ตอนที่ 2 รีวิวเส้นทางเที่ยวยูนนาน ฉบับมือใหม่: 9 วัน 8 คืน เที่ยวจีนได้แบบไม่ต้องพูดจีน! หลังจากเตรียมตัวจนแน่นปึ้กในตอนก่อนหน้านี้ บทความนี้จะพาไปเดินทางจริงกันแบบ step-by-step กับเส้นทางสุดคลาสสิกในมณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นเส้นทางยอดนิยมของคนที่อยากสัมผัสจีนแบบธรรมชาติ + วัฒนธรรม + เมืองเก่าในทริปเดียว เส้นทางของเราคือ: คุนหมิง → ต้าหลี → ลี่เจียง → แชงกรีล่า 🛬 วันที่ 1: ถึงคุนหมิง – เมืองหลวงยูนนาน เราเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงสนามบินคุนหมิงช่วงค่ำ มีรถจากโรงแรมที่จองผ่าน Trip.com มารับถึงสนามบิน ซึ่งช่วยได้เยอะมากเพราะเราพูดภาษาจีนไม่ได้ กลัวจะสื่อสารไม่เข้าใจ จะเสียเวลาในการหารถและพูดคุย แม้จะไม่มีเวลาเที่ยวคุนหมิง แต่รอบที่พักมีร้านอาหารเพียบ เราเดินไปเรื่อย ๆ จนเจอร้านที่คนท้องถิ่นนั่งเต็มร้านเลยตัดสินใจลอง แล้วก็ได้ประสบการณ์สุดฮา เพราะเมนูเป็นภาษาจีนทั้งหมด พนักงานก็พูดแต่ภาษาจีน😂 แต่เรารอดมาได้ด้วย Google Translate + รอยยิ้ม และ ภาษามือ 555+ แต่จบลงด้วยมื้อเย็นอร่อยสุด ๆ ในราคาย่อมเยา พนักงานก็ขยันอธิบายมาก แต่เราไม่เข้าใจเลย 55+ แต่ก็ต้องขอบคุณน้องพนักงานที่ดูแลอย่างดี 🚄 วันที่ 2: คุนหมิง → ต้าหลี – เมืองโบราณกลางขุนเขา เราเลือกการเดินทางด้วยรถไฟ เพราะเดินทางสะดวกและรวดเร็ว เราได้ให้เอเจนซี่ จองรถไฟไว้ให้เราแล้ว และเราก็ใช้แค่ Passport เพื่อแสกนเข้าสถานีรถไฟ (แนะนำให้ไปช่อง ซ้ายสุดนะครับ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูให้เราด้วย ) และเราก็ดูเลขขบวนก่อนว่าเขาให้เราเช็คอินได้หรือยัง บนหน้าจอจะขึ้นสีเขียวตรงช่องสุดท้าย ซึ่งแปลว่าอะไรก็ไม่รู้แต่รู้ว่ามีสีเขียวขึ้น เราก็ไปเช็คอินได้เลยครับ (ตัวอย่างตั๋วรถไฟ แนบไว้ให้ดูแล้วนะครับ เขียนคำอธิบายไว้ให้แล้วครับ ) นั่งรถไฟความเร็วสูงแค่ประมาณ 2 ชม. ก็ถึง ต้าหลี เมืองที่บรรยากาศเหมือน “เชียงใหม่ผสมลี่เจียง” ลมเย็น ท้องฟ้าเปิด และวิวภูเขาล้อมรอบ พอถึงสถานีรถไฟต้าหลี มีรถจากโรงแรมมารับ (จองล่วงหน้าไว้) พนักงานขับรถใจดีมาก แนะนำที่เที่ยวให้เพียบเลย จนเราตัดสินใจจ้างเขาพาเที่ยวรอบๆเมือง เพราะมีเวลาแค่คืนเดียว! จุดไฮไลต์ที่ได้ไปแบบรวดเร็วแต่คุ้ม: เจดีย์สามองค์ (Three Pagodas) – ใหญ่และอลังการ เป็นแลนด์มาร์กหลักของต้าหลี่ที่ เห็นแล้วต้องร้องว้าว