จังหวัดอยุธยา จัดว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีเรื่องราวอารยธรรมต่าง ๆ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยเหล่านั้นจนมาถึงทุกวันนี้ เพื่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ศึกษาหาความรู้ และได้ท่องเที่ยวย้อนเวลากลับไปในอดีตได้อีกครั้ง ซึ่งในวันนี้หนึ่งในสถานที่ของจังหวัดอยุธยาที่ผมจะพาไป เป็นเพียงวัดเล็ก ๆ ที่มีพระภิกษุดูแลอยู่ไม่กี่รูป นั่นก็คือวัดประดู่ทรงธรรม ซึ่งตั้งอยู่ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยานี่เองครับ ซึ่งการเดินทางนั้นสามารถมาได้ไม่ยากเลย ระยะทางจากกรุงเทพฯมายังวัดแห่งนี้เพียงไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น ถ้าเพื่อน ๆ พร้อมแล้วผมจะพาเข้าไปด้านในกันเลยนะครับ วัดประดู่ทรงธรรมหรือวัดประดู่โรงธรรม ถูกสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเมือง แต่เดิมนั้นวัดแห่งนี้เกิดจากการรวมตัวของวัดโบราณ 2 วัดก็คือ วัดประดู่ และ วัดโรงทาน(วัดโรงธรรม) ซึ่งในอดีตกาลวัดประดู่ถูกกล่าวถึงในคราวที่พระภิกษุแห่งวัดประดู่ได้ช่วยเหลือสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม หนีรอดจากการก่อกบฏของญี่ปุ่นที่หมายปลงพระชนม์ ใกล้เคียงกันนั้นจะมีวัดโรงทานอยู่ด้วย ซึ่งต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ตั้งชื่อรวมทั้ง 2 วัดเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นวัดประดู่ทรงธรรมมาจนปัจจุบันนี้ เมื่อเข้ามาเพื่อน ๆ จะพบกับพื้นที่จอดรถที่กว้างขวาง บริเวณที่จอดรถจะมีหลังคาขนาดใหญ่เพื่อป้องกันแสงแดดและน้ำฝน หลังจากจอดรถแล้วเดินเข้ามาบริเวณด้านในวัด สิ่งแรกที่ผมเห็นก็คือต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ที่มองมาแล้วให้ความรู้สึกที่เงียบสงบ ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน มีเพียงเสียงของนกที่ร้องแซ่ซ้องอยู่บริเวณภายในวัดแห่งนี้ นี่ก็คืออีกหนึ่งความประทับใจที่ผมนั้นพบเมื่อเดินเข้ามาภายในวัด เมื่อเดินเข้ามาด้านในอีกเล็กน้อยจะพบกับพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เพื่อน ๆ สามารถกราบไหว้บูชาได้จากจุดนี้เลยนะครับ ซึ่งบริเวณทางเข้าไปยังพระอุโบสถ จะมีดอกไม้ธูปเทียนไว้ให้เพื่อน ๆ ได้บูชา ในวัดแห่งนี้จะไม่บังคับให้เพื่อน ๆ หยอดเงินเข้าตู้บริจาค เพราะทางวัดอยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้มาทำบุญด้วยใจ และมาเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมที่ยังคงสมบูรณ์อยู่มาจนปัจจุบัน แต่ถ้าเพื่อน ๆ จะทำบุญตามกำลังศรัทธาก็ตามสะดวกนะครับ ภายในวิหารจะเป็นที่ประดิษฐานของพระพระพุทธรูปในสมัยกรุงศรีอยุธยาอยู่หลายองค์ด้วยกัน และบริเวณด้านล่างรูปที่ 3 จากซ้ายมือนั่นก็คือหลวงพ่อรอด หรือหลวงพ่อเสือนั่นเองนะครับ ซึ่งหลวงพ่อเสือนั้นเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดประดู่ทรงธรรมนั่นเองครับ ซึ่งชาวบ้านต่างก็ให้ความเคารพนับถือในตัวของท่านตราบจนทุกวันนี้ เมื่อหันหลังกลับไปบริเวณประตูทางเข้า ด้านในวิหารแห่งนี้ เพื่อน ๆ จะพบกับภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ ซึ่งดูแล้วจะมีอายุอยู่มากพอสมควร เพราะบางส่วนของภาพนั้นได้ลบเลือนหายไปตามกาลเวลา ซึ่งภาพเขียนบนฝาผนังแห่งนี้ เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยจากข้อมูลของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมนั้นกล่าวไว้ว่า ภาพเขียนเหล่านี้ถูกสั่งให้เขียนขึ้นโดยพระยาโบราณราชธานินทร์ โดยสั่งให้ช่างคัดลอกจิตรกรรมฝาผนังจากวัดยม ลงบนสมุดข่อยแล้วนำมาเขียนลงในผนังของวิหารวัดประดู่ทรงธรรม เป็นภาพสีเรื่องราวไตรภูมิ เทพชุมนุม พุทธประวัติทศชาติชาดก ขบวนช้าง ภาพการละเล่นต่าง ๆ และภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ซึ่งปัจจุบันนี้สมุดเล่มที่คัดลอกภาพมาจากวัดยมนั้น ถูกเก็บรักษาอยู่ที่หอสมุดแห่งชาติ ซึ่งภาพจิตรกรรมฝาผนังถูกสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2405 โดยกรมพระยาพิทักษ์เทเวศร์และพระพุทธสร ภาพเขียนเหล่านี้บ่งบอกเรื่องราวต่าง ๆ ได้มากมาย โดยบางส่วนนั้นยังมีสภาพที่สมบูรณ์อยู่ เมื่อผมมองลึกลงไปที่ภาพเหล่านั้น ทำให้ผมได้รู้ว่ามนุษย์เรามีการจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ มาอย่างยาวนาน การเขียนบทความของผมในวันนี้ ก็อาจจะเป็นการบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ในยุคสมัยนี้ ให้กับชนรุ่นหลังในอีกหลายร้อยปีข้างหน้าได้รับทราบเช่นกัน บริเวณภายในวิหารแห่งนี้ บนหลังคาถูกสร้างด้วยไม้ จึงทำให้บางส่วนนั้นเริ่มมีการผุพังไปตามกาลเวลา แต่เพื่อน ๆ ก็สามารถช่วยกันอนุรักษ์วัดแห่งนี้เอาไว้ได้เช่นกันนะครับ แค่เพียงเข้ามาเยี่ยมชมอย่างสุภาพ ไม่ขีดเขียนฝาผนัง ไม่หยิบของต่าง ๆ ที่สัดติดตัวไปด้วย เพียงเท่านี้ก็เป็นการเที่ยวอย่างมีคุณภาพแล้วครับ บริเวณด้านนอกวิหารจะมีพระพุทธรูปและซากปรักหักพัง ของวัดในอดีตกาลที่ยังหลงเหลืออีกอยู่มากมาย เพื่อน ๆ สามารถเดินชมและถ่ายรูปได้อีกหลายมุมเลยนะครับ แต่ช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะลงพื้นนะครับ เพราะที่วัดแห่งนี้ มีพระภิกษุดูแลอยู่ไม่มาก อาจจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับท่านก็ได้ เป็นอย่างไรบ้างครับกลับวัดประดู่ทรงธรรม สถานที่เล็ก ๆ ในจังหวัดอยุธยา ที่เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะยังไม่เคยมา ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนอยากจะลองมาถ่ายรูป และมากราบไหว้บูชาหรือจะนำสังฆทานมาถวายพระภิกษุที่วัดแห่งนี้ ก็เดินทางกันมาได้นะครับ ใช้เวลาไม่นานจากกรุงเทพฯ หรือเพื่อน ๆ จากต่างจังหวัด จะเข้ามาชมทางวัดก็ยินดีต้อนรับนะครับ ผมหวังว่าทริปนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อน ๆ นะครับ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ ที่ตั้ง : ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000 เวลาทำการ : เปิดทำการทุกวัน แผนที่นำทาง : https://goo.gl/maps/sz7f6TAVoZSWvgrs9 วัดเล็ก ๆ แต่ประวัติศาสตร์นั้นยิ่งใหญ่ ขอเชิญเพื่อน ๆ มาเที่ยวชมกันนะครับ ภาพประกอบบทความทั้งหมดโดย เจ้าของบทความครับ