แวะมาอัปเดตเรื่องน่ารู้ก่อนไปอินเดีย ฉบับคนไปตระเวนเที่ยวและอยู่แบบแรมเดือน และการมาอินเดียในแต่ละปีบอกเลยว่าแต่ล่ะอย่างมันเปลี่ยนไปตลอด คือใครบอกว่าอินเดียเป็นประเทศไม่พัฒนานี่คือขอเถียงขาดใจ เพราะมาทุกปีเขาก็พัฒนาทุกๆ ปี เราจะไม่เขียนเรื่องระวังวัวหรือขอทานแล้วนะเพราะจริงๆ แล้วเรื่องพวกนี้มันคอมมอนเซนท์มากๆ จะไปที่สิ่งที่บางคนมองข้ามหรือคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาจริงบ่อยมาก อะมาเริ่มกันเลยว่า 2024 นี้ อะไรมันเปลี่ยนไปบ้างและอะไรที่ต้องระวังบ้าง1. E-visa ฟรีค่าธรรมเนียม เฉพาะแบบ 30 วันณ ปี 2024 นี้มีการฟรีค่าธรรมเนียมอีวีซ่าให้คนไทย โดยที่คนไทยยังต้องกรอกข้อมูลขออีวีซ่าออยู่นะคะแต่แค่ไม่ต้องชำระค่าบริการ ซึ่งจะฟรีค่าธรรมเนียมจนถึง เดือนธันวาคม 2024 นี้ ส่วนปีหน้าจะขยายเวลาไหม คงต้องไปตามดูกันต่อไป 2. สามารถจองตั๋วรถไฟฟ้าในกรุงนิวเดลีล่วงหน้าได้ ( บางเส้นทาง )ส่วนนี้มันอยู่ในเว็ปจองรถไฟ เมื่อเราจองรถไฟจากไหนก็ตามไปลงยังนิวเดลี และสถานีรถไฟนั้นใกล้กับรถไฟฟ้าที่มีบริการการจองล่วงหน้า เราจะสามารถจองรถไฟฟ้าหลังจากจองรถไฟได้เลย จ่ายออนไลน์และนำคิวอาร์โค้ดที่ได้มาเตะจ่ายในวันเดินทาง เพราะนิวเดลีนั้นเป็นเมืองหลวง บางสถานีคนเข้าแถวซื้อตั๋วรถไฟฟ้าเยอะมาก ต้องรอนานแต่ถ้าใครไม่มีปัญหากับการรอ ก็สามารถมาซื้อเมื่อเดินทางได้ค่ะ 3. รถไฟฟ้าของอินเดียจะมีตู้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้นจริงๆ แล้วการเดินทางในอินเดียมันไม่เพลียอย่างที่คิดหรอกนะ เพราะหลายๆ เมืองในอินเดียมีรถไฟฟ้า อาจไม่ใช่ทุกเมืองแต่บางเมืองมี และอาจมีแค่บางเส้นทาง สาวๆ ที่ไปกันเองหรือเดินทางคนเดียวแนะนำให้เช็กเส้นทางบนกูเกิ้ลแมพก่อนถ้าเมืองที่คุณจะไปมีรถไฟฟ้าเช่น นิวเดลี, นอยด์ดา, อากรา ( มีช่วงสั้นๆ ), ชัยปุระ, อาห์เมดาบัด หรือโกลกาตาเป็นต้น ให้มองหาหัวขบวนและเดินไปรอที่ป้ายสีชมพู เราก็จะยืนได้แบบไม่เบียดเสียดกับหนุ่มๆ สบายใจสุดๆ รับชมคลิป พาดูรถไฟฟ้าอินเดีย คลิกเลย4. การกดเงินสดในอินเดีย และจ่ายแบบออนไลน์ในอินเดียคนส่วนมากนิยมใช้สแกนจ่าย แต่เราคนไทยไม่มีบัญชีเงินฝากในอินเดียจะสแกนจ่ายไม่ได้ แต่สามารถใช้บัตรทราเวลการ์ดแตะหรือรูดจ่ายได้ หากร้านหรือที่พักนั้นมีการรับบัตร ส่วนการกดเงินให้มองหาตู้เอทีเอ็มที่มีคำว่า Visa หรือ international card ส่วนใหญ่เราจะใช้บัตร Planet SCB และเลือกกดตู้ของ SBI ( State Bank of India ) หรือใช้ตู้ Panjab National Bank แต่ค่ากดโหดกว่า SBI เท่าตัวเลย ( SBI ค่ากดล่าสุดคือ 174 บาท ส่วน Panjab ATM คือ ราวๆ 300 บาท ) 5. การใช้ธนบัตรต่างๆ ในอินเดียควรระวังการทอนเงินด้วยแบงก์เก่า เยินมากๆ หรือขาด เพราะร้านค้าไม่ว่าจะเล็กใหญ่ รวมไปถึงเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วต่างๆ จะไม่ค่อยรับแบงก์ที่ยับเยินมากๆ หรือขาด หากเราพลาดรับมาแล้วแล้วใช้ไม่ได้ ก็จะทำได้แค่เก็บมันไว้เฉยๆ ถ้ามันแค่สิบยี่สิบรูปีคงไม่เท่าไร แต่ถ้าแบงก์มันมีมูลค่าเยอะแล้วดันใช้จ่ายไม่ได้ มันน่าเสียดายนะ ใครมีเพื่อนมีแฟนอาจยังพอให้เขาเอาไปเปลี่ยนกับธนาคารได้ แต่ในบริบทของนักท่องเที่ยวทั่วไปมันคงเสียเวลาที่เราจะต้องแบ่งเวลาไปธนาคารแทนที่ท่องเที่ยว ดังนั้นเช็กให้ดีก่อนเก็บเข้ากระเป๋า ถ้ามันเยินมากๆ หรือขาดให้ขอเปลี่ยนทันที 6. ย่านที่พักในกรุงนิวเดลีที่ไม่น่ากลัวบางคนบอกว่านิวเดลีน่ากลัว แต่จริงๆ แล้วนิวเดลีไม่น่ากลัวนะถ้ารู้จักเมืองๆ นี้ดี นิวเดลีแบ่งเป็นสองเขตใหญ่ๆ คือ Old Delhi และ New Delhi ส่วนใหญ่คนจะพยายามหาที่พักที่ใกล้กับสถานีรถไฟ ซึ่งมันอาจใกล้และสะดวกจริงแต่มันไม่สบาย และคนมาครั้งแรกอาจจะตกใจกับอะไรหลายๆ อย่างได้เลย ข้อแนะนำคือพยายามจองที่พักในย่านเขตเมืองใหม่อย่าง New Delhi เช่น ย่าน Sakat, Green Park, Connaught place หรือ qutub minar เป็นต้น แต่โซนนี้ถ้าเป็นโรงแรมจะค่อนข้างราคาสูง ส่วนโฮสเทลจะราคาดีมาก ก็ต้องเลือกนะคะ ถ้าอยากได้โรงแรมถูกก็อยู่ในโอลเดลีซึ่งก็แลกมากับความแออัด วุ่นวาย และเดินหายาก เพราะมันมีตรอกซอกซอยที่ค่อนข้างเยอะ gps อาจจะพาเดินวนๆ และถ้าคิดจะเรียกตุ๊กๆ ก็ต้องดีลดีๆ เพราะไม่งั้นปวดหัวยิ่งกว่าทะเลาะกับ gps ค่ะ 7. ระวังดีลลดราคาบนเว็ปจองที่พักต่างๆ ระวังย่านที่พักต่างๆ แล้วให้ระวังดีลลดราคาด้วย เอเจนต่างๆ บุ๊กกิ้งเขาก็ไม่ผิดหรอกนะที่อยากจะสมนาคุณลูกค้าประวัติดีใช้งานมาอย่างยาวนาน เลยมักให้ดีลราคาเด็ดลดโหด แต่ที่ให้ระวังคือ “ผู้ประกอบการ” ในอินเดียค่ะ เขาไม่ใจพอกับดีลลดราคานั้น ไม่ใจแต่อยากให้ชื่อที่พักของตัวเองโดดเด่นเลยปล่อยเลยตามเลย ลูกค้าก็เข้าใจว่าที่พักคงยอมรับดีลนี้มีการตกลงที่ดีกันแล้ว เราก็จองตามราคาที่เว็ปโชว์ พอถึงเวลาเช็กอินพนักงานก็แจ้งว่าโรงแรมฉันไม่ใช่ราคานี้ และเสนอราคาใหม่ที่แพงขึ้นเราเคยพูดไปว่า “มันไม่ใช่ความผิดของฉันนะ ถ้าคุณไม่โอเคกับดีลนั้นทำไมไม่ลบชื่อโรงแรมของคุณออกล่ะ” เขาก็ยิ้มและยักไหล่ใส่เราแทน ก็คือจงใจแหละ มีน้อยมากที่ยอมรับราคาตามดีล แต่ก็จะยอมรับแบบเสียไม่ได้ ไม่ได้เต็มใจ เดินทางมานานมาก ไปมาหลายที่ไปฉลองปีใหม่ปีนังได้ลด 50% แต่ก็ไม่เคยโดนปฏิเสธว่าไม่ใช่ราคานี้ ให้ราคานี้ไม่ได้แบบที่อินเดีย ไม่ได้เจอรอบเดียวด้วยนะ บางครั้งคือเราอยากได้ที่นั่นจริงๆ เลยจองไปก็จะยอมจ่าย แต่ถ้าเป็นที่ที่ไม่ได้อยากได้มากก็จะสู้ค่ะ สู้ไม่ได้ก็เปลี่ยน แต่ก็เหนื่อยแหละ เรารู้สึกว่าเขาอาศัยความเหนื่อยของนักเดินทาง เมื่อเราเหนื่อยเราก็จะไม่อยากออกไปหาที่ใหม่และเราก็จะยอมรับราคาของเขา ส่วนนี้คงแล้วแต่ตัวบุคคลว่าจะจัดการกับโรงแรมในลักษณะนี้อย่างไร คุณจะสู้หรือรับราคาใหม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณ8. คนอินเดียส่วนมากนับถือศาสนาฮินดูเวลาเราบอกใครๆ ว่าเรากำลังจะไปอินเดีย บางคนจะถามว่าเขากินหมูไหม เพราะหลายคนเข้าใจว่าชาวอินเดียเป็นมุสลิมแต่จริงๆ แล้วประเทศนี้ในสมัยค้าขายกับชาวเปอร์เซียผู้คนต่างเรียกที่นี่ว่า ฮินดูสถาน หรือก็คือพื้นที่ที่มีแต่ชาวฮินดู และก่อเกิดศาสนาอื่นๆ เช่น ซิกซ์ เชน พุทธ ตามมาที่หลัง และตามมาด้วยการอพยพของชาวมุสลิม ดังนั้นประชากรส่วนใหญ่เป็นฮินดูค่ะ บางเมืองอาจมีสัดส่วนฮินดูเยอะกว่า บางเมืองก็อาจจะมุสลิมเยอะกว่า บางเมืองก็อาจจะซิกซ์เยอะกว่า แล้วแต่พื้นที่ที่คุณไป9. คนไทยมีส่วนลดค่าเข้าชมบางสถานที่ ประเทศไทยจัดอยู่ใน BIMSTEC ดังนั้นในบางสถานที่เราจะได้รับส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ เช่น Agra Fort จากราคา 650 รูปีจะเหลือแค่ 90 รูปี ให้เราสังเกตช่องจำหน่ายตั๋ว ถ้ามีคำว่า BIMSTEC ก็ให้เข้าไปซื้อช่องนั้นและอย่าลืมนำพาสฟอร์ตไปด้วย เพราะหลายๆ ที่เขาอาจขอดูพาสปอร์ตด้วยนั่นเอง 10. ร้านอาหารส่วนใหญ่เป็น Veg เพราะเป็นชาวฮินดูเป็นหลักดังนั้นร้านอาหารส่วนมากจะเป็นอาหารแบบไร้เนื้อสัตว์ แต่ก็สามารถหาร้านที่มีเนื้อสัตว์ได้นะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นไก่และปลา แต่ถ้าอยากกินเนื้ออาจจะต้องหาร้านของมุสลิม และร้านอาหารทั่วไปเมนูเนื้อสัตว์จะราคาสูงกว่า ส่วนในโฮสเทลส่วนมากแทบไม่มีเมนูเนื้อสัตว์เลยค่ะ ใครกินถั่วหรือเห็ดได้ก็คือรอด เพราะดาล Del ค่อนข้างอร่อยสำหรับเรานะ และมัชรูมเคอร์รี่ หรือ มัชรูมชิลลี่ก็คืออร่อยมาก 11. เมนูแนะนำที่อยากให้ลองสำหรับผู้ที่ไม่เคยชิมอาหารอินเดียเลย หากใครกำลังกังวลเรื่องอาหารอยู่นั้นเราแนะนำให้ลองเมนูง่ายๆ อย่างชิกเก้นบริยานี มันคือข้าวหมกไก่ที่มาพร้อมเครื่องเทศหอมและเผ็ด แต่ถ้าใครไม่ทานเผ็ดก็สามารถบอกว่าเผ็ดน้อยหรือไม่เผ็ดได้นะคะ แต่ส่วนตัวว่ายิ่งเผ็ดยิ่งอร่อย อีกเมนูหนึ่งที่อยากแนะนำคือ ชิกเก้นเคอรี่ หรือก็คือแกงไก่นั่นเอง นอกจากนี้พวกเมนูไก่ย่าง อย่างชิกเก้นทันดูรี ก็อร่อยและทานง่ายเช่นกัน หากชินกับเครื่องเทศแล้วค่อยขยับไปลองเมนูอื่นๆ 12. การจองรถไฟล่วงหน้าในอินเดียนักท่องเที่ยวสามารถจองรถไฟล่วงหน้าได้ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ที่เว็ปไซต์ IRCTC ทำการสมัครและเสียค่าธรรมเนียมสมัคร หลังจากยืนยันตัวตนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็จองรถไฟเองได้เลย หากทำได้ด้วยตัวเองจะประหยัดงบการเดินทางมากๆ เพราะราคาตั๋วรถไฟมันไม่ได้แพง แต่ถ้าเราจ้างคนอื่นจองเขาจะบวกค่าบริการเพิ่ม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่สะดวกนะะคะ 13. คลาสรถไฟแบบดีๆ มีเยอะมาก ที่เห็นๆ กันในมีมดังแบบที่มีคนนั่งล้นหลังคามาเยอะๆ นั้นมันแทบไม่มีอยู่ในยุคปัจจุบันแล้วนะคะ เพราะรถไฟอินเดียมีเยอะ หลากหลายเส้นทางและหลากหลายเวลามากๆ ถ้าอยากนั่งรถไฟคลาสดีๆ ที่ไม่ลำบากให้เลือกรถไฟที่มีคำว่า AC เช่น AC1, AC3 Tier หรือ AC chair car หรือมองหารถไฟชื่อ Bharat ก็ได้เช่นกัน ความหรูหรา หรือสะดวกสบายนั้นอยู่ที่คุณเลือกคลาสไหนเลยค่ะ รถไฟสองชั้นก็มีนะคะ เจ๋งมาก อย่างชอบ 14. ช่วงเวลาที่น่าเที่ยวที่สุดมาถึงอีกหนึ่งข้อสำคัญ เชื่อว่าต้องมีบางคนเคยเห็นโปรโมชันลดราคาตั๋วแบบถูกมากๆ ช่วงกลางปี