9 เมืองดังเรื่องกาแฟ ที่คอกาแฟต้องไปสักครั้งในชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นลองแบล็ค แฟลตไวท์ มอคค่า หรือเอสเปรสโซ่แบบเพียว ๆ การได้ดื่มด่ำกับกาแฟแก้วโปรด ก็ถือเป็นกิจกรรมคลายเครียดที่ได้รับความนิยมแบบสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปดื่มตามคาเฟ่ หรือร้านกาแฟชั้นนำ หากคุณปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้ดมกลิ่นและลิ้มรสกาแฟในทุกเช้า ถือว่าเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้วล่ะก็ สถานที่แนะนำเหล่านี้นี่แหละ จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำความเข้มข้นของกาแฟได้อย่างจุใจ
เพื่อฉลองวันกาแฟสากลในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เราได้รวมจุดหมายที่เป็นที่ชื่นชอบที่สุดสำหรับคอกาแฟ โดย Booking.com ได้คัดเลือก 9 จุดหมายที่ดีที่สุด เพื่อการเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใส ดังนี้ครับ
เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
เมลเบิร์นได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งกาแฟของออสเตรเลีย เตรียมตัวสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจ กี่ยวกับกาแฟได้เลย เมื่อมาที่นี่ ถนนหินกรวดในย่านศูนย์กลางธุรกิจคับคั่งไปด้วยกิจกรรมต่าง ๆ โดยมีเสียงบดกาแฟและเครื่องทำเอสเปรสโซ่คอยกลบเสียงผู้คนที่สัญจรไปมาในช่วงเช้า เลือกพักในใจกลางเมืองเมลเบิร์นได้ที่ Abode 361 จากนั้นเดินเป็นระยะทางสั้น ๆ ไป Axil Coffee Roasters เพื่อสั่งกาแฟมาขจัดความง่วงในช่วงเช้า คุณจะสามารถนำกาแฟกลับมาดื่มด่ำที่ห้องนั่งเล่นสุดชิคได้โดยยังไม่ทันหายร้อน จากนั้นก็ค่อย ๆ เริ่มวันใหม่อย่างมีสไตล์
เวียนนา ประเทศออสเตรีย
เวียนนาควรจะอยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายชื่อจุดหมายซึ่งเหล่าผู้ที่เรียกตัวเองว่าคอกาแฟต้องไปเยือน วัฒนธรรมคอฟฟี่เฮาส์สไตล์เวียนนานั้นได้รับการขึ้นทะเบียนโดย UNESCO ว่าเป็น “มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” ดังนั้นทุกคนจึงมุ่งมั่นที่จะช่วยกันอนุรักษ์และปกป้องธรรมเนียมซึ่งเป็นที่รักที่สุดของเมืองหลวงแห่งออสเตรีย การมาเยือนเวียนนาจะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้แวะหนึ่งในคาเฟ่ยอดนิยมสักแห่งในย่านวีเดนซึ่งโฉบเฉี่ยวและนำเทรนด์กว่าที่อื่น โดยย่านแห่งนี้เป็นสวรรค์ของเหล่าฮิปสเตอร์ อีกทั้งยังมีสวนที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง Johannes Diodato ผู้ก่อตั้งคอฟฟี่เฮาส์แห่งแรกสุดของเวียนนา หากอยากมั่นใจว่าประสบการณ์มาเยือนเวียนนาจะตรงเทรนด์และเหมาะสำหรับถ่ายรูปลง Instagram ก็ขอแนะนำให้พักที่ Urbanauts
โรม ประเทศอิตาลี
