รีเซต

9 ที่เที่ยวยุโรป ล่าแสงเหนือ ผจญภัยสุดขอบฟ้า แสงสีสุดแฟนตาซี

9 ที่เที่ยวยุโรป ล่าแสงเหนือ ผจญภัยสุดขอบฟ้า แสงสีสุดแฟนตาซี
SummerB
23 ธันวาคม 2564 ( 22:00 )
1.4K

       แสงเหนือ ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มักพบได้จากประเทศแถบขั้วโลก เกิดเป็นลำแสงสีเขียว สีฟ้า และสีม่วงไล่เฉดไปตามท้องฟ้าในยามค่ำคืน ความงดงามราวโลกแห่งแฟนตาซีทำให้ใครๆ ก็อยากไปชมปรากฏการณ์อันน่าพิศวงนี้ให้เห็นกับตาสักครั้ง ตามเรามาที่ 9 ที่เที่ยวยุโรป ล่าแสงเหนือ ผจญภัยสู่ดินแดนที่มีเพียงขุนเขา ผืนป่า สายน้ำ และท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงสี เป็นประสบการณ์อันน่าประทับใจไม่รู้ลืม

 

พิกัด ล่าแสงเหนือ ยุโรป

ธรรมชาติสุดมหัศจรรย์

 

1. ทรอมโซ Tromso

นอร์เวย์ Norway

 

 

      ถ้าจะตามล่าหาแสงเหนือ นอร์เวย์ คือหนึ่งในประเทศที่ควรปักหมุดไว้ค่ะ เพราะที่นี่เปรียบเสมือนแหล่งรวมพิกัดล่าแสงเหนือเลยก็ว่าได้ เริ่มจาก ทรอมโซ (Tromso) เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของนอร์เวย์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการมาชม พระอาทิตย์เที่ยงคืน และ แสงเหนือ ตลอดช่วงเดือนกันยายนไปจนถึงเดือนเมษายนของทุกปี ไม่ว่าเราจะอยู่จุดไหนของเมือง หากเป็นช่วงฟ้าเปิด เราจะได้เห็นลำแสงสีเขียวทอแสงไปทั่วท้องฟ้าในยามค่ำคืน เป็นภาพที่งดงามเหนือคำบรรยายเลยค่ะ 

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ เที่ยว นอร์เวย์ 5 เมือง ล่าแสงเหนือ สุดมหัศจรรย์ ชาตินี้ต้องไปสักครั้ง !

 

Tromso นอร์เวย์ พิกัด ล่าแสงเหนือ ที่เที่ยวยุโรป

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/v1RtaT8LugwrrbHr8      

==========

 

2. หมู่เกาะโลโฟเทน Lofoten Islands

นอร์เวย์ Norway

 

 

       ยังคงอยู่ที่นอร์เวย์กันต่อกับ หมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten Islands) จุดหมายปลายทางของนักเดินทางที่หลงรักให้มนต์เสน่ห์ของแลนด์สเคปอันกว้างใหญ่ ที่ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่และหมู่บ้านชาวประมงสีแดง หรือที่เรียกว่า Rorbuer สัญลักษณ์ของโลโฟเทนนั่นเองค่ะ เราจะได้พบกับ หมู่บ้านออ (Å Village)หมู่บ้านไรเนอ (Reine)หมู่บ้านซากริซอย (Sakrisoy) และ หมู่บ้านฮัมนอย (Hannoy) ที่มาพร้อมกับทิวทัศน์ของแสงเหนือที่ทอดผ่านเบื้องหลังของเทือกเขาหิมะขนาดใหญ่ ตัดกับหมู่บ้านสีแดงริมน้ำได้อย่างลงตัว เป็นแลนด์มาร์คที่ต้องมาเก็บภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึก

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/uNk2uMos2zmW36vQ9 

==========

 

3. อบิสโก Abisko

Sweden

 

 

        ขึ้นชื่อว่าล่าแสงเหนือ ยังไงก็ต้องมาเยือน อุทยานแห่งชาติอบิสโก (Abisko National Park) ที่ตั้งอยู่ใน เมืองอบิสโก (Abisko) สวีเดน นอกจากจากจะได้ชมหัศจรรย์ธรรมชาติอย่างลำแสงออโรร่าสีสันสวยงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมกิจกรรมสุดเอ็กซ์สตรีมของคนรักธรรมชาติและชอบความท้าทาย เพลิดเพลินไปกับการเดินป่า ปีนเขา เล่นสกีหิมะ และนั่งรถลากเลื่อนสุนัข สัมผัสความหนาวเย็นให้เต็มที่กันเลย~

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/8rnMYc8g7fDj4YUx9 

==========

 

4. คิรูน่า Kiruna 

สวีเดน Sweden

 

Kiruna สวีเดน พิกัด ล่าแสงเหนือ ที่เที่ยวยุโรป

 

         คิรูน่า (Kiruna) เมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดของ Swedish Lapland ที่พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน เริ่มจากการไปเยี่ยมเยียน ชาวซามิ (Sami culture) ชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในแลปแลนด์มาเป็นเวลายาวนาน ที่อยู่อาศัยของพวกเขาก็คือกระโจมรูปสามเหลี่ยมที่ตั้งอยู่ท่ามกลางผืนดินที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันหนาวเหน็บ เมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็จะพบกับแสงเหนือที่เต้นระบำไล่สีไปพร้อมกับแสงดาวริยิบระยับ ต่อด้วยการไปทักทายกวางเรนเดียร์ที่ชาวซามิเลี้ยงเอาไว้ และนั่งรถลากเลื่อนด้วยกวางเรนเดียร์

 

 

      ความสนุกยังไม่หมดเพียงเท่านี้ หากเดินทางออกไปยังเมือง Jukkasjärvi ที่อยู่ใกล้ๆ กับคิรูน่า ลองไปนอนที่โรงแรมน้ำแข็ง หรือ ICEHOTEL ดูค่ะ เป็นโรงแรมที่ทำด้วยน้ำแข็งจาก แม่น้ำ Torne (Torne River) ในช่วงฤดูหนาว เรียกว่าเป็นการเปิดประสบการณ์การพักผ่อนและท่องเที่ยวที่เก๋ไก๋และไม่เหมือนใครสุๆ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/GsYazZEPaJt2RGPW9 

==========

 

5. แลปแลนด์

ฟินแลนด์ Finland

 

 

       เที่ยว แลปแลนด์ (Lapland) ในเขตของสวีเดนมาแล้ว เรามาเที่ยวแลปแลนด์ในเขตประเทศฟินแลนด์กันบ้าง ที่นี่เป็นพื้นที่อันโล่งกว้าง เต็มไปด้วยป่าสน และผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ เมื่อเข้าสู่ยามค่ำคืนเราจะได้ชมแสงเหนือแสนสวยส่องแสงไปทั่วท้องฟ้า 

 

 

      นอกจากแสงเหนือแล้ว แลปแลนด์ยังเป็นที่ตั้งของ โรวาเนียมี (Rovaniemi) หมู่บ้านซานตาคลอส หรือ บ้านเกิดของลุงซานต้า ที่มีบรรยากาศเหมือนหมูบ้านซานตาคลอสที่จินตนาการเอาไว้ทุกประการ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของทุกปี เราจะได้มีโอกาสไปชมบ้านของคุณลุงซานต้าและที่ทำงานของเขา รวมถึงพิพิธภัณฑ์ของเล่นให้พวกเราได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสุดน่ารักของหมู่บ้านแห่งนี้

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ หมู่บ้านซานตาคลอส Santa Claus Village ที่ ฟินแลนด์ ดินแดนแห่งความฝันที่มีจริง

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/7mkpMWsc6xRCzxmh8

==========

 

6. คาคสเลาท์ทาแนน อาร์กติก รีสอร์ท Kakslauttanen Arctic Resort

ฟินแลนด์ Finland

 

 

      นอนชมแสงเหนือเกร๋ๆ ในกระท่อมน้ำแข็งเรือนกระจก หรือ Grass Igloo ที่ คาคสเลาท์ทาแนน อาร์กติก รีสอร์ท (Kakslauttanen Arctic Resort) รีสอร์ทที่ตั้งอยู่ใน เมืองซาริเซลกา (Saariselka) และเป็นรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงที่สุดในการชมแสงเหนือสวยๆ ท่ามกลางธรรมชาติและแผ่นฟ้าอันกว้างใหญ่ ใครที่อยากนอนชมแสงเหนือสวยๆ กับแฟน ต้องมาที่นี่เลยค่ะ บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/uFDFmxGrwB1mnEi26 

==========

 

7. หมู่เกาะแฟโร Faroe Islands

เดนมาร์ก Denmark

 

 

      มาเที่ยวเดนมาร์กแล้วก็ต้องข้ามไป หมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) หมู่เกาะทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อชมแสงเหนือระหว่างเดือนสิงหาคม-เดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งจุดที่ชมแสงเหนือและทิวทัศน์ที่สวยปังและมีชื่อเสียงที่สุดก็คือ น้ำตกมูลาฟอสเซอร์ (Múlafossur Waterfall) น้ำตกสวย แลนด์มาร์คของหมู่เกาะแฟโรที่ล้อมรอบไปด้วยหินผาขนาดใหญ่ และท้องทะเล วิวปังอลังการทั้งยามกลางวันและกลางคืน ต้องไปชมให้เห็นกับตาสักครั้ง

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/XFE4LQXRj1vPjhJt5 

==========

 

8. อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ Thingvellir National Park

ไอซ์แลนด์ Iceland

 

 

      จริงๆ แล้วแค่อยู่ในไอซ์แลนด์ก็สามารถมองเห็นแสงเหนือได้จากทุกมุมแล้วค่ะ แต่ถ้าถามถึงจุดที่ชมแสงเหนือได้สวยที่สุดก็ต้องเป็น อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกถัดจากเมือง Reykjavík เมืองหลวงของไฮซ์แลนด์ เป็นอุทยานฯ ที่มีทั้งที่เที่ยวธรรมชาติและโบราณสถาน อย่างเช่น Alþing (Althing) ที่เคยใช้เป็นรัฐสภาของไอซ์แลนด์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ถึง 18 และ โบสถ์ Þingvellir Church หากใครอยากชมธรรมชาติพร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไอซ์แลนด์ก็ต้องมาที่นี่เลยค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/77ApJDZizRKejhBH9 

==========

 

9. เมืองมูร์มันสค์ Murmansk

รัสเซีย Russia

 

Parilov / Shutterstock.com

 

      ฝ่าฟันความหนาวสุดขั้วมาจนถึง เมืองมูร์มันสค์ (Murmansk) เมืองท่าของรัสเซียที่ตั้งอยู่บนเนินเขาทั้งสองแห่งริม อ่าว Kola Bay และตั้งอยู่ในเขตของยุโรป เป็นจุดที่สามารถชมแสงเหนือได้แม้จะอยู่ในเมืองก็ตาม อีกทั้งยังจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่าง โบสถ์ Savior on Water และ เรือเลนิน (Lenin Nuclear Icebreaker) เรือตัดน้ำแข็งพลังนิวเคลียร์ลำแรกของโลกที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1957 เรียกว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของเมืองเลยค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/tqXqxnzcEspzPeHo8 

 

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่พักสวย
แชร์ทริปสุดชิล โพสต์ภาพสุดปัง ของคุณได้แล้วที่ แอปทรูไอดี
คลิกเลย >> TrueID Travel Community <<