ในช่วงปลายปีอย่างนี้ หากยังไม่รู้จะไปท่องเที่ยวที่ไหน เราขอแนะนำ ปางอุ๋ง อีกหนึ่งไฮไลท์ช่วงหน้าหนาวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ เพราะนอกจากที่นี้จะเป็นสถานที่ที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศของธรรมชาติ ป่าเขาแล้ว ยังมีทะเลหมอกยามเช้า พร้อมได้สัมผัสลมหนาวจากภาคเหนือ อีกด้วย โดย ปางอุ๋ง มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "โครงการสวนป่าพระราชดำนิปางตอง 2" ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นพระราชดำริของพระบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์เพื่อที่จะฟื้นฟูอนุรักษ์ป่าไม้ และระบบนิเวศของอ่างเก็บน้ำป่าตองและผาปางอุ๋ง ให้กลับมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกครั้ง ความน่าสนใจของ ปางอุ๋ง คือลักษณะของพื้นที่เป็น อ่างเก็บน้ำ ที่ตั้งอยู่บริเวณยอดเขาสูง ซึ่งนอกจากเราจะได้สัมผัสบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยป่าไม้ แล้ว เรายังจะได้เห็นบรรยากาศของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีวิวทิวทัศน์ของภูเขาอยู่ด้านหลัง โดยกิจกรรมยอดฮิตของคนที่มาที่นี่คือ การล่องแพ เพื่อชมทัศนียภาพที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติทั้งสองข้างทาง พร้อมดื่มด่ำสายหมอก ที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้นไปอีก หรือหากใครที่เป็นสายผจญภัยที่ ปางอุ๋ง ก็มีเส้นทางให้ได้เดินป่าด้วยเช่นกัน โดยจะมีเส้นทางเดินป่าผาน้ำหยด ที่จะเป็นเส้นทางที่ให้เราได้ลัดเลาะเส้นทางอ่างเก็บน้ำ เพื่อขึ้นไปยัง ผาน้ำหยด ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของที่นี่ แต่ไฮไลท์สำคัญที่ทำให้ ปางอุ๋ง ถูกยกย่องให้เป็น สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย คือการได้ชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นยามเข้าของที่้นี่ เพราะนอกจากที่เราจะได้ตื่นชึ้นมาสมผัสลมหนาวแล้ว เรายังจะได้เห็นแสงพระอาทิตย์สะท้อนลงบนผืนน้ำ ที่มีทะเลหมอก ลอยอยู่ด้านบน เรียกได้ว่าเป็นวิวธรรมชาติที่ทั้งงดงาม ตระการตา และยากจะหาได้ชม หรือจะนอนดูดาวในยามค่ำคืน ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่งดงาม และโรแมนติก ไม่แพ้กัน สำหรับใครที่สนใจจะมาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติของปางอุ๋ง ขอแนะนำให้มาพักแบบค้างคืนจะดีที่สุด ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะนำเต้นมาเอง หรือจะเช่าจากทางอุทยานก็ได้ โดยราคาสำหรับคนที่นำเต้นมาเองจะอยู่ที่หลังละ 100 บาท ยืมเต้นจากอุทยานจะเริ่มต้นที่ราคา 400 บาท หรือหากใครที่ชื่นชอบความสะดวกสบายหน่อย ทางอุทยานก็มีบ้านพักคอยให้บริการเช่นกัน ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://pixels.com/