สวัสดีครับ ผม "เอ็มห้าร้อย" ถ้าพูดถึงเรื่องการไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ทุกคนก็จะมีกิจกรรมหลายอย่างที่จะไปทำ เช่น ถ้าใครไปเที่ยวป่าเที่ยวเขา ก็จะเป็นการเดินป่ากางเต็นท์และทำอาหารกินแบบสมัยก่อน ส่วนใครที่ไปเที่ยวทะเล ก็จะเล่นน้ำหรือดำน้ำดูปะการัง และหาตกหมึกตอนกลางคืน ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดคงหนีไม่พ้น การถ่ายรูปในแต่ละสถานที่เก็บไว้เป็นความทรงจำ ซึ่งหลายคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปรวมถึงผม จะมีแนวการถ่ายที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปแนว Portrait, Landscape และ Fashion เป็นต้น การถ่ายรูปทุกแนวล้วนมีความหมายและความสำคัญว่าคนถ่ายต้องการสื่ออะไร? สำหรับผมแล้วจะมีแนวการถ่ายรูป ที่ผมชอบคือการถ่ายรูปแนว "Street Photography" แต่ใจจริง ๆ ผมอยากถ่ายแนว Portrait นะ แต่ไม่มีนายแบบนางแบบให้ถ่าย ใครมาอ่านบทความนี้ แล้วอยากจ้างผมถ่ายรูป จ้างได้นะราคากันเอง ขออนุญาตขายของเลยแล้วกัน ฮ่าๆ ตัดเข้าเรื่องก่อนดีกว่า บางคนเริ่มสงสัยแล้วหละ ว่า Street Photography มันคืออะไร? วันนี้ผมจะพาทุกคนไปถ่ายรูปแนวนี้ ในสถานที่ที่ผมคุ้นเคย อุ๊บ!!! สถานที่นั้นคือที่ไหน? ไม่รอช้าให้เสียเวลา เราไปกันเลย >>> "Street Photography" เป็นแนวการถ่ายรูปแบบหนึ่ง ถ้าแปลตรงตัวคือการถ่ายรูปถนน เห้ย!!! ไม่ใช่ถ่ายรูปถนน แต่มันคือการถ่ายรูปเหตุการณ์ หรือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสถานที่สาธารณะนั่นเอง ซึ่งการถ่ายรูปแนวนี้ มันสามารถสร้างเรื่องราวความเป็นจริงจากสิ่งที่ได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของผู้คนหรือธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเรา และสื่อออกไปให้คนอื่นได้รู้ได้เห็นให้ได้มากและดีที่สุด แล้วสถานที่ที่คุ้นเคยของผมที่ได้อุ๊บไว้ในตอนต้น ก็คือ "อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี" ที่หลายคนรู้จักในนาม "ย่าโม" ที่มีประวัติยาวนานคู่กับคนไทย ซึ่งวันนี้ผมจะไปถ่ายรูปรอบลานย่าโม เพื่อจะสื่อถึงการใช้ชีวิตของผู้คนในที่แห่งนี้ และเป็นการเที่ยวแบบง่าย ๆ ไม่ต้องไปไหนไกล ไม่ต้องมีรถ เดินอย่างเดียวถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปด้วย ดียิ่งกว่าดีซะอีก อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สัญลักษณ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของชาวโคราชมาอย่างยาวนาน โดยที่นี่ก็จะมีการขายดอกไม้, ธูปเทียนและพวงมาลัย เพื่อให้ผู้คนได้มากราบไหว้สักการะเพื่อขอโชคขอพร ถือว่าย่าโมเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้ทุกคนทำความดีและปฏิบัติดี เพื่อให้สมหวังกับสิ่งที่เขาได้ขอไว้ เมื่อเดินมาด้านหลังอนุสาวรีย์ ก็จะเจอประตูบานใหญ่ เรียกว่า "ประตูชุมพล" ที่เคยมีคนบอกผมว่า ถ้ารอด 1 ครั้งจะได้กลับมาโคราช ถ้ารอด 2 จะได้มาอยู่หรือทำงานที่โคราช ถ้ารอด 3 ครั้งจะได้คู่ครองเป็นคนโคราช ซึ่งอันนี้ก็เป็นความเชื่อโบราณที่มีมามาน เดินออกมาจากอนุสารีย์ก็จะพบการใช้ชีวิตของผู้คน รวมถึงบ้านเรือนที่ยังคงความเก่าแบบในสมัยก่อน ที่หาดูยากในปัจจุบัน เช่น โรงแรมเมืองทอง อันนี้ผมไม่รู้ว่าเขายังเปิดให้คนเข้าพักหรือเปล่า? ซึ่งโรงแรมเป็นไม้และยังคงความเก่าแก่ แต่ดูภายนอกไม่เก่านะเพราะน่าจะทาสีใหม่ คุณลุงกำลังปั่นรถสามล้อเพื่อหาลูกค้าหรือไปส่งลูกค้ามา ซึ่งรถสามล้อในปัจจุบันเริ่มหายากแล้วนะ ถ้าไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว รูปนี้ก็สื่อให้เห็นได้ว่าจากอดีตสู่ปัจจุบัน ยานพาหนะก็มีการพัฒนาไปเรื่อยๆ แต่ลุงก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ เพื่อที่จะรักษาไม่ให้รถสามล้อหายไปจากปัจจุบัน รวมถึงอาชีพขับรถสามล้อที่สามารถเลี้ยงชีพคุณลุงได้ ไม่ว่าอาชีพใดก็มีความหมายกับคนนั้น ๆ ขอให้เป็นอาชีพที่สุจริตที่ไม่ต้องเบียดเบียนคนอื่นก็พอ ซึ่งตอนนั้นเป็นตอนเย็น นักเรียนก็เริ่มเลิกเรียน กำลังยืนรอรถหรือนั่งรถบ้างหละ เดินข้ามถนนบ้างหละ ทำให้ผมนึกถึงชีวิตตอนที่ผมยังเรียนอยู่ได้เลย ตอนเช้าไปเรียน เรียนเสร็จตอนเย็นก็กลับบ้าน บางคนก็ไปเรียนพิเศษต่อ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทำให้ผมได้มีเพื่อนมากมาย และตอนที่ผมทำงานมักจะนึกถึงตอนเรียนว่ามันสบายกว่าเยอะ ผมเดินไปรอบๆ ลานย่า ผมได้เห็นชีวิตของคุณยายที่กำลังขายของโดยนั่งอยู่ที่พื้นข้างถนน และคุณลุงที่กำลังเย็บผ้า ซึ่งคนเหล่านี้กำลังทำงานเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ มันดูเหนื่อยเหมือนกันนะกว่าจะได้เงินแต่ละบาท มันทำให้ผมรู้ถึงคุณค่าของเงินขึ้นมาเลย ว่าจะใช้แต่ละบาทต้องคิดแล้วคิดอีก นี่แหละครับ เรื่องราวรอบลานย่าโมในรูปถ่ายแนว Street Photography และผมก็จะถ่ายรูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อที่จะสื่อเรื่องราวให้ทุกคนได้เห็นได้อ่านได้เข้าใจ รูปทั้งหมด โดย ผู้เขียนบทความ << ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและติดตามนะครับ >>