สวัสดีครับนักเที่ยวสายบุญทั้งหลายวันนี้ผู้เขียนมีสถานที่ดี ๆ มาแนะนำอีกแล้วครับท่านสถานที่ที่ว่านี้คือ...วัดครับ ใช่ครับสถานการณ์แบบนี้นอกจากหาที่พึ่งทางกายแล้ว (หลบหลี้หนีโควิด-19) แล้วต้องหาที่พึ่งทางใจด้วยมาดูกันครับว่าวัดที่ผู้เขียนเอามานำเสนอนี้อยู่ที่ไหน อย่างไร วัดที่ผู้เขียนพูดถึงนี้คือ “วัดกลางทุ่ง” แต่ไม่ได้อยู่กลางทุ่งนะครับ....อิอิ ตั้งอยู่ที่ บ้านสันเมืองงาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ นี้เองการเดินทางไม่ยากครับหากท่านเดินทางมาตามทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง เมื่อมาถึงสี่แยกสัญญาณไฟจราจรเมืองงายให้เลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงเข้าไปตามถนน และจะพบกับสถานที่ที่ว่านี้อยู่ซ้ายมือติดถนนทีนี้มาดูกันครับว่าภายในวัดมีจุดที่น่าสนใจอะไรบ้าง จุดที่หนึ่ง เมื่อท่านมาถึงแล้วจะพบกับรูปปั้นของท้าวเวสสุวรรณสองตนยืนเด่นสง่าคอยต้อนรับอยู่บริเวณซุ้มหน้าวัดโดยรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณทั้งสองตนนี้จะมีลักษณะยืนถือกระบองบนฐานขนาบซ้าย-ขวาสองข้างซุ้มประตู และด้านล่างฐานจะมีรูปพระราหูอมจันทร์องค์สีดำอยู่หน้าฐาน (ผู้เขียนทราบว่าตามตำนานท้าวเวสสุวรรณเป็นอธิบดีแห่งอสูร หรือเจ้าแห่งภูตผีปีศาจทั้งหลาย โดย ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาประทับทางทิศเหนือท่านเป็นเจ้าของท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4) ดังนั้นผู้นับถือศาสนาพราหมณ์ และพุทธจะเชื่อว่าหากใครได้บูชาท้าวเวสสุวรรณจะปราศจากภยันตราย ไปที่แห่งหนใดก็จะพ้นจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง จุดที่สอง พุทธอุทยานก่อนจะเขาไปสู่บริเวณกำแพงวัดชั้นในจะพบกับพระพุทธรูปที่จะไว้รอบสระน้ำของวัดซึ่งเป็นพระพุทธรูปหินแกะสลักองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่บนดอกบัวจะมีพระพุทธรูปป่างต่าง ๆ เช่นพระพุทธรูปปางนาคปรก พระพุทธรูปปางถวายเนตร พระพุทธรูปปางประทานพร พระพุทธรูปปางปรินิพพาน พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ (แต่ส่วนมากเท่าที่ผู้เขียนเห็นมักจะเขียนเป็น ป่าเลไลย ป่าเลไลย์ ป่าเลไลยก์ อันนี้ไม่ถูกต้องนะครับ) เป็นต้น จุดนี้เป็นเสมือนแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับพระพุทธรูปปางต่าง ๆ เช่น ปางนาคปรก เป็นพระพุทธรูปประจำวันของคนเกิดวันเสาร์โดยพระพุทธรูปปางนี้มีความเป็นมาคือ เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณพระองค์ได้เสวยวิมุตติสุขใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นเวลา 7 วัน และมีพระยานาคนามว่ามุจรินทร์ ได้มาอารักขาโดยการแผ่พังพานป้องกันมิให้พระวรกายของพระองค์ต้องโดน ฝน ลม แดด เป็นต้น หรือพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ เป็นพระพุทธรูปประจำวันของคนเกิดวันพุธกลางคืน มีความเป็นมาคือ เมื่อครั้งที่หมู่สงฆ์เกิดการทะเลาะกันในเรื่องของพระธรรม วินัย ครั้งเมื่อพระพุทธองค์ทรงตักเตือนแล้วไม่สำเร็จพระองค์จึงหลีกเร้นพระวรกายไปอยู่ในในป่าแถบหมู่บ้านปาลิเลยยกะ ซึ่งจะมีลิง และพญาช้างปาลิเลยยกะมาถวายน้ำ และน้ำผึ้งเหมือนที่เรา ๆ ท่าน ๆ เคยเห็นนั้นหละครับจึงเป็นที่มาของพระพุทธรูปปางนี้ จุดที่สาม รูปปั้นพญาดำแสนสิริจันทรานาคราชนั่งบนขดพญานาค มีนาคสามเศียรอยู่อยู่ด้านหลัง ซึ่งตามตำนานพญาดำแสนสิริจันทรานาคราชนี้เป็นหนึ่งในเจ้าแห่งพญานาคราชทั้งหลาย และชาวพุทธมีความเชื่อว่านาคราชเป็นเสมือนดังเทพผู้คอยปกปักรักษาแม่น้ำให้อุดมสมบูรณ์ คอยให้ความช่วยเหลือ และให้โชคให้ลาภ ทั้งนี้ชาวพุทธเรายังเชื่อว่าพญานาคนั้นเป็นความเชื่อที่อยู่คู่กับพระพุทธศาสนามาช้านานตั้งแต่สมัยที่พระพุทธเจ้ายังมีพระชนชีพอยู่โดยความเชื่อนั้นยังปรากฏแสดงออกมาในเชิงสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น บริเวณตามบันไดพระอุโบสถ พระวิหาร หรือแม้แต่ศาลาธรรม ต่าง ๆ ก็มักจะมีรูปปั้นพญานาคคอยเฝ้าอยู่สองฝากฝั่งขึ้นซ้าย-ขวาของบันได เป็นต้น อ่อ..มาแล้วก็อย่าลืมกราบขอกราบขอพรนะครับ... จุดที่สี่ พระวิหารประจำวัด เป็นพระวิหารที่ทางวัดในประกอบกิจทางพระศาสนาในวันสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบุญประเพณีสงกรานต์ เข้าพรรษา ออกพรรษาหรือแม้แต่การทำพิธีบรรพชาสามเณรก็จะใช้ในพระวิหารแห่งนี้ (แต่หากอุปสมบทพระจะต้องทำที่พระอุโบสถเท่านั้น) อีกทั้งแต่เดิมพระวิหารนี้ยังเป็นที่ชุมนุมปรึกษาหารือกิจการสาธารณะต่าง ๆ ของหมู่บ้าน ชุมชนแต่ปัจจุบันได้ให้ความสำคัญในส่วนนี้น้อยลงเพราะมีสถานที่อื่น ๆ ที่สามารถทำทดแทนกันได้...เมื่อมาถึงแล้วก็ขึ้นไปกราบพระประธานบนพระวิหารเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยน้า จุดที่ห้า พระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทองน่าจะจำลองมาจากองค์จริง โดยมีพุทธลักษณะจะมีพระเกศบัวตูม พระศกก้นหอยเม็ดเขื่อง พระพักตร์อวบอูมมีรอยยิ้มเล็กน้อย พระหนุเป็นรอยหยิก พระวรกายอวบอ้วนสมบูรณ์ และที่สำคัญที่สังเกตได้ทันทีว่าเป็นพระพุทธสิหิงค์ (คนทางภาคเหนือมักเรียกติดปากว่า พระสิงห์) คือชายสังฆาฏิจะสั้น และแตกเป็นปกตะขาบพระเพลาขัดสมาธิเพชร พระบาทหงายขึ้นทั้งสองข้าง จุดที่หก จุดสุดท้ายจะเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองเป็นรอยพระพุทธบาทที่ทางวัดได้จักประดิษฐานไว้บริเวณศาลาด้านหน้าพระวิหารโดยชาวพุทธมีความเชื่อว่ารอยพระพุทธบาทนี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องให้ความเคารพนับถือเพราะถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่พระพุทธองค์ได้ทรงประทับไว้เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ระลึกถึงคุณของพระพุทธองค์บริเวณนี้ท่านสามารถเข้าไปกราบขอพรได้นะครับ เห็นไหมหละครับว่าวัดกลางทุ่งนี้น่าสนใจ และสวยงามขนาดไหนมากันให้ได้นะครับผ่านไปผ่านมาอย่าลืมแวะเข้ากราบสักการะขอพร และแวะทำบุญกันอิ่มบุญแล้วยังอิ่มใจกลับไปอีกด้วยสำหรับวันนี้เท่านี้ก่อนนะครับ...ธรรมสวัสดีครับ เครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน ดร.อาบแสงจันทร์ ต.