เอสเปรสโซ่เปรียบเหมือนเลือดหล่อเลี้ยงของชาวโรมส่วนใหญ่ เพราะคนอิตาลีดื่มกาแฟเข้มและดื่มกันหนัก เรียกได้ว่าในแต่ละวันมักดื่มเอสเปรสโซ่ 5 ช็อตขึ้นไป และจะเห็นได้ว่าบาร์กาแฟทั่วเมืองจะให้บริการแบบใช้แนวคิด “ดื่มแล้วค่อยไป” หนึ่งในบาร์ยอดนิยมและชื่อดังที่สุดที่ควรไปเยือนคือ Sant’Eustachio Il Caffe ซึ่งเสิร์ฟกาแฟกว่า 6,000 แก้วในแต่ละวัน จึงไม่น่าแปลกใจที่บาร์นี้จะรู้เรื่องกาแฟเป็นอย่างดี จากนั้นจิบเอสเปรสโซ่ช่วงบ่ายได้ที่ดาดฟ้าส่วนตัวบน La Maison D’Art Luxury Suite พลางเพลิดเพลินกับวิวตื่นตาของวิหารแพนธีออนซึ่งอยู่ใกล้เคียง
ลวีฟ ประเทศยูเครน
เมืองที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก UNESCO แต่เป็นที่รู้จักค่อนข้างน้อยแห่งนี้มีวัฒนธรรมด้านคาเฟ่ที่เทียบเคียงได้กับฝั่งยุโรปตะวันตก ความสัมพันธ์ของลวีฟกับกาแฟนั้นย้อนกลับไปตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 ตอนที่ชาวออสเตรียมาเยือนและช่วยทำให้วัฒนธรรมกาแฟเป็นรูปเป็นร่างมาจนถึงทุกวันนี้ รวมทั้งยังเป็นส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น สัมผัสบรรยากาศย้อนยุคโดยไปพักที่อาคารจากศตวรรษที่ 15 Vintage Boutique Hotel ซึ่งตั้งอยู่ในย่านใจกลางประวัติศาสตร์ของ ลวีฟ จากที่พักอยู่ในระยะที่เดินไปคาเฟ่ในตำนานอย่าง Virmenka ซึ่งสามารถสั่งกาแฟชงโดยใช้สูตรเฉพาะของลวีฟแบบแท้ ๆ เท่านั้น ซึ่งคอกาแฟทั้งหลายจะต้องปลาบปลื้มแน่นอน
อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ไม่น่าแปลกใจนักที่ชาวดัตช์จะจริงจังเรื่องดื่มกาแฟ เพราะเป็นประเทศต้นกำเนิดบริษัท Dutch East India Company ซึ่งเป็นผู้ค้าขายเครื่องเทศและกาแฟแห่งแรกของโลก โดยทั่วเมืองอัมสเตอร์ดัมมีคาเฟ่สุดฮิปและร้านจำหน่ายกาแฟอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ที่นี่จึงอื้ออึงไปด้วยเสียงบดเมล็ดกาแฟอราบิก้า หากพักที่โรงแรม The Hoxton จะได้ลิ้มลองหนึ่งในเอสเปรสโซ่เบลนด์ที่ดีที่สุดจากร้าน Lot Sixty One ซึ่งเสิร์ฟพร้อมอาหารเช้าทุกวัน ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านเก่าแก่ริมคลองของอัมสเตอร์ดัม เหมาะสำหรับดื่มกาแฟและชมวิวย่านเฮเรนกราคต์แสนงดงาม พลางมองผู้คนขี่จักรยานไปทำงาน
ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ชาวปารีเซียงชอบทำอะไรอย่างมีสไตล์และหลีกเลี่ยงจุดที่เป็นกับดักนักท่องเที่ยว ดังนั้นการดื่มกาแฟเช่นกัน เขตปกครองที่ 11 เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมผู้คนหลากหลายที่มีหัวคิดสร้างสรรค์ซึ่งมองหาคาเฟ่สุดฮิปและคาเฟ่บูติคสำหรับถ่ายภาพกาแฟแฟลตไวท์แก้วโปรดลง Instagram ส่วนคาเฟ่มาใหม่อย่าง Café Oberkampf ได้ฮิตติดลมบนอย่างรวดเร็วในหมู่บล็อกเกอร์และผู้เดินทางทันสมัยซึ่งคอยตามเทรนด์อยู่ตลอด สำหรับที่พักใกล้ ๆ ก็ขอแนะนำ Hôtel Fabric สุดเก๋ซึ่งเดิมเคยเป็นโรงงานสิ่งทอ
อิสตันบูล ประเทศตุรกี
กาแฟตุรกีแสนอร่อยนั้นมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยชาวออตโตมันเป็นผู้คิดค้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน และมีให้บริการทั่วทุกมุมถนนอิสตันบูล เคล็ดลับของรสชาตินั้นอยู่ที่การเตรียมกาแฟ จึงเตรียมพร้อมสัมผัสรสชาติแน่นและเข้มข้น จากเครือสุดฮิปอย่าง “House Café” ไปจนถึง “คาเฟ่ยุคกลางไร้ชื่อ” ซึ่งตั้งอยู่ที่ Corlulu Alipasa Medreses เรียกได้ว่าทุกที่ของอิสตันบูลนั้นคอยเตรียมกาแฟสำหรับทุกคน ส่วนที่พักอย่าง Hotel Miniature ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในอาคารเก่าแก่อายุ 139 ปีนั้นก็อยู่ไม่ไกลจาก Hagia Sophia, Topkapi Palace และ Blue Mosque
ซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา
ซีแอตเทิลเป็นจุดหมายซึ่งคุ้มค่าที่จะไปเยือน เพราะเป็นต้นกำเนิดเครือร้านกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Starbucks ลองแวะไปที่ร้าน Starbucks สาขาแรกใน Pike Place Market และสั่งแฟรบปูชิโน่แก้วโปรด เนื่องจากทั่วเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรมกาแฟเข้มข้น จึงมีโอกาสที่จะเจอบาร์กาแฟอยู่ทั่วทุกแห่ง ลองสั่งกาแฟสักแก้วได้จากคอฟฟี่เฮาส์และร้านขายกาแฟท้องถิ่นในย่าน University District ซึ่งทันสมัยอยู่เสมอ หรือจะไปย่าน Capitol Hill สุดเจ๋ง Watertown Hotel ในย่าน University District อยู่ในทำเลที่สามารถไปเที่ยวจุดดื่มกาแฟที่ดีที่สุดของซีแอตเทิล นอกจากนี้โรงแรมก็มี Pineapple Café ให้คุณได้สั่งกาแฟแก้วแรกรับเช้าวันใหม่ก่อนออกไปสำรวจเมืองด้วยเช่นกัน
เวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์
ชาวเวลลิงตันต่างชื่นชอบกาแฟ โดยมีร้านกาแฟมากมายอยู่ในใจกลางเมือง คุณจึงจะได้กลิ่นเมล็ดกาแฟคั่วล่องลอยอยู่ในสายลมที่พัดผ่าน ภาพของคาเฟ่ในเวลลิงตันนั้นหลากหลายพอ ๆ กับผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ เพราะมีทั้งแบบร้านแฮงก์เอาท์สุดฮิป ไปจนถึงร้านบรันช์ริมทะเล เรียกได้ว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง คาเฟ่ชื่อดังอย่าง Fidel’s เป็นจุดห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวเวลลิงตัน ที่นี่เสิร์ฟกาแฟคิวบาซึ่งส่งตรงแบบสด ๆ มาจากโรงคั่วที่อยู่บริเวณใกล้เคียง จึงเป็นคาเฟ่สุดคึกคักที่เสิร์ฟรสชาติที่มีกลิ่นอายเมืองฮาวานา สำหรับที่พักซึ่งอยู่ในระยะเดินไปถึงถนน Cuba Street อันมีชีวิตชีวาก็ขอแนะนำ Grand Mercure Wellington
===============
ขอบคุณข้อมูล และภาพประกอบ : Booking.com