เมืองเก่าซีโจว (Xizhou Old Town) – เมืองโบราณเล็ก ๆ ที่เงียบกว่าเมืองเก่าต้าหลี่ แต่ เสน่ห์เพียบ! ทะเลสาบเอ๋อไห่ (Erhai Lake) – น้ำสีฟ้า วิวเขา ลมพัดเบา ๆ ปั่นจักรยานชมวิวสวยงามมาก วัดเจ้าแม่กวนอิมแปลงกาย (Guanyin Bodhisattva) – วัดเล็ก ๆ แต่เงียบสงบ และมีตำนานท้องถิ่นที่งดงามมาก เมืองเก่าต้าหลี – เดินเล่น ถ่ายรูป กินของท้องถิ่น ฟีลดีมาก (รายละเอียด แต่ละสถานที่ เราได้ทำแยกไปอีก บทความ นะครับ เขียนรายละเอียดไว้ให้แล้วครับ) 🚄 วันที่ 3 – 6: ต้าหลี → ลี่เจียง – เมืองในฝันริมเขาหิมะ หลังจากอำลาต้าหลี เรานั่งรถไฟด่วนมุ่งหน้าสู่ ลี่เจียง เมืองที่บรรยากาศโรแมนติกที่สุดในทริปนี้ และขอบอกตรง ๆ เลยว่า...3 คืนที่นี่ ยังรู้สึกว่าไม่พอ! เราเลือกพัก ในเขตเมืองเก่าลี่เจียง ทำให้ทุกเช้าตื่นมาก็ได้ยินเสียงน้ำไหล เสียงฝีเท้าคนเดิน และแสงแดดอุ่น ๆ ที่สะท้อนจากกระเบื้องหลังคาไม้แบบจีนโบราณ เดินออกจากโรงแรมไม่กี่ก้าวก็ถึงร้านชา คาเฟ่ หรือจุดถ่ายรูปสุดคลาสสิกแล้ว 💫 จุดไฮไลต์ของลี่เจียง ที่ประทับใจสุด ๆ: เมืองเก่าลี่เจียง (Lijiang Old Town) เมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ถนนหินเล็ก คลองใส และร้านค้าเก๋ ๆ เดินได้ทั้งวันไม่เบื่อ สระมังกรดำ (Black Dragon Pool) จุดชมวิวภูเขาหิมะที่สวยที่สุด น้ำใสสะท้อนยอดเขา เหมือนภาพวาดธรรมชาติ ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ไฮไลต์ของลี่เจียง ขึ้นกระเช้าสูงสัมผัสหิมะและวิวอลังการแบบ 360 องศา สูงจากระดับน้ำทะเล 4,506 เมตร บลูวัลเล่ย์ (Blue Valley) ธารน้ำสีฟ้าครามไหลลดหลั่น วิวพาโนราม่าตัดกับหิมะหลังฉาก สวยเหมือนหลุดโลก ลี่เจียงอิมเพรสชันโชว์ (Impression Lijiang Show) การแสดงกลางแจ้งสุดยิ่งใหญ่ ถ่ายทอดวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยมีภูเขาหิมะเป็นฉากหลังจริง ใช้นักแสดงร่วม 500 คน ช่องแคบเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge) ช่องเขาแม่น้ำแยงซีเกียงไหลแรง ตำนานเสือกระโจนข้ามน้ำ วิวธรรมชาติยิ่งใหญ่อลังการ โค้งแรกแม่น้ำแยงซีเกียง (First Bend of Yangtze River) จุดที่แม่น้ำยักษ์ไหลโค้งงอรอบภูเขา เป็นภาพธรรมชาติแปลกตา น่าทึ่งมาก (รายละเอียด แต่ละสถานที่ เราได้ทำแยกไปอีก บทความ นะครับ เขียนรายละเอียดไว้ให้แล้วครับ) 🚄 วันที่ 6–8: ลี่เจียง → แชงกรีล่า – สวรรค์บนดินที่มีอยู่จริง จากลี่เจียง เรานั่งรถไฟมุ่งหน้าสู่ แชงกรีล่า (Shangri-La) เมืองสุดท้ายของทริปที่ธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยวัฒนธรรมแบบทิเบต แชงกรีล่าคือเมืองที่ทำให้รู้สึกได้ถึง “ความสงบ” แบบลึก ๆ เหมือนโลกหมุนช้าลง เดินช้า ๆ สูดอากาศเย็น ๆ แล้วปล่อยให้ธรรมชาติโอบเราไว้ เราใช้เวลา 2 คืนเต็ม ๆ ในเมืองนี้... และนี่คือ จุดไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้: 💫 จุดไฮไลต์ของแชงกรีล่า (เที่ยวเบา ๆ แต่ประทับใจ) วัดซงจ้านหลิน (Songzanlin Monastery) วัดทิเบตขนาดใหญ่สุดในยูนนาน สวยขลัง เหมือนพระราชวังโปตาลาย่อส่วน วัดระฆังทอง (Guishan Park) ระฆังทองขนาดใหญ่บนยอดเขา หมุนด้วยแรงศรัทธา วิวเมืองมุมสูงสวยมาก เมืองเก่าแชงกรีล่า (Shangri-La Old Town) เดินเล่นสบาย ๆ บ้านไม้ทิเบต ร้านน้ำชา ร้านของฝาก นั่งชิลล์ได้ทั้งวัน Heidou Cafe คาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น วิวดี ขนมอร่อย เหมาะกับการพักผ่อนช้า ๆ แต่งชุดพื้นเมืองถ่ายรูป ในเขตเมืองเก่ามีร้านให้เช่าชุดพื้นเมืองแบบทิเบตสีสันสดใส ใส่แล้วเดินถ่ายรูปตามตรอกบ้านไม้ หรือหน้าวัด วิวท้องฟ้า-ภูเขาเป็นฉากหลัง บอกเลยว่าสวยมาก! (รายละเอียด แต่ละสถานที่ เราได้ทำแยกไปอีก บทความ นะครับ เขียนรายละเอียดไว้ให้แล้วครับ) 🔁 วันที่ 8–9: แชงกรีล่า → คุนหมิง – พักคืนสุดท้ายก่อนกลับไทย หลังจากใช้เวลาสองคืนเต็ม ๆ ในแชงกรีล่า เรานั่งรถไฟกลับมาที่ คุนหมิง เพื่อพักผ่อนและเตรียมตัวกลับไทย เราเลือกนอนที่คุนหมิง 1 คืน เพื่อให้ไม่ต้องเร่งรีบมากในวันเดินทาง และยังมีเวลาช้อปของฝากแบบสบาย ๆ ด้วย 🛍 ถนนคนเดินหนานผิง (Nanping Pedestrian Street) เป็นย่านช้อปปิ้งชื่อดังของคุนหมิง มีทั้งร้านของกิน ของฝาก ร้านค้าท้องถิ่น และห้างให้เดินเล่น เราเดินหาของกินปิดท้ายทริป ทั้งของทอดแบบจีน ขนมพื้นเมือง และซื้อของฝากกลับไทยแบบจุใจ – โดยเฉพาะชาและขนมอบแห้งที่ขึ้นชื่อ เรียกได้ว่าเป็นการจบทริป "เที่ยวยูนนาน 9 วัน" แบบครบทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และของกินอร่อย ๆ เต็มกระเป๋า 😊 อย่าลืมติดตาม “ตอนที่ 3: ไม่รู้ภาษาจีน ก็เอาตัวรอดได้! ” เครดิตภาพ :"รูปภาพทั้งหมดเจ้าของบทความเป็นผู้ถ่ายเองและสร้างมาเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้นครับ" อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !