ช่วงประมาณปลาย ๆ เดือนมกราคม – เมษายนของทุกปี มักเป็นช่วงที่พันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งจะผลิดอกออกบานสะพรั่งเต็มต้นตลอดสองข้างทางของถนนหลังมหาวิทยาลัย มันเบ่งบานอวดโฉมแข่งกับแสงอาทิตย์เพื่อเอาชนะสายหมอกยามเช้าเป็นสีชมพูสดใสประหนึ่งดอกซากุระยังไงยังงั้น เจ้าดอกไม้นี้มันมีชื่อว่า ‘ชมพูพันธุ์ทิพย์’ มันสวยงามจนบรรดานิสิตและผู้คนในพื้นที่ใกล้เคียงอดใจไม่ไหวรีบมาถ่ายรูปและยลโฉมกันตั้งแต่มันยังบานไม่ทันเต็มต้น เอาล่ะขอเชิญคุณผู้อ่านกวาดสายตาตามเรามาได้เลย เราจะพาไปเที่ยว ‘กำแพงแสนดินแดนชมพูพันธุ์ทิพย์’ กันค่า ย้อนกลับไปเมื่อสี่ปีที่แล้วซึ่งเรายังเรียนและพักอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านกำแพงแสน หลังจากหมดคาบเรียนสุดท้ายของช่วงเย็นแล้วยังพอมีเวลาสำหรับการท่องเที่ยวไปชื่นชมบรรยากาศรอบ ๆ มหาวิทยาลัย เรากับเพื่อนอีกสองคนยังไม่อยากกลับไปนั่งเหงาอยู่ที่หอพักจึงตัดสินใจไปถ่ายรูปกับเจ้าชมพูพันธุ์ทิพย์ดีกว่า ว่าแล้วก็แว้นรถเครื่องคู่ใจพวกเราไปกันเลย ใช้เวลาประมาณห้านาทีไม่ขาดไม่เกินก็ถึง ‘ถนนชมพูพันธุ์ทิพย์’ ด้านหลังของมหาวิทยาลัยแล้ว เราเลือกที่จะขี่รถตามถนนไปเรื่อย ๆ เป็นทางตรงยาวสุดสายตาเพื่อเงยหน้าขึ้นมาชมเจ้าดอกไม้สีชมพูนี้ทีละต้น ทีละต้น ไปจนถึงประตูอีกฝั่งหนึ่งโดยไม่รู้ตัว แล้วก็วกขับกลับมาทางเดิมอีกครั้งเพื่อเลือกบริเวณที่ดี ๆ เหมาะ ๆ ถ่ายรูปกับเจ้าดอกไม้นี้กัน ต้องบอกเลยว่ามีหลายมุมหลายจุดมาก ๆ เลือกเอาได้ตามสบายเลย ยิ่งเวลาประมาณห้าโมงเย็นไปแล้ว แสงอาทิตย์จะสวยมากเป็นพิเศษซึ่งเป็นภาพพื้นหลังที่ทุกคนหมายปอง หลายคนจึงได้ภาพย้อนแสงกับเจ้าต้นชมพูพันธุ์ทิพย์นี้ไปอย่างน่าอิจฉา แม้ว่าผู้คนจะหนาตาจนเต็มถนนแต่หลายคนก็สู้เพื่อให้ได้ภาพสวย ๆ สไตล์เกาหลีกลับไปอวดเพื่อน ๆ เช่นกัน รวมถึงเราและเพื่อนในครั้งนี้ด้วย นอกจากผู้คนที่มายลโฉมส่วนใหญ่จะเป็นนิสิตและน้อง ๆ จากโรงเรียนสาธิตฯ แล้ว ผู้คนภายนอกก็มากันคับคั่งเกือบทุกวันเช่นกัน โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะเยอะมากทั้งช่วงเช้าตรู่และช่วงเย็น บ้างก็มาถ่ายรูปเป็นกลุ่มเป็นแก๊ง บ้างยูทูปเบอร์มาถ่ายรายการก็มี บ้างก็มีพี่บัณฑิตมาถ่ายคู่กับเจ้าดอกไม้สีชมพู บ้างก็ปั่นจักรยานคู่ใจมา นักวิ่งรักสุขภาพบางท่านก็จูงน้องหมาสุดรักมาชมด้วย และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในทุก ๆ ปีเลยก็คือ จะมีคู่รักมาถ่ายพรีเวดดิ้งเสมอ มองดูแล้วอินไปกับเขาด้วยเลยเพราะนอกจากเจ้าบ่าวจะหล่อมากแล้ว เจ้าสาวก็สวยมากเช่นกัน เจ้าดอกไม้ชมพูพันธุ์ทิพย์ไม่ได้มีอยู่แค่สองข้างถนนด้านหลังมหาวิทยาลัยเท่านั้นน้า เจ้าดอกไม้นี้ยังยืนต้นตระหง่านสวยงามอยู่ใกล้ ๆ สระน้ำรูปวงกลมที่มีชื่อว่า ‘สระพระพิรุณ’ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของมหาวิทยาลัยของเราอีกด้วย (อาจจะน้อยกว่าถนนด้านหลังมาก) ภาพของดอกไม้สีชมพูที่บานเต็มต้นตัดกับสีเทาของอาคารเรียนรวมที่อยู่ใกล้ ๆ และเสียงน้ำพุในสระพระพิรุณชวนให้นั่งฟินจนไม่อยากจะลุกไปไหนเลย ในบริเวณใกล้กันนั้นก็ยังมีหอสมุดสุดกว้างขวางอยู่ด้วย การที่ได้นั่งอ่านหนังสือแล้วมองออกมาเห็นบรรยากาศอันสวยงามรอบ ๆ สระพระพิรุณด้วยแล้วนั้น มันเป็นช่วงเวลาของหนอนหนังสือที่มีความสุขที่สุดเลย สีชมพูอันสดใสของมันยิ่งมองแล้วก็ยิ่งหลงใหล มันมีอิทธิพลต่อหัวใจและความรู้สึกของผู้ที่ชอบดอกไม้มาก ๆ เราเองก็เช่นกันเวลาที่ไปถ่ายรูปก็จะชอบหยิบดอกที่หล่นอยู่กับพื้นที่ยังสมบูรณ์อยู่ขึ้นมาพิจารณาดูความงามของมัน มันเป็นดอกไม้ที่พวกเราชาวกำแพงแสนรักและหวงแหนมันที่สุด เมื่อกาลเวลาผ่านไปสถาบันแห่งนี้ก็ผลิตบัณฑิตรุ่นต่อรุ่นออกไปเป็นจำนวนมาก รุ่นเก่าผ่านไปแล้วก็มีน้อง ๆ รุ่นใหม่ผ่านเข้ามายลโฉมเจ้าดอกไม้สีชมพูดอกนี้ แต่เจ้าดอกไม้สีชมพูหลายสิบต้นเหล่านี้ก็ไม่เคยจางหายไปไหน มันยังยืนหยัดอยู่บนลำต้นด้วยความมั่นคงเสมอมา เพื่อที่จะผลิดอกเบ่งบานให้ปรากฏแก่สายตาของเหล่าน้อง ๆ นิสิตรุ่นใหม่ให้ได้ยลโฉมมันเหมือนกับพี่ ๆ รุ่นก่อนที่ได้สัมผัสมันตั้งอดีตเป็นต้นมา. JookkyBell ที่อยู่ : เลขที่ 1 หมู่ 6 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140 ห่างจากตัวเมืองนครปฐมไปตามทางถนนสายนครปฐม-สุพรรณบุรี (มาลัยแมน) ประมาณ 28 กิโลเมตร ภาพภ่าย (ภาพที่ 1-5 และภาพปก) ถ่ายโดยนักเขียน : JookkyBell