อมปราการที่สร้างสมัยโปรตุเกสปกครองมะละกา แต่ภายหลังชาวดัทช์ขับไล่ชาวโปรตุเกสออกไป ป้อมจึงอยู่ภายใต้การดูแลของชาวดัทช์ น่าเสียดายที่ถูกทิ้งร้างไว้นาน ปัจจุบันจึงเหลือเพียงประตูด้านเดียวของป้อมให้ได้เห็น แต่ก็ยังพอให้มองเห็นภาพถึงความยิ่งใหญ่ของป้อมในอดีต ที่ป้อมแห่งนี้ ผมใช้เวลาไม่นานนัก เนื่องจากยังมีเพียงประตูด้านเดียวที่เหลืออยู่ แต่วิวข้างบนที่มองเห็นเมืองมะละกาก็คุ้มค่ากับการเดินไปดูครับ 3. โบสถ์เซนต์พอล โบราณสถานสำคัญแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ต้องออกแรงเดินนิด ๆ อยู่ไม่ไกลจากจัตุรัสแดงในระยะที่เดินไม่ทันเมื่อย ความสำคัญของโบสถ์แห่งนี้คือเป็นโบสถ์เก่าที่สร้างโดยชาวโปรตุเกสที่ว่ากันว่าเก่าที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ภายหลังเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นประภาคารสำหรับเป็นจุดสังเกตของนักเดินเรือ โบสถ์เซนต์พอลอยู่บนเนินเขา นอกจากซึมซับประวัติศาสตร์ ผมจึงได้ใช้เวลาซึมซับกับวิวเมืองมะละกาจากมุมสูงด้วย จุดเด่นที่น่าสนใจอีกอย่างคือฝาปิดโลงศพโบราณที่วางเรียงรายอยู่ในโบสถ์ครับ 4. ถนน Jonker Walk เมื่อเดินข้ามสะพานที่พาดผ่านแม่น้ำสายเล็ก ๆ ข้ามจากเขตโบราณสถานมายังอีกฝั่ง บรรยากาศของมะละกาจะเปลี่ยนไปคนละแบบ จากความเข้มขรึมของเมืองโบราณ สู่ความจอแจมากด้วยชีวิตชีวาบนถนน Jonker Walk ที่สองข้างทางเรียงรายด้วยห้องแถวของชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ที่นี่เป็นถนนสายธุรกิจที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไม่พลาดมาเดินเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก หรือนั่งทานอาหารพื้นเมืองของชาวมาเลเซีย ส่วนผมเองเลือกดับร้อนด้วยเครื่องดื่มเย็น ๆ ในบาร์แห่งหนึ่งเพื่อเติมพลังสำหรับการเดินต่อไป 5. ข้าวมันไก่ก้อนกลม หรือ Chicken Rice Ball ข้าวมันไก่แบบไหหลำนี้เป็นอาหารขึ้นชื่อของมะละกาที่ทุกคนต้องไม่พลาด แม้ว่าเอาจริง ๆ แล้วบ้านเราก็มีข้าวมันไก่เช่นกัน แต่ข้าวมันไก่ที่นี่จะให้อารมณ์แตกต่างออกไป ที่สำคัญคือข้าวมันของมะละกาจะปั้นมาเป็นก้อนกลมอัดแน่น และไก่จะไม่ได้โปะบนข้าวเหมือนบ้านเรา แต่สับมาวางข้าง ๆ ข้าว วันนี้ผมเลือกชิมข้าวมันไก่ทอดที่ร้าน Kedai Kopi Chung Wah บนถนน Jonker ที่น่าจะเป็นร้านดังเพราะต้องเข้าคิวหน้าร้านเลยทีเดียว ถ้าถามว่ารสชาติเป็นเช่นใด ผมชอบรสของไก่ที่ได้ลองซึ่งนุ่มแน่นและมีรสหวานนิด ๆ แต่น้ำจิ้มออกจะไม่คุ้นลิ้นสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับน้ำจิ้มของบ้านเราที่ผมมองว่าอร่อยกว่า แต่ของอย่างนี้ขึ้นกับรสนิยมส่วนบุคคลนะครับ มะละกาเป็นเมืองเล็ก ๆ อยู่ไม่ไกลจากกัวลาลัมเปอร์ ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวมาเลเซีย สามารถจัดทริปสั้น ๆ หนึ่งวันก็เที่ยวทั่ว เดินทางสะดวกและมีสถานที่น่าสนใจครบถ้วยทั้งเที่ยว ช็อป ชิม ครับ รูปภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน