จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่เราไปบ่อยมาก น่าจะประมาณ 5 รอบได้ ไม่รวมครั้งนี้ แต่ว่ารอบนี้ไม่เหมือนรอบอื่นๆ เพราะเราจะลองนั่ง รถไฟสายน้ำตก ขบวนรถพิเศษนำเที่ยว 909/910 กรุงเทพฯ-น้ำตก ขบวนรถไฟที่ขึ้นชื่อว่าเต็มเร็วมากในทุกรอบที่เปิดให้จอง ซึ่งทริปนี้เราได้ทำการจองตั๋วล่วงหน้าก่อนวันเดินทางประมาณ 2 อาทิตย์ ผ่านทางเว็บไซต์ D-Ticket ของการรถไฟแห่งประเทศไทยสำหรับรถไฟสายน้ำตก ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวนั้นจะมีตั๋วให้เลือก 2 แบบ นั่นคือ🚈รถไฟชั้น 3 พัดลม ราคาไป-กลับ 120 บาท💨- แนะนำสำหรับใครที่ชอบดูวิว หรืออยากได้รูปสวยๆ โดยเฉพาะจังหวะที่รถไฟวิ่งบนรางรถไฟสายมรณะ เพราะสามารถชะโงกกหน้าออกไปถ่ายรูปได้ แต่จะร้อนมากยิ่งถ้าไปหน้าร้อนคือที่สุด!! และถ้าใครเป็นคนที่ขายาวอาจจะไม่นั่งค่อยไม่สบายนิดนึง🚈รถไฟชั้น 2 ปรับอากาศ ราคาไป-กลับ 240 บาท💨- แนะนำสำหรับสายรักสบายแบบเรา แอร์เย็นสบาย ขบวนรถไฟสะอาด แต่จะถ่ายรูปได้ไม่ค่อยสวยเพราะจะติดเงาสะท้อนจากกระจก และถ้าอยากถ่ายรูปตรงจังหวะที่รถไฟวิ่งบนรางรถไฟสายมรณะอาจจะต้องวิ่งไปขบวนรถไฟชั้น 3 แต่ถึงอย่างนั้นก็น่าจะไม่มีที่ให้เราแทรกตัวได้เมื่อถึงวันเดินทาง เรามาถึงที่สถานีรถไฟหัวลำโพงประมาณตีห้า โดยกำหนดการเดินทางคือรถไฟนำเที่ยวสายน้ำตกจะออกจากสถานีหัวลำโพงในเวลา 06:30 น. ระหว่างรอเราก็ไปซื้อกาแฟ และเข้าไปเดินชมหัวรถจักรรุ่นต่างๆด้านในสถานี ที่ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้นำมาจัดแสดงอาทิ รถจักรไอน้ำ เลขที่ 165 (E Class) รถจักรดีเซลไฟฟ้า หมายเลข 512 (ดาเวนปอร์ต 500 แรงม้า) และ รถจักรไอน้ำ เลขที่ 287 เป็นต้น อีกทั้งยังได้มีโอกาสยลโฉมรถไฟ KIHA 183 อีกด้วย และพอใกล้ถึงเวลา 06:30 น. เจ้าหน้าที่ที่สถานีก็จะประกาศเรียกให้ขึ้นรถไฟซึ่งรถไฟออกตรงเวลามาก เพราะต้องแวะรับผู้โดยสารที่สถานที่อื่นๆ เพื่อมุ่งหน้าสู่สถานีนครปฐมจุดแวะเที่ยวจุดแรก สำหรับใครที่หิวข้าว ก่อนถึงสถานีนครปฐม เจ้าหน้าที่รถไฟจะมารับออเดอร์ข้าวจากเรา ซึ่งเมนูที่ให้เลือกทานก็จะเป็นเมนูขึ้นชื่อจากร้านดังของจังหวัดนครปฐม นั่นคือ ข้าวหมูแดง ข้าวเหนียวไก่ทอด และข้าวราดแกง แนะนำให้สั่งกับเจ้าหน้าที่เลย เพราะถ้าเราไปต่อคิวซื้อเองน่าจะกลับมาไม่ทันรถไฟในที่สุดเราก็มาถึงจุดแวะเที่ยวจุดแรก สถานีนครปฐม ในจุดนี้จะมีเวลาให้เราเดินเที่ยวตลาดเช้า ซื้อของทานเล่น และไหว้พระปฐมเจดีย์ ประมาณ 40 นาที หลังจากนั้นเราก็มุ่งสู่จุดแวะเที่ยวที่สอง สถานีสะพานแควใหญ่ โดยระหว่างเดินทาง ใครที่สั่งออเดอร์อาหารไว้ ทางเจ้าหน้าที่จะเริ่มทยอยแจกให้ ซึ่งเราสั่งเป็นข้าวหมูแดงมา รสชาติอร่อย คุ้มราคาหลังจากทานข้าวเสร็จก็นั่งชมวิวข้างทางไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึง สถานีสะพานแควใหญ่ จุดแวะเที่ยวจุดสอง ในจุดนี้เราจะได้พบกับวิวของสะพานข้ามแม่น้ำแคว หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย และมีจุดที่ให้เราถ่ายรูปสวยๆเพียบ ถ้าใคนอยากถ่ายรูปรถไฟ แนะนำให้ถ่ายตรงสถานีนี้เลย รูปสวยมากคำเตือน อย่าถ่ายรูปเพลินจนลืมขึ้นรถไฟ ซึ่งก่อนที่รถไฟจะออกจากกสถานี เจ้าหน้าที่จะทำเสียงหวีด เพื่อแจ้งเตือนให้เรารีบกลับขึ้นรถไฟ เพื่อมุ่งหน้าสู่เส้นทางรถไฟสายมรณะ และสถานีถ้ำกระแซในระหว่างที่รถไฟกำลังวิ่งข้ามผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแคว ด้านขวามือเราก็จะพบกับองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่ประดิษฐานอยู่ ณ มูลนิธิกวนอิมสุนทรธรรม สามารถกราบขอพรจากบนรถไฟกันได้เลย สาธุ~และต่อมาเราก็จะมุ่งหน้าสู่จุดไฮไลท์ต่อไปของทริปนี้ นั่นคือ เส้นทางรถไฟสายมรณะ โดยขบวนรถไฟจะค่อยๆเคลื่อนตัว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปโค้งสวยๆกัน สำหรับคนที่นั่งรถไฟชั้น 3 สามารถชะโงกหน้าออกไปถ่ายวิวสวยๆได้เลยจุดต่อไป สถานีถ้ำกระแซ จุดนี้ทางเจ้าหน้าที่จะบอกให้เราสามารถยื่นมือไปแตะตัวถ้ำเพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ ณ ถ้ำแห่งนี้ แต่เสียดายที่เรานั่งรถไฟชั้น 2 จึงไม่สามารถเปิดหน้าต่างออกแตะได้ เลยทำได้แค่เพียงพนมมือกราบไหว้ขอพรแทนในส่วนของสถานีถ้ำกระแซ จะไม่ได้จอดให้เราลงไปกราบสักการะหลวงพ่อถ้ำกระแซ จะจอดเพียงแค่รับ-ส่งผู้โดยสารเท่านััน เพื่อมุ่งหน้าสู่สถานีปลายทางอย่าง สถานีน้ำตก โดยขบวนที่เราไปรถไฟไม่สามารถขับเข้าไปจอดยัง สถานีน้ำตกไทรโยคน้อย ได้ จึงทำให้ต้องต่อรถสองแถวเข้าไปยังน้ำตกไทรโยคน้อย ราคาไป-กลับ 40 บาทเมื่อมาถึงน้ำตกไทรโยคน้อย สิ่งแรกที่ทำคือหาร้านข้าว ซึ่งเราได้ไปเจอร้านนึงชื่อ ครัวกัลยา ไทรโยค อยู่ตรงทางเข้าน้ำตกพอดี ร้านให้เยอะมาก อร่อยและราคาไม่แพง มื้อนี้หมดไป 910 บาท ได้ทั้งปลาทอดกระเทียม ยำคอหมูย่าง ไข่เจียว ต้มยำ และเมนูเด็ดของร้านอย่าง ไก่ย่างไม้กระถินหลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินเข้าไปยังน้ำตกไทรโยคน้อยเพื่อเล่นน้ำ พักผ่อน ชมธรรมชาติ ซึ่่งสำหรับน้ำตกแห่่งนี้ทางอุทยานเปิดให้เข้าฟรี ไม่เสียค่าจ่าย โดยจุดนี้เราจใช้เวลาอยู่ที่น้ำตกประมาณ 3 ชั่วโมง และเมื่อใกล้ถึงเวลาลุงๆรถสองแถวก็จะมาจอดรอรับเรากลับไปยัง สถานีน้ำตก เพื่อขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพโดยขากลับรถไฟจะแวะจอดอีกหนึ่งจุดให้เราได้ลงเที่ยว ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่กรุงเทพยาวๆ นั่นคือ สถานีกาญจนบุรี ตรงสถานีนี้เราสามารถนั่งรถสองแถว ไป-กลับ 10 บาท เพื่่อเดินทางไปเยี่ยมชม สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก หลังจากเยี่ยมชมเสร็จเรียบร้อย ก็กลับมายังรถไฟเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพสำหรับใครที่อยากซื้อของฝาก นอกจากจะซื้อตรงกน้ำตกไทรโยคน้อยแล้ว เราสามารถซื้อได้กับทางเจ้าหน้าที่รถไฟ โดยระหว่างการเดินทางขาไปน้ำตก ทางเจ้าหน้าที่จะมารับออเดอร์ของฝากจากเรา ซึ่งแนะนำของฝากที่จะต้องซื้อกลับไปฝากที่บ้านเลย นั้นคือ ขนมเทียนแก้ว ขนมโบราณหากินยาก หน้าตาเหมือนขนมเทียนเลย แต่แป้งของขนมเทียนแก้วจะใสกว่า ใสแบบเห็นไส้ที่อยู่ด้านในเลยหากใครที่อยากหาทริปเที่ยวสั้นๆ One Day Trip ไม่ต้องคิดแพลนเที่ยวให้ปวดหัว ลองมานั่ง รถไฟสายน้ำตก ขบวนรถพิเศษนำเที่ยว กันเถอะ ซึ่งขบวนรถพิเศษนำเที่ยวสาย 909/910 กรุงเทพฯ-น้ำตก ทางการรถไฟแห่งประเทศจะเปิดเดินเที่ยวรถไฟในทุกวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ ตลอดทั้งปี แนะนำให้มาลองเช็คข่าวสารเพิ่มเติม : ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทยภาพถ่ายและปรับแต่งภาพโดย SasisDiary ผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !