ช่วงปิดเทอม หน้าร้อนแบบนี้ หลาย ๆ บ้านอาจจะกำลังมองหาที่เที่ยวไม่ไกลกรุงเทพฯ สามารถขับรถไปได้ ทั้งไปเช้าเย็นกลับ หรือจะค้างคืนก็ได้วันนี้ทางผู้เขียนอยากจะขอนำเสนอที่เที่ยวระยอง - หาดน้ำใส อำเภอสัตหีบ ที่พักติดชายทะเลมาเป็นตัวเลือกให้ผู้อ่านกันค่ะทริปนี้ อาจจะเรียกได้ว่า เป็นทริปแก้บนของหลานชายก็ได้ค่ะ (บนขอให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ค่ะ) สถานที่เที่ยวบางแห่ง อาจจะเหมาะกับสายมูที่ต้องการไปสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำแต่ละท้องถิ่น กราบไหว้ขอพรทั้งในเรื่องการงาน การเรียน โชคลาภเงินทองกันนะคะ ถ้าพร้อมแล้ว ตามไปเที่ยวกันเลยค่ะวันแรก กรุงเทพฯ-หาดน้ำใส อ.สัตหีบ จุดนัดพบแรกอยู่ที่วัดหลวงพ่อโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา ล้อหมุนเกือบ 9 โมงเช้า ขับรถใช้เส้นทางสายมอเตอร์เวย์สาย 7 จากกรุงเทพฯ เลี้ยวเข้าฉะเชิงเทรา ใช้เวลาไป 1 ชม. กว่า นานกว่าปกติ เนื่องจากรถติดตรงสะพานข้ามแยกบางพระ ระหว่างทางเข้าไปยังวัด ก็จะเห็นร้านค้าขายไข่ต้ม ดอกไม้ เครื่องสักการะบูชาองค์หลวงพ่อโสธร ปากทางเข้าเต็มไปด้วยผู้คน ทั้งหิ้วตะกร้าไข่ต้ม ของบูชา ใครที่บนแล้วสำเร็จ ก็จะนำไข่ต้มไปแก้บนตามที่ได้ขอไว้หลังจากขอพร แก้บนเป็นที่เรียบร้อย ก็รวมพล 2 ครอบครัว มุ่งหน้าออกเดินทางสู่บ้านพี่ชายคนกลาง โดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-พัทยา มุ่งหน้าสู่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีกันค่ะขับรถไปถึงอำเภอศรีราชา เวลาเกือบเที่ยง แวะพักรับประทานอาหารกลางวัน ร้านก๋วยเตี๋ยวธัญรส ใกล้ ๆ กับ J-Park อาหารเสิร์ฟเร็ว อร่อย ราคาไม่แพง สถานที่นั่งสบาย แต่ก็มีลูกค้าค่อนข้างเยอะ คงเป็นเพราะผู้คนอัดอั้นจากช่วงโควิด เป็นช่วงปิดเทอม และเป็นวันศุกร์ที่หลาย ๆ บ้านเลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวหยุดยาวไปถึงเสาร์-อาทิตย์ด้วยค่ะแวะเข้าไปรวมพลและรับหลาน ๆ บ้านพี่ชายคนกลางเสร็จ ช่วงบ่ายก็ออกเดินทางมุ่งสู่จุดหมายปลายทางหาดน้ำใส อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีกันค่ะ ขับรถใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าจากศรีราชาถึงสัตหีบ ก่อนถึงที่พัก ได้แวะตลาดแสมสาร ซื้ออาหารทะเลสด เพื่อนำไปปิ้งย่างกันในคืนนี้พิกัด: 12.6290° N, 100.9633° Eที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา มีครบ ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้มซีฟู้ด รสชาติจัดจ้านถูกใจ จนต้องซื้อไปหลายชุดเลยค่ะ ถ้าใครต้องการแบบปรุงพร้อมทาน ทางร้านก็มีบริการลวก ปิ้งย่างให้ฟรี ๆ ราคาอาหารทั่วไป ไม่ต่างกับกรุงเทพค่ะ แต่ข้อดีคืออยู่ใกล้ที่พัก ของสด สะดวกในการขนใส่รถ ไม่ต้องหอบหิ้วไปไกลพิกัด : 12.6042° N, 100.9442° Eเมื่อได้เสบียงครบแล้ว มุ่งหน้าเข้าสู่ที่พัก จะเจอกับป้อมทหารทางเข้าไปบริเวณหาดน้ำใส พี่ ๆ ทหารต้อนรับ ทักทาย สอบถามตามระเบียบ ตรงจุดนี้ โดยปกติแล้ว จะมีนักท่องเที่ยวทั้งแบบมาเช้าเย็นกลับ และแบบนอนพัก ทางเราได้แจ้งว่ามาพักที่บ้านพักรับรอง ทางพี่ทหารรับทราบ ก็ปล่อยเราผ่านเข้าไปเลยค่ะขับเข้าไปประมาณ 3-4 กม.ถึงบ้านพักรับรองหาดน้ำใส ทางเราได้จองบ้านพักไว้ 1 คืน สำหรับสมาชิก 10 คน เป็นบ้านวีไอพี ติดเชิงเขา 1 หลัง และบ้านเดี่ยว ติดชายหาด 1 หลังค่าที่พักและแผนผังบ้านรับรองหาดน้ำใส (ตามรูปแนบเลยค่ะ)พาไปชมบ้านวีไอพีกันก่อนค่ะ จะเปิดให้จองแค่ 1 หลัง ช่วงเทศกาล อาจจะต้องจองตั้งแต่เนิ่น ๆ ค่ะ ตัวบ้านจะอยู่ด้านในสุด ติดเชิงเขา มีทั้งหมด 3 ห้องนอนและ 3 ห้องน้ำ โดยชั้นบนจะมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำในตัว และชั้นล่างอีก 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำแยกจากห้องนอน ชั้นบนของบ้าน จะมีห้องนั่งเล่น บริเวณด้านหน้าห้องนอน ถัดเข้าไปจะเจอห้องนอนแรกของชั้นบน พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า มีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้องนอน แต่ละห้องสามารถขอเสริมฟูกอีก 1 คนได้ ชั้นล่าง มีห้องนอน 1 ห้องและห้องน้ำแยกจากห้องนอนไว้สำหรับห้องนอนชั้นล่าง และคนที่ต้องการใช้ห้องน้ำบริเวณด้านล่างย้ายฝั่งมาด้านหน้าติดชายหาด ชมบ้านเดี่ยว หลังเล็กกันบ้างค่ะ ที่นี่จะมี 2 แถวคือ วิวเชิงเขาและวิวทะเล (ตามแผนผังด้านบน)ของเราได้บ้านหลังสีส้ม ติดชายหาด สะดวกในการเดินลงเล่นน้ำทะเลได้เลย เปิดประตูเข้าไปก็จะเจอเตียงนอนขนาดควีนไซส์ นอนได้ 2 คน และห้องน้ำในตัว ทางเราขอให้เสริมฟูกเพิ่มให้อีก 1 คนค่ะเก็บสัมภาระเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาถ่ายรูปและเล่นน้ำชายหาดกันเลยต้องบอกว่าสมคำร่ำลือจริง ๆ ค่ะ หาดน้ำใส เห็นปลาตัวเล็ก ๆ มาแหวกว่ายบริเวณผิวน้ำ คนไม่พลุกพล่าน กั้นอาณาเขตชัดเจนระหว่างบริเวณนักท่องเที่ยวที่มาเช้าเย็นกลับ และบริเวณบ้านพัก สนุกกับการเล่นน้ำ ก่อกองทรายกันแล้ว ได้เวลาอาหารเย็น ทางเราได้จองเตาปิ้งย่าง อุปกรณ์ และอาหารบางส่วนไว้กับทางที่พัก ถึงเวลา ทุกอย่างจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อย เตาและถ่านมีให้พร้อม แต่ต้องจุดไฟเองนะคะ อันนี้ใช้เวลาจุดนานเหมือนกันเพราะแต่ละคนไม่มีประสบการณ์เลย เด็ก ๆ ช่วยกันหากิ่งไม้ ใบไม้มาทำเชื้อเพลิงจุดถ่านผลัดกันปิ้งย่างไป ทานอาหารมื้อเย็นไป เปิดเพลงเคล้าคลอ จนถึงเวลาเข้านอน ต่างพากันแยกย้ายไปนอนแต่ละห้อง ส่วนเราก็เดินลงมาหน่อยถึงบ้านหลังน้อย คืนนี้สลบไสลเตรียมตื่นเช้าไปตามโปรแกรมที่วางไว้เช้าวันที่สอง เตรียมตัวเก็บกระเป๋า เช็คเอาต์ : สัตหีบ-ระยอง8.30 น. ล้อหมุน ที่แรกของวันนี้คือ วิหารหลวงพ่อดำ ช่องแสมสาร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก ไข่ต้มที่เตรียมไว้ แก้บนองค์หลวงพ่อดำ เสร็จแล้วแจกจ่ายให้กับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนทั่วไปค่ะ บริเวณใกล้ๆกัน มีองค์เทพทันใจ ขอพรตามสิ่งที่มุ่งหวังได้เลยค่ะพิกัด: 12.5965° N, 100.9628° Eออกจากวิหารหลวงพ่อดำ มุ่งหน้าสู่ จ.ระยอง แวะทานอาหารกลางวัน ร้าน “โจโจ้ ซีฟู้ด” อยู่ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์สุนทรภู่ รสชาติอาหารอร่อยทุกเมนู อาหารออกเสิร์ฟเร็ว ออเดอร์ไป 9 เมนู ได้แก่ ผักกูดผัดน้ำมันหอย เอ็นหอยทอด-กระเทียม ปลากะพงราดพริก ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว ยำปลาข้าวสาร กะหล่ำปลีผัด-น้ำปลา ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ทอดมันกุ้ง หอยตลับผัดใบโหระพา ทานเสร็จเช็กบิล ค่าอาหารมื้อนี้ ประมาณ 2 พันกว่าบาท สำหรับทาน 10 คน ถือว่าไม่แพงค่ะพิกัด: 12.6664635, 101.6364741อิ่มท้องแล้ว เดินทางต่อไปยังอนุสาวรีย์สุนทรภู่ เด็กๆ ได้สนุกกับการเรียนรู้เกี่ยวกับตัวละครในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ก่อนกลับ ถ่ายรูปร่วมกันหน่อยค่ะพิกัด: 12.6751° N, 101.6346° Eจากอนุสาวรีย์สุนทรภู่ เดินทางต่อไปยังสะพานประแสสิน “จุดเช็คอิน ของจังหวัดระยอง” จุดชมวิว 360° จากจุดนี้ สามารถมองเห็นทัศนียภาพทั้ง 2 ฝั่ง ทะเลและฝั่งชุมชน ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำประแส มีความยาวทั้งหมด 2.09 กม.พิกัด: 12.7010050, 101.7019113สถานที่ต่อไป คือ ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรฯ กราบสักการะบูชาสมเด็จกรมหลวงชุมพรเสร็จ จุดประทัด 1,000 นัดแก้บนกัน พร้อมรับเลขเด็ดงวดนี้กันเลยค่ะ (ขอบอกว่างวดนี้ หวยออก 2 ตัว มีเลขที่ได้ด้วยค่ะ)พิกัด: 12.717062,101.703516ศาลฯตั้งอยู่ริมปากน้ำประแส มีต้นไม้ร่มรื่น วิวสวยงามค่ะทริปสุดท้ายสำหรับการแก้บนของหลานชาย แต่ยังไม่จบทริปนี้นะคะ หลังจากแยกย้ายกับบ้านพี่ชายคนโต ก็เหลือครอบครัวเรากับพี่ชายคนกลาง ไปกันต่อเลยค่ะด้วยความที่ยังไม่อยากกลับกรุงเทพฯ ทำให้เกิดทริประยองขึ้นมากะทันหัน พวกเราช่วยกันค้นหาที่พักจากอินเทอร์เน็ต เนื่องจากเป็นวันหยุด ที่พักส่วนใหญ่เต็มหมด เราได้ที่พักเป็นคอนโดมิเนียมเก่า พอใช้ได้ค่ะ แต่เราไม่ขอแนะนำนะคะ ไว้คราวหน้ามีเวลาจองล่วงหน้า จะขอนำเสนอที่พักดี ๆ นะคะรอจนแดดร่มลมตก พาเด็กน้อยลงเล่นน้ำบริเวณชายหาด น้ำไม่ใสมาก แต่พอเล่นได้ค่ะ ต้องระวังอย่าไปใกล้โขดหิน เพราะจะมีหินแหลมใต้น้ำตำเท้าได้ค่ะพิกัด: 12.6659960, 101.2335634เล่นน้ำกันนานพอสมควร ก็ได้เวลาขึ้นไปอาบน้ำ แต่งตัวออกไปหาร้านอาหารทานมื้อเย็น มื้อนี้เปลี่ยนจากอาหารทะเล มาเป็นทานข้าวต้มกุ๊ยกันบ้างค่ะ ขอนำเสนอร้าน ”กิมลั้ง ข้าวต้มกุ๊ย” ตั้งอยู่ในตัวเมืองระยอง ไม่ไกลจากที่พัก ดีเยี่ยมทั้งการตกแต่งร้าน รสชาติอาหารอร่อย เสิร์ฟเร็ว พนักงานบริการดี เมนูที่สั่งวันนี้ ได้แก่ ไข่เจียวหมูสับ ยำไข่เยี่ยวม้า เป็ดพะโล้และไส้ ต้มยำปลากะพงน้ำใส สะตอผัดกุ้ง ข้าวสวย ข้าวต้ม สำหรับทาน 7 คน ค่าอาหารมื้อนี้ ประมาณ 1,1xx.- บาท ราคาอาหารแต่ละเมนูอาจจะสูงกว่าร้านข้าวต้มทั่วไป แต่ต้องบอกว่าคุณภาพและปริมาณคุ้มค่าราคาค่ะพิกัด: 12.6813442, 101.2753264ทานอาหารมื้อเย็นอิ่มจนพุงกาง ได้เวลากลับเข้าที่พัก คืนนี้เป็นอีกคืนที่หลับสนิท อาจจะเพลียจากการเดินทางด้วยค่ะ วันที่สาม เตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯเช็คเอาต์ออกจากที่พักเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ ก่อนกลับแวะตรงจุดชมวิว สะพานชมป่าชายเลน พระเจดีย์กลางน้ำ ตั้งอยู่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง สันนิษฐานกันว่า เจ้าเมืองระยองสมัยก่อน ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างตามแบบพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการค่ะ เจดีย์ทรงระฆัง สูงราว 10 เมตร โอบล้อมด้วยป่าชายเลนกว่า 52 ไร่ และมีสะพานสร้างจากอีกฝั่งเชื่อมมายังเจดีย์ ปัจจุบันสามารถเข้าได้ 2 ฝั่ง โดยเดินเท้ามาตามสะพาน หรือขับรถมาจอดทางฝั่งเจดีย์ นอกจากชมความสวยงามของเจดีย์และสะพานกลางน้ำแล้ว ที่นี่ยังเรือบริการนักท่องเที่ยวล่องชม 2 ฝั่งของแม่น้ำพิกัด: 12.6661° N, 101.2419° Eแวะซื้อกาแฟและเบเกอรี่ ที่ร้าน Bellinee’s สาขาระยอง ใครมาระยอง ต้องมาลองคาเฟ่นี้กันค่ะ ตามพิกัดไปเลยค่ะ 12.6704836, 101.2378973 เข้าไปด้านในร้านเจอลูกค้าแน่นร้านมาก ต่อแถวหน้าแคชเชียร์กันยาวเหยียด คงเป็นเพราะความหลากหลายของเบเกอรี่ และราคาที่ไม่แพง มีมุมให้นั่งเล่นและถ่ายรูปทั้ง indoor และ outdoor อีกทั้งยังได้ชมวิวสะพานและเจดีย์กลางแม่น้ำที่สวยงามแบบใกล้ชิด จิบกาแฟ นั่งมองวิวไป เพลินตาเพลินใจจริง ๆ ค่ะได้ของฝากไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ในตัวเมืองระยองกันแล้ว ขากลับแวะทานอาหารกลางวัน ร้านก๋วยเตี๋ยวริมทาง บอกลาแยกย้ายกับพี่ชาย พี่สะใภ้และหลาน ๆเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยใช้ทางมอเตอร์เวย์สาย 7 พัทยา-กรุงเทพฯ เหมือนเดิมนะคะขอบคุณสำหรับการติดตามรีวิวในครั้งนี้และครั้งต่อ ๆ ไปนะคะที่มา: ข้อมูลและภาพทั้งหมดจัดทำโดยผู้เขียนเองค่ะ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !