ขวัญเอยขวัญมา พิธีส่อนขวัญ ประเพณีเรียกขวัญ ความเชื่อชาวอีสาน
"ขวัญเอยขวัญมา" ประโยคที่เรามักได้ยินผู้ใหญ่ใช้ปลอบโยนเด็กน้อยที่กำลังร้องไห้งอแง หรือถ้าโตขึ้นมาแล้ว พิธีสู่ขวัญก็เป็นหนึ่งในพิธีที่เราส่วนใหญ่จะรู้จัก และเคยผ่านกันมาบ้างสักครั้งในชีวิต โดยเฉพาะสำหรับผู้คนในแถบภาคอีสานแล้ว นับว่าเป็นหนึ่งในพิธีสำคัญที่แทบจะอยู่ในทุกๆ ช่วงชีวิตเลยทีเดียว
- มาแรง ยืน 1 ปาล์มมี่ ส่งเพลงใหม่ ขวัญเอยขวัญมา หวังเรียกขวัญคนไทย ลุยศรีสะเกษ เก็บภาพพิธีช้อนขวัญ
- เนื้อเพลง ขวัญเอยขวัญมา ปาล์มมี่ เพลงใหม่มาแรง 2020 MV ดีต้องดู (มีคลิป)
ที่มาของ "ขวัญ" สิ่งสำคัญในชีวิต
ก่อนจะเข้าสู่พิธี เรามารู้จักกับขวัญกันก่อนดีกว่า ตามความเชื่อของชาวไทยท้องถิ่นแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดมาพร้อมกับสิ่งที่เรียกว่าขวัญกันโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีมีชีวิตก็ตาม ซึ่งขวัญนี้ก็ไม่มีรูปร่างลักษณะให้เห็นเด่นชัด จับต้องไม่ได้ จะคอยตามติดตัวเจ้าของ คอยพิทักษ์รักษา และดูแลประคับประคองชีวิตไปตลอดจนหมดสิ้นอายุขัย ขวัญสามารถอยู่ตรงจุดไหนของร่างกายเราก็ได้ แต่เชื่อกันว่าจุดที่ขวัญมักจะอยู่มากที่สุด คือที่ตำแหน่ง "จอมขวัญ" หรือขวัญกลมๆ ตรงกลางหัวเรานั่นเอง
แม้จะอยู่กับเราตลอดเวลา แต่ขวัญก็สามารถหลบลี้หนีหน้า หายไปจากเราได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเด็กๆ ที่ขวัญมักตื่นเต้นตกใจง่าย และหนีกระเจิดกระเจิงไป จนหายตกใจก็จะกลับมาสู่ร่างอย่างเดิม จนกระทั่งเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ขวัญก็จะมีความมั่งคง มีสติอารมณ์ที่ดีขึ้นไปตามวัยของเจ้าของ
ทีนี้ก็ไม่ใช่ว่ายิ่งโตแล้วขวัญจะกล้าแกร่งเสมอไป บางคนเมื่อเจอเหตุสะเทือนใจทางอารมณ์มากๆ ไม่ว่าจะเพราะเจออุบัติเหตุ เจอเหตุการณ์ผิดหวังรุงแรงในชีวิต หรือเสียใจจากอะไรก็ตาม ขวัญก็สามารถหลุดหายไปได้เช่นกัน อันเป็นสาเหตุให้เกิดอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย หายจากอาการเจ็บป่วยช้า ใจเหม่อลอยไม่มีสติ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เรียกว่าอาการ "ขวัญหาย" และจำเป็นที่จะต้องจัดพิธีเรียกขวัญกลับมา อันเป็นที่มาของพิธีส่อนขวัญ นั่นเองครับ
อันที่จริงแล้วยังมีพิธีที่เกี่ยวข้องกับขวัญอีกมากมาย และมีเกือบจะทุกช่วงเวลาของชีวิตคน ไม่ว่าจะเป็นการทำขวัญแรกเกิด ทำขวัญเดือน โกนจุก ทำขวัญนาค งานแต่งงาน การสร้างบ้านปลูกเรือน การยกเสาเอก เป็นต้น ทั้งนี้ยังรวมไปถึงการทำขวัญของสัตว์ หรือสิ่งอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ชิดกับเราด้วย เช่นการทำขวัญวัว ควาย ช้าง ทำขวัญนา ขวัญข้าว ทำขวัญเสา ทำขวัญเรือน เป็นต้น
พิธีส่อนขวัญ เรียกขวัญกลับมา อย่าหายไปนาน
กลับมาที่เหตุการณ์ที่ว่า หากใครสักคนเกิดขวัญหายขึ้นมาจะทำอย่างไร ทางภาคอีสานเขาก็จะมีการทำพิธีส่อนขวัญ (ส่อน แปลว่า ตักขึ้น ช้อนขึ้น เรียกอีกอย่างว่า ซ้อนขวัญ ก็ได้) ขึ้น ซึ่งจัดเป็นธรรมเนียมท้องถิ่นที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาวล้านนา จะทำขึ้นในกรณีที่มีคนในครอบครัวหรือญาติพี่น้องเกิดอุบัติเหตุ หรือเรื่องสะเทือนใจบางอย่าง โดยต้องไปทำพิธี ณ บริเวณจุดเกิดเหตุ หรือที่คิดว่าขวัญเราไปตกอยู่ แล้วเชิญขวัญกลับไปอยู่กับเจ้าของร่างที่บ้าน ถึงจะทำให้อาการเจ็บไข้ได้ป่วยดีขึ้น หรือหายเป็นปกติ
อุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีส่อนขวัญ ประกอบด้วย
- สวิง หรือ หิง (อุปกรณ์สำหรับช้อนสัตว์น้ำขนาดเล็ก)
- กรวยดอกไม้สีขาว และเทียน 2 เล่ม
- อาหาร ขนม ผลไม้ และน้ำดื่ม
จากนั้น ผู้ทำพิธีจะนำกรวยดอกไม้ เทียน และกรวยใส่อาหารไปวางไว้ นำสวิงไปเดินช้อนขวัญบริเวณนั้น พร้อมกับพูดเชิญขวัญให้กลับมาที่บ้าน และที่สำคัญอีกอย่าง คือให้พาญาติสนิท สามี ภรรยา หรือลูกของคนที่เราไปเรียกขวัญไปด้วย ขวัญนั้นจะดีใจ และรีบกลับมาเมื่อเห็นญาติมาเรียก
พิธีสู่ขวัญ งานเรียกขวัญเพื่อเรียกกำลังใจ
เมื่อเทียบกับส่อนขวัญแล้ว พิธีสู่ขวัญดูจะเป็นอะไรที่เราคุ้นเคยกันมากกว่า เพราะยามที่ก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยก็ต้องผ่านพิธีนี้เป็นลำดับแรกๆ พิธีสู่ขวัญจะต่างกับส่อนขวัญตรงที่จะทำกันในสถานที่หนึ่งๆ และจะต้องมีการจัดบายศรี เป็นเครื่องเชิญขวัญด้วย
บายศรี ทำด้วยใบตอง รูปร่างคล้ายกระทงเป็นชั้น ๆ มีขนาดใหญ่เล็กสอบขึ้นไปตามลำดับ เป็น 3 ชั้น 5 ชั้น 7 ชั้น หรือ 9 ชั้น มีเสาปักตรงกลางเป็นแกน มีเครื่องสังเวยวางอยู่ในบายศรี และมีไข่ขวัญ (ไข่ต้ม) เสียบอยู่บนยอด มีการพันสายสิญจน์ไว้โดยรอบเพื่อใช้ผูกข้อมือผู้รับขวัญ โดยมีผู้นำทำพิธีเรียกว่า หมอขวัญ เชื่อว่าการสู่ขวัญช่วยทำให้เกิดมงคล มีความสุขราบรื่น มีโชคลาภ ช่วยให้มีขวัญ และกำลังใจที่ดีขึ้นนั่นเอง
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพิธีที่เกี่ยวข้องกับขวัญ จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายรูปแบบมาก ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สะท้อนความเชื่อของชาวไทยในสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี และสอนเราให้รู้ว่านอกจากร่างกายเราแล้ว ใจเราก็ต้องพร้อมควบคู่กันไปด้วย ถึงจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขครับ
====================
รวมที่เที่ยว ที่พัก อัพเดทเทรนด์ ฟินทั่วไทยและต่างประเทศ
อ่านง่าย สบายกว่าที่เคย! บนแอปพลิเคชัน ทรูไอดี