แล้วมีคนไปคอมเมนต์ประมาณว่าใครจะไป... ส่วนหนึ่งมันมาจากคนที่เคยมาแล้วนั่นแหละค่ะ ช่วงกลางปีเป็นอะไรที่เลี่ยงได้ก็เลี่ยง เพราะร้อนและอบมาก ช่วงเมษายนถึงกรกฎาคม จะร้อนแบบร้อนสุดๆ อย่าหาเล่นกับระบบความร้อนของอินเดีย ร้อนมากจริงๆ เพลียแดดเวียนหัวมาก ส่วนช่วงสิงหาคมถึงกันยายน หน้าฝน คิดว่าจะสบายขึ้นแต่ไม่ใช่ กลายเป็นว่าร้อนแบบอบๆ ไม่มีแดดแต่ก็ไม่มีลม ชื้นจากฝนด้วย เหงื่อออกเยอะไม่สบายตัว ร้อนหายใจไม่ออกเพราะไม่มีลม จะเป็นลมเอาค่ะ ที่สำคัญคือช่วงฝนตกนั้นบางพื้นที่จะมีพายุ เช่น หิมาจัล บางครั้งน้ำท่วมถนนขาด เลวร้ายสุดคือหน้าดินถล่ม หากจะเที่ยวช่วงหน้าฝนให้เลือกอินเดียตอนกลาง อาจไม่มีเรื่องหน้าดินถล่มแต่ยังคงร้อนเช่นเดิม ช่วงที่ดีที่สุดคือ ตุลาคมถึงพฤศจิกายน จะเข้าสู้หน้าหนาว ที่ความหนาวกำลังดี เที่ยวสนุกไม่ร้อนไม่หนาวจัด แต่ถ้าใครอยากได้หนาวแบบไอออกปากให้มาช่วงธันวาคมถึงมกราคม ยิ่งถ้าไปทางเหนือช่วงนี้จะหนาวและสวยมาก 15. การแต่งกายของสาวๆ ที่รักความเซ็กซี่จริงๆ ผู้หญิงอินเดียก็แต่งตัวเซ็กซี่นะ ถ้าใครเคยมาอยู่นิวเดลีต้องเห็นบ้างแหละ เสื้อกล้าม เสื้อสปอร์ตบาร์ก็มี เพียงแต่เขาแต่งตัวเซ็กซี่เป็นโซนๆ ไปนะ แต่อย่างไรก็ตามก็อยากแนะนำว่าอย่าแต่งโป๊มาก นั่นก็เพราะว่าบางเมืองมันไม่ปลอดภัย และอีกข้อคือไม่ใช่แค่คนไทยที่ชอบดูถูกอินเดีย แต่คนอินเดียเองก็มีทัศนคติกับผู้หญิงไทยไม่ค่อยดี เราไม่โป๊และไม่สวยยังถูกถามเกี่ยวกับพัทยาและถามว่าไปดื่มกาแฟด้วยกันไหม มีค่าเสียเวลาให้เลย มันอาจมองตลกได้แต่สำหรับเราเราซีเรียสเรื่องมุมมอง ดังนั้นถ้าคุณซีเรียสไม่อยากให้ใครมองไม่ดีก็ต้องแคร์เรื่องการแต่งตัวนั่นเอง ถ้าคุณไม่แคร์ก็จัดไปให้สุดได้เลยค่ะ แต่เวลาถูกมองลบก็ต้องรู้ด้วยนะว่าคุณเลือกเอง คุณเลือกเวย์นี้เอง เพราะอินเดียไม่เหมือนประเทศอื่นเอาแนวคิดแบบประเทศอื่นมาใช้ไม่ได้16. แอปพลิเคชันที่ควรมีติดไว้ช่วงเที่ยวอินเดียอินเดียนั้นเป็นประเทศที่ไฮท์เทคโนโลยีกว่าที่คุณคิดนะคะ เขามีทั้งแอปจองรถไฟ เครื่องบิน รวมไปถึงแอปติดตามรถไฟ ซึ่งค่อนข้างสเถียรมากๆ จะดีเลย์กี่นาที หรือถึงสถานีไหน จอดอยู่ตรงไหนก็คือบอกหมด และแอปแรกที่ควรโหลดว่าคือแอป RailYatri และ ixigo trains เป็นแอปสำหรับติดตามรถไฟแอป AirVisual ไว้เช็คมลพิษทางอากาศ บางช่วงฝุ่นเยอะจนเห็นได้ด้วยตา แต่บางช่วงก็มีแต่บาง เอาไว้เช็กเพื่อความปลอดภัยของทางเดินหายใจและปอดแอป MakeMytrip ไว้จองโรงแรม คนอินเดียมักใช้แอปนี้มากกว่า ถ้าจองผ่านบุ๊กกิ้งหรืออโกด้าแล้วมีปัญหาลองจองผ่านแอปนี้แอป Delhi Metro Route Map and fare เอาไว้เช็กเส้นทางเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในนิวเดลี17. การจองอพาร์ทเมนท์ในอินเดีย ( สำหรับพักชั่วคราว )บางคนอาจอยากหลีกเลี่ยงปัญหาการของห้องพักทั้งไม่ตรงปกบ้าง พื้นที่รอบๆ ไม่ดีบ้าง หรือแม้แต่จองมาราคาหนึ่งมาเช็กอินราคาหนึ่งแล้วหันไปหาอพาร์ทเมนท์ปล่อยเช่าโดยโฮสอินเดีย มันก็ได้มันก็ดีแต่ให้หาโฮสที่เชื่อถือได้ ห้องโฮสดูแลดีแค่ไหนยังไม่น่ากังวลเท่าโฮสติดต่อได้จริงไหม บางแอปไม่มีชำระ ณ ที่พัก คือต้องจ่ายเลยถึงจะเห็นที่อยู่ ถ้าจ่ายไปแล้วหาที่พักไม่เจอแล้วยังติดต่อโฮสไม่ได้อีก มันจะเป็นเรื่องเอาได้ อีกกรณีหนึ่งที่ต้องหาแผนสำรองไว้คือโฮสติดต่อขอยกเลิกการจองก่อนวันเดินทาง บางเคสขอยกเลิกแบบกระชั้นชิดที่นี้ก็ว้าวุ้นหาที่ใหม่กันเลยทีเดียว 18. การใช้อินเตอร์เน็ตในอินเดีย ถ้าสมัครโรมิ่งมาแล้วไม่มีสัญญาณขึ้น ให้ลองเข้าไปที่ตั้งค่าที่เครือข่าย เพราะบางพื้นที่ในอินเดียเราต้องเลือกเครือข่ายเพื่อลงทะเบียน สำหรับการเข้าวันแรกสุดเลือกเครือข่ายเสร็จแล้วให้ลองปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่สัญญาณจะมา ส่วนครั้งต่อไปเวลาเปลี่ยนพื้นที่แล้วเน็ตเวิร์คหายก็ให้เข้าไปรีเฟรชเครือข่ายใหม่ บางพื้นที่อาจต้องลองสุ่มเลือกลงทะเบียนเครือข่ายเยอะหน่อยกว่าจะเจอ แต่บางพื้นที่มันก็จะเลือกเครือข่ายแบบอัตโนมัติเลย 19. การปฏิเสธวีซ่ารวมไปถึงปฏิเสธการเข้าอินเดีย ปี 2024 นี้เราเห็นสาวไทยบ่นว่าเข้ายากถูกถามเยอะ ถูกส่งตัวกลับแบบไม่มีเหตุผล รวมไปถึงการถูกปฏิเสธ Evisa ด้วย มีลูกเพจมาแชร์ว่าเธอได้รับอีเมลล์ขอข้อมูลเพิ่ม จากที่เราดูภาพที่แคปนั้นมันค่อนข้างถามเยอะผิดปกติจริง แล้วพอถามรายละเอียดส่วนมากจะเป็นไปครั้งแรกแต่ขอแบบหนึ่งปี ส่วนนี้เราคงตอบแทนเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำได้แต่คาดเดาว่า “มันผิดสุดวิสัยการเดินทาง” หรือเปล่า