เมื่อช่วงเกือบปลายปีที่ผ่านมาผู้เขียนได้มีโอกาสไปเที่ยวที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ท่ามกลางภูเขารายล้อม บรรยากาศก็ดีเกือบทั้งปี โดยเป้าหมายจริง ๆ ที่ผู้เขียนจะไป คือ ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นที่รู้จักกันดีของคนในพื้นที่ ระหว่างการเดินทางไปเบตงนั้น พวกเราก็แวะเที่ยวชม ถ่ายภาพตามข้างทาง เช่น สะพานข้ามทะเลสาปฮาลา-บาลา ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมไปยังอำเภอเบตง บรรยากาศรอบ ๆ ก็เหมือนกับสะพานทั่วไปมีน้ำ มีภูเขา พวกเราหยุดถ่ายภาพที่นั้นสักพักก็เตรียมเดินทางกันต่อ ซึ่งหลังข้ามสะพานไปแล้วนั้นทางก็จะเริ่มคดเคี้ยวตลอด จนใคร ๆ ที่ไปเบตงแล้วไม่อาเจียนกับทางนี่ถือว่าไปไม่ถึงเบตงเลยก็ว่าได้ พวกเราก็เช่นกันค่ะเริ่มมีอาการจะเมารถ แต่ พวกเราก็รีบพากันหลับตลอดทางเพื่อไม่ให้อาเจียนออกมาและแล้วพวกเราก็ทำสำเร็จค่ะ ไม่มีใครอาเจียนสักคน พอเริ่มเข้าถึงเขตอำเภอเบตง ฝนก็เริ่มจะไล่หลังพวกเรามาแล้วล่ะค่ะ พวกเราก็ได้แวะเที่ยวชมจุดชมวิวเมืองเบตงสตรีทอาร์ทเมืองเบตงและสถานที่ยอดนิยมที่ใครไปก็ต้องแวะเก็บภาพ คือ อุโมงค์เบตงนั่นเองค่ะ เป็นอุโมงค์ที่สวยเพราะประดับไฟตลอดทาง จึงทำให้นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะคนไทยหรือคนต่างชาติเองก็พากันไปถ่ายภาพ หลังจากเที่ยวชมในเมืองเสร็จแล้วนั้น เวลาก็เริ่มพลบค่ำพอดี พวกเราจึงพากันเข้าที่พัก ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินทางพอสมควร หลังจากที่พวกเราเดินทางออกจากตัวเมืองถนนหนทางก็เริ่มมืดลง พวกเราเดินทางกันยามค่ำคืนพร้อมกับหนทางที่คดเคี้ยวเช่นเดิม ระหว่างทางไปที่พักก็มืดลงทุกที เพราะที่พักนั้นอยู่ห่างจากตัวเมืองค่อนข้างมาก ซึ่งคนขับรถที่เช่ารถไปก็เป็นคนใจดีมาก ๆ จะพาพวกเราไปพักที่บ้านญาติ ซึ่งใกล้กว่าที่พักเรา แต่ด้วยความเกรงใจเลยตัดสินใจจะพักที่พักที่จองไว้แล้ว พวกเราก็นั่งรถมาพักหนึ่งก็ถึงที่พัก ซึ่งนาทีแรกที่ไปถึง พวกเราก็คุยกันว่าที่นี่จริง ๆ ใช่ไหม คือ ทุกอย่างที่นั่นมืดไปหมด ไม่มีแม่แต่คนที่มาต้อนรับ เพื่อนเลยโทรหาเจ้าของที่พัก เขาก็ให้พวกเราเข้าไปพักได้เลย บ้านหลังใหญ่ ๆ เขาเปิดไว้ให้แล้ว พวกเราก็งง ๆ นะคะ ที่พักไม่เหมือนกับที่อื่น ๆ ที่เราเคยพัก แต่ก็ไม่รอช้า พวกเราพากันเข้าไปในบ้านพักและเคลียร์ตัวเองเสร็จก็พากันมาทำอาหารกินข้างนอก ซึ่งเขาจะมีครัวส่วนกลางไว้ให้ พวกเราก็นั่งเฮฮากันไปเรื่อย ๆ แล้วเจ้าของที่พักก็แวะเวียนมาดูแล อำนวยความสะดวกให้พวกเรา พวกเรานั่งกินกันจนเวลาเลยไปเกือบจะเที่ยงคืน จึงพากันเก็บของและแยกย้ายไปอาบน้ำนอน เพราะรุ่งเช้าเราต้องรีบตื่นเพื่อขึ้นไปดูหมอกและดวงอาทิตย์ขึ้น สำหรับคืนแรกกลางหุบเขาก็ผ่านไปด้วยดี เช้าวันรุ่งขึ้น นาฬิกาปลุกของทุกคนก็ดังขึ้นไล่ ๆ กัน แต่ ทุกคนคงจะเพลียเลยไม่มีใครลุกขึ้นมา ตัวผู้เขียนเองรีบลุกขึ้นเพื่อจะได้รีบอาบน้ำแต่งตัว จะได้ไม่ต้องแย่งกับเพื่อน ๆ พอเสร็จทุกคนก็ทยอยตื่นทีละคน สองคน จนเวลาประมาณ 05.30 น. คนขับรถก็สตาร์ทรถรออยู่ด้านนอก พวกเราแต่งตัวเสร็จก็พากันเก็บของขึ้นรถและออกเดินทางขึ้นไปบนเขา เพื่อดูหมอกยามเช้า พอขึ้นไปถึงคนก็ทยอยไปบนยอดเพื่อดูหมอกกันอย่างหนาแน่น พวกเราไปถึงข้างบนก็เริ่มเห็นหมอกลาง ๆ จนถึงเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นทำให้เห็นหมอกได้ชัดเจน ซึ่งหมอกตรงหน้านั้นหนามากและสวยงามมาก ไม่ต้องไปถึงภาคเหนือเลยค่ะ เพราะปลายด้ามขวานก็มีสถานที่สวยงามให้เราได้ชมกัน หลังจากที่พวกเราชมหมอก ถ่ายภาพแล้วนั้นก็พากันลงมาด้านล่าง มาทานอาหารเช้า ซึ่งบรรยากาศก็เหมือนอยู่ภาคเหนือเลยค่ะ นั่งทานอาหารเช้าท่ามกลางสายหมอก หมอกที่นี่จะเริ่มจางตอนประมาณ 09.00 น.นะคะ เมื่อพวกเราอิ่มท้องก็พากันเดินทางกลับปัตตานี โดยใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงนะคะ สำหรับทริปดูหมอกก็จบเพียงเท่านี้และอยากเชิญชวนนะคะ ใครที่อยากลงทาเที่ยวปลายด้ามขวาน ขอแนะนำที่เบตงเลยนะคะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ภาพถ่ายโดย : Little girl (ผู้เขียน)