วันนี้จูปิเตอร์จะพาทุกคนไปเกาะหลีเป๊ะ จะบอกในสิ่งที่ทุกคนอาจไม่รู้ที่มีอยู่บนเกาะแห่งนี้ หลีเป๊ะเป็นเกาะที่ไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่มากนักเมื่อเทียบเท่ากับเกาะสมุยแล้วก็ถือว่าเป็นเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งแต่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเพื่อทำธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ทหรือค้าขาย มีนักท่องเที่ยวมากมายจากหลายประเทศหรือแม้แต่นักท่องเที่ยวชาวไทยเองก็นิยมเช่นกัน เพราะเกาะหลีเป๊ะมีความสวยงามทั้งทิวทัศน์และธรรมชาติ มีน้ำทะเลที่ใสมากสามารถมองเห็นทะลุถึงใต้ท้องทะเลได้ จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมากอีกที่หนึ่งของภาคใต้ สิ่งที่คุณควรรู้ไว้ก่อนไปหลีเป๊ะ มีดังนี้ 1.ร่างกาย เพราะเมื่อเราขึ้นเรือสปีดโบ๊ทแล้ว ด้วยความเร็วสูงของเรืออาจทำให้เราโดนกระแทกอย่างแรงได้และไม่ควรนั่งหัวเรือเพราะเวลากระแทก ส่วนหัวเรือจะโดนกระแทกแรงสุด ทางที่ดีควรนั่งท้าย ๆ เรือไว้แต่ถ้าวันไหนอากาศดี ๆ ลมไม่แรง คลื่นไม่สูง ก็สามารถนั่งตรงไหนก็ได้เพราะมั่นใจได้เลยว่าจะไม่โดนกระแทกอย่างแน่นอน 2.เที่ยวเรือจะมีแค่ 4 รอบต่อวันเท่านั้น รอบที่ 1 เรือออกเวลา 9:30 นาที รอบที่ 2 เรือออกเวลา 11:30 นาที รอบที่ 3 เรือออกเวลา 13:30 นาที รอบที่ 4 เรือออกเวลา 15:30 นาที 3.เตรียมรองเท้าแตะ เมื่อคุณขึ้นเรือมาแล้ว ในช่วงเวลาที่เรือกำลังจะจอดเทียบท่าบนเกาะหลีเป๊ะ คุณแต่งตัวจัดเต็มกางเกงขายาวหรือรองเท้าหนัง ถ้าโชคดีคุณไม่ต้องถอดรองเท้าแต่ถ้าวันไหนน้ำลง เรือสปีดโบ๊ทลำที่คุณนั่งอาจจอดไม่ถึงฝั่งเพราะเค้ากลัวท้องเรือจะไปชนกับหินและปะการังในท้องทะเลได้ และคุณคงจะโชคร้ายหน่อย คุณต้องถอดรองเท้าและพับขากางเกงขึ้นอาจทำให้ชุดที่คุณสวมใส่มานั้นเปียกได้ 4.มีเซเว่นหรือร้านสะดวกซื้อบนเกาะ หากคุณกังวลอยู่ว่าบนเกาะจะมีร้านค้าให้เราซื้อของกินหรือของใช้ส่วนตัวมั้ย คุณไม่ต้องกังวลไปเพราะบนเกาะมีเซเว่นถึง 2 ร้านด้วยกันและมีร้านสะดวกซื้ออื่นอีกหลายร้าน ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีขนมกินบนเกาะนี้ เซเว่นเปิด 24 ชั่วโมงจ้า 5.สองเท่าของราคาบนฝั่ง หากคุณจะไปเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะ คุณต้องมีการวางแผนและคำนวณเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นอย่างดีเพราะคุณต้องอย่าลืมว่าของบนเกาะมีราคาเป็นสองเท่า เนื่องจากคนบนเกาะจะรับของหรือวัตถุดิบต่าง ๆ มาจากบนฝั่งซึ่งบนเกาะไม่มี ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม ขนม หรือร้านอาหารต่าง ๆ ทุกร้านบนเกาะแม้แต่เราอยากจะกินแค่ข้าวผัดกระเพราธรรมดา ๆ สักจานราคาก็สูงกว่าบนฝั่งเช่นกัน 6. Walking Street หรือถนนคนเดิน คนส่วนใหญ่บนเกาะจะเรียกถนนคนเดินนี้ว่า Walking Street ทับศัพท์ไปเลยและจะมีร้านค้าต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ซีฟู้ด พิซซ่า ดนตรีสด ร้านนวด เซเว่น ร้านยา ร้านของฝาก เสื้อผ้า ร้านสะดวกซื้อมากมายอยู่บนถนนคนเดิน พอตอนกลางคืนเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจะครึกครื้นมาก 7.ดูพระอาทิตย์ตก Sun Set หากใครต้องการดูพระอาทิตย์ตกดินแนะนำให้เดินผ่านทางถนนคนเดินมาเลยพอสุดทางจะทะลุสู่หน้าหาดเรียกฝั่งนี้ว่า Sun Set อยากจะบอกว่าแสงและสีตอนฟ้าเริ่มมืดถ่ายรูออกมาสวยมาก ดวงอาทิตย์สีแดง ๆ ส้ม ๆ กำลังจะลับขอบฟ้าทีละนิด ถ่ายภาพออกมาเป็นที่ระลึกได้เลย 8.สถานบันเทิงบนเกาะหลีเป๊ะ พอเราดูพระอาทิตย์ตกดินเสร็จแล้วก็สามารถไปนั่งดื่มชิวล์ ๆ หรือไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหาดฝั่ง Sun Set มากนักสามารถเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงร้าน ร้านนี้จะมีดีเจมาเปิดเพลงสนุก ๆ มีสระน้ำตรงกลาง จะไม่มีหลังคาจะเป็นแบบ Open ทั้งหมดเปิดโล่งให้ลมทะเลพัดเข้ามา มองเห็นทะเลได้ยามกลางคืน ร้านนี้เปิดตอนเย็น ประมาณ 4 โมงเย็นและปิดร้านประมาณตี 2 นะถ้าจำไม่ผิด 9.ดูพระอาทิตย์ขึ้น Sun Rise ถ้าหากคุณตื่นเช้ามาแนะนำให้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นทางฝั่ง Sun Rise คุณจะได้เห็นดวงอาทิตย์สวย ๆ ที่กำลังจะขึ้นในตอนเช้ากับวิวทะเลที่งดงาม อากาศดีมากเลยทีเดียว 10.สายบุญ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าเกาะหลีเป๊ะเป็นเกาะที่เล็กไม่ค่อยมีอะไรมากนัก แต่คุณรู้หรือไม่ว่าที่เกาะแห่งนี้ก็มีพระมาเดินบิณฑบาตในตอนเช้าด้วยนะ เราสามารถตื่นเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แล้วเดินมาใส่บาตรตรงหน้าเซเว่นปากซอย Walking Street ได้ สายบุญ อยากทำบุญใส่บาตรในตอนเช้าไม่ควรพลาด สุดท้ายนี้นี่เป็นเพียงแค่คำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นนะ เอามาเล่าสู่กันฟังแล้วคุณจะได้ไม่พลาดเมื่อได้ไปเที่ยวที่เกาะหลีเป๊ะแห่งนี้ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ซ่อนอยู่บนเกาะที่พร้อมจะเล่าให้คุณฟังอีกเพียบ เครดิตภาพทั้งหมดโดย : จูปิเตอร์