ถนนพระอาทิตย์เป็นหนึ่งในย่านท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ที่สุดของกรุงเทพฯ เพราะรวมเอาทั้งความเก่าแก่และความทันสมัยมาไว้ด้วยกันในถนนเส้นเล็ก ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ว่าคุณจะเป็นสายคาเฟ่ สายศิลปะ หรือสายธรรมชาติ ที่นี่มีครบทุกสไตล์ ใครที่อยากเที่ยววันเดียวแต่ได้ประสบการณ์หลากหลาย ถนนพระอาทิตย์ คือจุดหมายที่ห้ามพลาดสำหรับวันเดย์ทริปสุดพิเศษที่พร้อมฮีลใจให้กับทุกคน คาเฟ่สุดฮิต🧋 108 Juice เริ่มต้นทริปแบบสดชื่นด้วยการแวะที่ ร้าน 108 Juice คาเฟ่น้ำผลไม้สกัดเย็นชื่อดังของย่านนี้ ที่ขึ้นชื่อว่าทั้งอร่อยและถ่ายรูปออกมาสวยสุด ๆ ทุกแก้วทำจากผลไม้สดคั้นทันที ไม่มีสารเติมแต่ง ทำให้ได้รสชาติเปรี้ยวหวานแบบธรรมชาติแท้ ๆ บอกเลยว่าใครเป็นสายสุขภาพ หรือชอบเครื่องดื่มสีสันสดใส ร้านนี้คือสวรรค์ของเครื่องดื่มที่แท้จริง เมนูยอดฮิตของร้าน 108 Juice มีทั้งน้ำส้มสกัดเย็นที่เปรี้ยวหวานลงตัว น้ำแตงโมหวานฉ่ำดับร้อน และน้ำผักผลไม้รวมที่ดื่มง่ายมาก ๆ ทุกแก้วเสิร์ฟมาในแก้วใสสีสวยที่แค่ยกขึ้นถ่ายก็ได้ รูปคูล ๆ ลงโซเชียลแล้ว นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมร้านนี้ถึงเป็น จุดเช็กอิน ของวัยรุ่นสายคาเฟ่ที่มองหาที่เที่ยวใหม่ ๆ Coconut Culture ถัดจากน้ำผลไม้สด ๆ ก็มาต่อด้วยของหวานเย็น ๆ ที่ Coconut Culture ร้านไอติมที่กำลังมาแรงในย่านนี้ ตัวร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาว เขียว เรียบง่าย แต่มุมถ่ายรูปคือเพียบจริง ๆ แสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในร้านทำให้ทุกช็อตออกมาดูละมุน เหมาะกับทั้งสายถ่ายรูปและสายกิน รสชาติไอติมที่ Coconut Culture ก็ไม่ธรรมดา มีทั้งรสมะพร้าวที่หอมละมุน ช็อกโกแลตเข้มข้นสำหรับคนรักของหวาน ทุกถ้วยกินแล้วสดชื่นเหมือนรีเฟรชตัวเองใหม่ แถมยังถ่ายรูปสวยเพราะเสิร์ฟมาในถ้วยเก๋ ๆ ที่เข้ากับบรรยากาศร้านพอดี สองคาเฟ่นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นทริปที่ดี เพราะนอกจากได้เติมพลังด้วยของอร่อยแล้ว ยังได้ มุมถ่ายรูปสุดปัง ลงโซเชียลไปพร้อมกัน ถ้าอยากเพิ่มความเก๋ก็สามารถถือแก้วน้ำผลไม้หรือถ้วยไอติมไปถ่ายคู่กับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกยอดไลก์ได้แน่นอน ที่เที่ยวฮีลใจ ❤️ หอศิลป์บ้านเจ้าพระยา หลังจากอิ่มท้องกับคาเฟ่แล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาทางสายศิลป์กันบ้างที่ หอศิลป์บ้านเจ้าพระยา ที่นี่คือแหล่งรวมงานศิลปะที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทั้งงานเพนต์ งานภาพถ่าย และงานจัดวางที่หมุนเวียนมาให้ชมอยู่เรื่อย ๆ ใครที่ชอบหาที่สงบ ๆ เพื่อซึมซับแรงบันดาลใจ ที่นี่คือจุดหมายที่ใช่ ตัวอาคารหอศิลป์เป็นตึกเก่าที่บูรณะใหม่ แต่ยังคงโครงสร้างดั้งเดิมไว้อย่างสวยงาม ทำให้เวลาเดินเข้าไปเหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีต ในขณะเดียวกันก็ได้สัมผัสศิลปะสมัยใหม่ที่จัดแสดงอยู่ด้านใน บรรยากาศแบบเก่าใหม่ผสมกันนี้เองที่ทำให้ที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พนักงานก็ต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ใครที่ปกติไม่ได้อินกับศิลปะมาก ก็ยังสามารถสนุกกับการชมผลงานได้ สำหรับสายคอนเทนต์ หอศิลป์บ้านเจ้าพระยา ถือเป็น โลเคชั่นลับ ที่ยังไม่ค่อยมีคนใช้มากนัก เหมาะกับการถ่าย Vlog หรือทำคลิปแนวศิลป์ ๆ ที่ไม่ซ้ำใคร มุมแสงและสถาปัตยกรรมของอาคารก็เข้ากับการถ่ายภาพสไตล์วินเทจหรือมินิมอล บอกเลยว่าลงโซเชียลแล้วดูเทสดีสุด ๆ สวนสันติชัยปราการ เมื่อเดินดูงานศิลป์เสร็จแล้ว ปิดท้ายทริปด้วยการไปพักผ่อนที่ สวนสันติชัยปราการ สวนสาธารณะริมแม่น้ำที่มีชื่อเสียงเรื่องวิวพระอาทิตย์ตกงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่นี่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ จะนั่งเล่น ปิกนิก ออกกำลังกาย หรือถ่ายรูปก็สามารถทำได้หมดสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาและสนามหญ้ากว้างขวาง หลายคนชอบเอาเสื่อมาปู นั่งกินของว่างที่ซื้อจากคาเฟ่ใกล้ ๆ อย่าง 108 Juice หรือ Coconut Culture แล้วใช้เวลาชิล ๆ กับเพื่อนหรือครอบครัว บรรยากาศตอนเย็นคือดีที่สุด เพราะลมพัดเย็นสบายและไม่ร้อนจนเกินไป จุดไฮไลต์คือการได้นั่งชมพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำเจ้าพระยา วิวสะพานพระราม 8 แสงสีส้มทองที่สะท้อนบนผิวน้ำคือภาพที่โรแมนติกจนหลายคนติดใจ ไม่ว่าจะมากับแฟนหรือมากับเพื่อนก็ได้โมเมนต์สวย ๆ ไว้เก็บเป็นความทรงจำ แถมสวนสันติชัยปราการ ยังมี ป้อมพระสุเมรุ โบราณสถานสำคัญที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ทำให้การมาเที่ยวที่นี่ไม่ใช่แค่ได้ชิลกับธรรมชาติ แต่ยังได้ซึมซับประวัติศาสตร์ไปพร้อมกัน เป็น แหล่งท่องเที่ยว ที่มีครบทุกฟีลจริงๆ ถ้าใครกำลังมองหาที่เที่ยวในกรุงเทพฯ แบบครบจบในที่เดียว ทั้งกิน เที่ยว เล่น ถ่ายรูป บอกเลยว่า ถนนพระอาทิตย์ คือคำตอบที่ใช่! เดินทางก็ง่ายสุด ๆ เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าและมีขนส่งสาธารณะผ่านตลอด แถมยังมีร้านลับ ๆ ที่รอให้คุณไปค้นหาซ่อนอยู่เพียบ วันหยุดหน้าอย่าลืมปักหมุดที่นี่ รับรองว่าคุณจะได้ทั้งรูปสวย ๆ ความทรงจำดี ๆ และไอเดียใหม่ ๆ กลับไปเต็มกระเป๋าแน่นอน! เครดิตภาพทั้งหมดโดย daisydao (ครีเอเตอร์) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !