สาวอีสาวพลัดถิ่น พลัดมาไกลจนถึงแดนใต้ ในแต่ละปีกว่าจะได้กลับไปเจอญาติพี่น้อง พ่อแม่ มันชั่งยาวนานเหลือเกิน และทุก ๆ ปี ผู้เขียนจะเดินทางในช่วงเทศกาลเพื่อกลับไปเยี่ยมครอบครัวซึ่งระยะทางประมาณกว่า 1000 กิโลเมตร แต่ถึงจะไกลแค่ไหนก็ทนแรงคิดถึงไม่ได้ คิดถึงเฮือนเคยอยู่ คิดถึงอู่เคยนอน “อู่”เป็นภาษาอีสาน แปลว่า เปล ไม่ว่าจะไปอยู่ไหน จะอยู่ต่างแดน จะอยู่ต่างถิ่น สุดท้ายคนเราสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งเมื่อกลับบ้าน ชีวิตคนเราก็ต้องดิ้นรนกันไปต่างก็มีหน้าที่ ภาระครอบครัว แต่สิ่งที่ผู้เขียนไม่ลืมคือถิ่นกำเนิด บรรพบุรุษ ทุกครั้งที่ได้ยินเพลงของ ก้อง ห้วยไร่ มันช่างกินใจ “เกิดเป็นคนอีสาน เกิดเป็นคนอีสาน มีบุญมีงานก็ต้องมีหมอลำ มีลาบ มีก้อย มีจุ๊ซอยจำ ยังจดยังจำวิถีบ้านเฮา” ผู้เขียนร้องได้เท่านี้นะคะ อิอิ การกลับไปเยียมบ้านแต่ละครั้ง ไม่ลืมที่จะนำอาหารทะเลกลับไปฝากญาติ พี่น้อง เพราะอีสานบ้านเฮาไม่มีทะเลค่ะ ภาพถ่ายโดย ผู้เขียน และในครั้งนั้นผู้เขียนไปเยี่ยมบ้านเนื่องในเทศกาลวันปีใหม่ เมื่อสามปีที่แล้วและสิ่งที่ไม่พลาดอีกอย่างที่เวลากลับบ้านก็คือหาที่เที่ยวสิค่ะ ผู้เขียนและครอบครัวได้จองบ้านพักที่ภูฝอยลมเป็นสถานที่ที่ควรไปเชคอิน และไปเที่ยวมาก ๆ และอีกอย่างอยู่ไม่ไกลจากบ้านผู้เขียนมากนัก ภูฝอยลม ตั้งอยู่อำเภอหนองแสง จังหวัดอุดรธานี ลักษณะจะเป็นภูเขาขับเข้าเส้นอำเภอหนองแสงจากถนนเส้นหลักคือถนนมิตรภาพขับไปตามป้ายเรื่อย ๆ บรรยากาศข้างทางจะเต็มไปด้วยป่าอ้อย และมันสำปะหลัง เพราะเป็นพืชเศรษฐกิจของพี่น้องชาวอุดรธานี แนะนำว่าการเดินทางควรเป็นรถส่วนตัวค่ะ ส่วนถนนเป็นทางลาดยางตลอดสาย ถึงแม้จะมีแต่ป่าอ้อยป่ามันแต่ก็เจริญนะคะ เพราะ 7-11 เข้าถึงค่ะในวันที่ผู้เขียนเดินทางไปด้วยรถยนต์ส่วนตัว 3 คัน คือครอบครัวของผู้เขียนเป็นครอบครัวใหญ่ ญาติพี่น้องเยอะ เป็นครอบครัวที่อบอุ่นชอบความบันเทิง งานรื่นเริงสนุกสนาน ระยะทางขึ้นบนภูฝอยลม ขึ้นเขาลงเขาเล็กน้อย แต่ไม่หวาดเสียวไม่มีทางคดเคี้ยวมากเท่าไหร่พอเราไปถึง เราก็ติดต่อห้องพัก เราได้บ้านพักบ้านหลังใหญ่มีสามห้องนอน สองห้องน้ำมีเทอเรสให้เด็กๆได้วิ่ง ราคา 3,000บาท วันนั้นคนเยอะมาก แต่บ้านที่เราจองอยู่ใน private zone มาก ๆ ค่ะ บ้านหลังใหญ่ห่างไกลผู้คนเงียบสงบดูค่อนข้างวังเวงแต่ไม่มีอะไร เราแค่คิดไปเอง ฮ่าฮ่า วันที่เราเราไปคือวันที่ 31 ธันวาคม เราจะไปเคาว์ดาว์นกัน พอถึงที่พักน้อง ๆ และหลานก็จัดแจงเสบียง เตรียมปิ้งย่างเพราะไปถึงที่ภูฝอยลมเวลาประมาณ 16:00น. เริ่มก่อเตาไฟ เราก็ปิ้งย่างกัน ทั้งปลาหมึก กุ้ง หอย ปู ที่ผู้เขียนยกอาหารทะเลไว้ปิ้งย่างกันอย่าสนุกสนานในคืนข้ามปี บ้านแต่ละหลังก็มีเสียงร้องเพลงคาราโอเกะดังมาจากบ้านอื่น เสียงเพลงแนวเทคโนแดนซ์น่าจะเป็น ภาพถ่ายโดย ผู้เขียน กลุ่มวัยรุ่นจนกระทั่งเที่ยงคืนได้ยินเสียงคนนับ 5-1 แล้วก็ได้ยินเสียงปรบมือเราทุกคนมองหน้ากันแล้วพูดพร้อมกันว่า เรารอดแล้วรอดไปอีกปี เริ่มชีวิตใหม่ และหลังจากนั้นทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันเข้านอนฝันดีหลับลึกเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลและความอิ่ม และก่อนกลับเราก็เก็บปัดกวาดบ้านให้เรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน ภูฝอยลมมีลักษณะเด่น คือมีจุดถ่ายรูปสวย ๆ มีดอกไม้นานาชนิด มีพันธุ์ไม้สวย ๆ ทั้งไม้ดอกและไม้ประดับ มีสนามหญ้าสีเขียวกว้างมาก ๆ และที่สำคัญมีไร่สตรอเบอรรี่เราไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่กันแล้วอีสานบ้านเฮาก็มีถ้าใครมีโอกาสไปเที่ยวที่จะจังหวัดอุดรธานีขอแนะนำเลยค่ะ ภูฝอยลม ไปแล้วจะหลงรัก ผู้คนชาวบ้านในย่านนี้น่ารักมากค่ะ และอีกอย่างจะแนะนำคือส้มตำอร่อยมากกินกับไก่ย่างร้อน ข้าวเหนียวกระติ๊บใหญ่ ๆ กินจนต้องเอาสามล้อมาลากออกกันทีเดียวเชียวค่ะ ฮ่าฮ่า!!!!! อย่าลืมแวะพัก แวะเที่ยวกันนะคะแล้วจะบอก ฮักนะ ภูฝอยลม.... สำหรับวันนี้ผู้เขียนขอกลับไปทำหน้าที่ก่อนปีหน้าฟ้าใหม่ เรากลับมาเจอกันใหม่นะคะ อ่อ!ลืมบอกไปใครจะไปเที่ยวหรือพักค้างคืนให้โทรจองก่อนนะคะสามารถ search ใน google ได้ค่ะ และควรไปช่วงหน้าหนาวนะคะ อย่าไปหน้าร้อนนะคะเพราะอากาศเหมือนอยู่ทะเลทรายเลยค่ะ และการเดินทางก็เปิดgoogle map นำทางได้เลยค่ะ ผู้เขียนไปจริง ๆ แล้วนะคะ บ๊าย บาย ค่ะ ภาพถ่ายโดย ผู้เขียน เรื่อง โดย สาวภูธร