สำหรับการเดินทางในวันนี้เป็นความตั้งใจที่จะไปสักการะหลวงปู่ทวดที่วัดพะโคะ หรือวัดราชประดิษฐาน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา เราขับรถจากบ้านที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เข้าสู่ถนนสายสงขลา - ระโนด เส้นทางนี้สามารถไปเชื่อมต่อกับ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง ได้ เนื่องจากไม่ใช่เส้นหลักอย่างถนนสายเอเชีย ดังนั้น รถราที่วิ่งจึงไม่มากนัก จึงเป็นการเดินทางแบบสบาย ๆ ไม่ได้เร่งรีบอะไรมากนัก เมื่อขับผ่านตัวเมืองของ อ.สทิงพระ ไปสักพักจะเจอป้ายทางเข้าวัดพะโคะซึ่งอยู่ด้านซ้ายมือ สังเกตได้ไม่ยากนัก เนื่องจากมีร้าน 7-11 ก่อนถึงแยกที่จะเลี้ยวซ้ายไปนั่นเอง เมื่อเลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงไปอีกเพียงอึดใจก็ถึงวัดพะโคะแล้ว ใช้เวลาโดยประมาณ 1.20 ชั่วโมง เมื่อเข้าไปถึงสิ่งแรกที่พบคือ วงเวียนที่มีรูปปั้นของหลวงปู่ทวดในปางธุดงส์ขนาดใหญ่ วัดพะโคะซึ่งตั้งอยู่บนเขาพัทธสิงค์ ในการขึ้นไปที่วัดสามารถขับรถขึ้นไปทางด้านหลัง, เดินขึ้นทางบันไดพญานาค หรือขึ้นทางลิฟต์ ทัศนียภาพที่เห็นคือความร่มรื่นของต้นไม้ทั้งสองข้างทางบันไดทางขึ้น อีกทั้งขั้นของบันไดไม่ได้ชันอะไรมาก แน่นอนว่าสายสตรองอย่างเราก็ต้องเดินขึ้นบันไดสิคะ เมื่อเดินขึ้นมาจะพบบ่อน้ำแบบโบราณที่หลวงปู่ทวดเคยใช้ซักจีวร โดยปัจจุบันบ่อน้ำไม่ได้ลึกมาก และเมื่อเดินตรงตามบันไดไปด้านบนสุดก็จะเห็นพระเจดีย์ทรงลังกาซึ่งก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาประดิษฐาน จุดนี้สามารถชมวิวไปยังด้านล่างซึ่งจะเห็นเป็นพื้นที่นาและต้นตาลโหนดซึ่งนิยมปลูกกันในพื้นที่นี้ ถือว่าเป็นการพักสายตาไปในตัว ส่วนด้านข้างซึ่งมีมณฑปที่ได้สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานรอยพระบาท ยังเป็นที่ประดิษฐานรูปจำลองของหลวงปู่ทวด ตลอดถึงเกจิอาจารย์และอดีตเจ้าอาวาส ในส่วนของรอยพระบาทนั้นเดิมเชื่อกันว่าเป็นรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าแต่ในสมัยต่อมากล่าวกันว่าเป็นรอยเท้าของหลวงปู่ทวด ส่วนที่พลาดไม่ได้คือ บริเวณกุฎิเจ้าอาวาส ซึ่งนอกเหนือจากมีรูปจำลองของหลวงปู่ทวดให้ได้กราบไหว้ขอพรกันแล้ว ยังมีในส่วนของวัตถุมงคลของหลวงปู่ทวด มีทั้งเป็นองค์พระสำหรับตั้งหิ้งพระ องค์พระสำหรับแขวนหน้ารถ หรือองค์พระสำหรับแขวนห้อยคอ ซึ่งทั้งหมดได้ผ่านพิธีปลุกเสกจากทางวัดเรียบร้อย สามารถเช่าไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลกันได้ หลังจากได้เช่าวัตถุมงคลไปบูชาแล้ว ก็ถึงเวลากลับโดยเดินลงบันไดทางเดิม ซึ่งบริเวณด้านล่างจะเป็นที่ขายขนมของฝาก เป็นขนมพื้นเมืองของที่นี่ ชาวบ้านทำเองนำมาจำหน่ายในราคาไม่แพง ที่ต้องไม่พลาดคือ ขนมดู ซึ่งเป็นขนมขึ้นชื่อของที่นี่ มีทั้งแบบธรรมดา และแบบคลุกงา นอกจากนั้นยังมีน้ำตาลโตนดสดจากธรรมชาติช่วยแก้กระหายคลายร้อนได้ดีทีเดียว สำหรับวันนี้ได้มาสักการะหลวงปู่ทวด ได้เช่าวัตถุมงคลไปบูชา และได้ซื้อขนมอร่อย ๆ เป็นอันว่าจบภารกิจวันนี้ค่ะ