ครั้งแรกที่เรามาอินเดียแบบมาเที่ยวจริงๆ เราเลือกทำแบบ 30 วันนะ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเราจะรักหรือเกลียด เวลาแนะนำเพื่อนคนอื่นที่เขาจะมาเที่ยวส่วนใหญ่ก็เลือกแบบ 30 วัน ด้วยเหตุผลคล้ายๆ กันคือไม่รู้ว่าจะกลับมาอีกไหม เมื่อคิดแบบนี้แล้วมันก็เกิดคำถามว่าแล้วอะไรที่ทำให้คนไปครั้งแรกตัดสินใจทำแบบ 1 ปี อันนี้แหละค่ะคำถามที่อาจนำพาไปสู่ข้อสงสัยอื่น ทำไมมั่นใจว่าจะกลับไปอีกทั้งที่ยังไม่เคยไป ทำไมมั่นใจว่าจะอยู่นานๆ ได้โดยไม่กังวลเรื่องอาหาร ขนาดเราอยู่เพราะมีแฟน 10 วันแรกก็รู้สึกเบื่อโรตีเบื่อแป้งแล้วนะ ไม่มีอะไรจะแนะนำได้นอกจาก “คุณอาจต้องเลือกให้ตรงจุดประสงค์” ถ้ามาเที่ยวเพราะมีแฟนแต่ไม่ใช่สามี สามารถเลือกทัวร์ลิสอีวีซ่าและเลือกว่ามาพบเพื่อนและใส่ชื่อบุคคลอ้างอิงได้ แต่ก็ต้องมั่นใจว่าคนๆ นั้นประวัติเขาดีนะ ไม่งั้นก็จะเกิดปัญหาที่ตรวจคนเข้าเมืองอยู่ดี ส่วนคนที่ไปบ่อยอยู่นานแล้วอยู่ๆ ครั้งนี้ไม่ผ่าน ก็อาจจะต้องไปย้อนรอยดูว่าเผลอทำอะไรน่าสงสัยหรือเปล่า แต่เหตุผลจริงๆ ก็ต้องถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น 20. การสแกนกระเป๋ามีอยู่เกือบทุกสถานที่สำคัญ พยายามพกพาข้าวของแบบพอดีๆ เอาที่จำเป็นๆ ติดตัวไปพอเพราะที่นี่สแกนกระเป๋าบ่อยมาก ไม่ว่าจะสถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า สถานที่ท่องเที่ยว นอกจากสแกนกระเป๋าแล้วก็ต้องเดินผ่านให้เจ้าหน้าที่สแกนตัวด้วย แต่แยกหญิงชายนะ สาวๆ ไม่ต้องกังวล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง และนี่ก็คือข้อควรรู้ก่อนไปอินเดีย เราพยายามรวบรวมข้อที่คนอื่นๆ เขาไม่ค่อยเขียนกันมาฝาก หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังวางแผนจะไปอินเดียกันนะ สุดท้ายนี้ใครชอบใครชอบบทความนี้ก็สามารถแชร์ออกไปได้เลย หรือแวะหรือติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราได้ที่ twitter ที่ Artinime หรือ Facebook เพจ แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อย ได้เลยค่ะhttps://x.com/supamas_kpr/status/1817836311619006970เรียบเรียงเนื้อหาและถ่ายภาพโดยหญิงเถื่อน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !