รีวิวเที่ยวโอซาก้า วันเดียวเที่ยวหนักจัดเต็ม โอซาก้า เมืองยอดฮิตของคนไทยที่นิยมมาเที่ยวญี่ปุ่น หากมาเที่ยวโอซาก้า สามารถนั่งเครืองบินมาลงสนามบินคันไซ (Kansai international Airport) แล้วต่อด้วยรถไฟฟ้าสาย JR HARUKA มายังโอซาก้าได้ ทั้งนี้ยังมีสาย Kansaikuko line , Nankai-kuko Line มายังโอซาก้าได้เช่นกัน หากมาเที่ยวโอซาก้าทั้งวัน ผู้เขียนจะแนะนำบัตร OSAKA AMAZING PASS ซึ่งเป็นบัตรสำหรับขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ที่ไม่ใช่สาย JR และเข้าชมฟรีในบางที่เที่ยวโอซาก้าในบางแห่งที่รัฐรองรับ โดยบัตรนี้จะมีแบบ 1 วัน และ 2 วัน ค่ะ ผู้เขียนได้ซื้อบัตร OSAKA AMAZING PASS แบบ 1 วัน มาดูกันว่าบัตร OSAKA AMAZING PASS นี้บัตรเดียวจะสามารถเที่ยวได้ที่ไหนบ้างและอัดเที่ยวเต็มวันได้เยอะขนาดไหนค่ะ ผู้เขียนใช้บัตร Osaka Amazing Pass เดินทางไปยังปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) โดยไปลงสถานี Tanimachiyonchome station นอกจากนี้ยังสามารถลงสถานี Temmabashi Station ได้เช่นกัน โดยระยะห่างการเดินไปยังปราสาทโอซาก้าไม่ต่างกันมากประมาณ 1.4 กิโลเมตร ผู้เขียนนั่งรถไฟสายเขียว Chuo Line ไปลงสถานี Tanimachiyonchome station นั้นจะเดินผ่านสวนสาธารณะปราสาทโอซาก้า ก่อนที่จะถึงปราสาทโอซก้า (Osaka Castle)หากมาช่วงใบ้ไม่เปลี่ยนสี หรือช่วงซากุระบานสะพรั่ง สวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยความงดงามและโรแมนติกจนเป็นที่ตรึงตราตรึงใจผู้คน เมื่อผู้เขียนเดินผ่านสวนมาสักระยะหนึ่ง ก็เริ่มเห็นกำแพงที่รอบล้อมปราสาทโอซาก้า ก่อนที่จะเจอทางเข้าแล้วเข้าไปยังปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่มีความสวยงาม หากชมเพียงภายนอกปราสาทโอซาก้าจะไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร แต่ถ้าเข้าไปชมข้างในตัวปราสาทโอซาก้า จะเสียค่าเข้าชม แต่หากใครมีบัตร OSAKA AMAZING PASS ก็จะเข้าชมฟรีได้เลยค่ะ ก่อนเข้าชมเราก็ต่อแถวรอคิวเข้ากันก่อนนะคะ ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างในปี 1583 ซึ่งมีอยู่ 8 ชั้น เป็นส่วนพื้นดิน 5 ชั้น และใต้ดินอีก 3 ชั้นค่ะ ภายในแต่ละชั้นจะมีการจัดแสดงประวัติของ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ บุคคลสำคัญที่มีบทบาทต่อโอซาก้าและประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเรียนราวต่าง ๆ เช่น วัฒนธรรมของโอซาก้า เมื่อเดินขึ้นไปชั้นบนสุดเพื่อที่สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมืองค่ะ หลังจากนั้นผู้เขียนได้เดินทางต่อไปยัง วัดชิเทนโนจิ (shitennoji Temple) โดยนั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วง Tanimachi Line จากสถานี Tanimachiyonchome station ไปลงสถานี Shitennoji-mae Yuhigaoka Station แล้วเดินต่ออีกประมาณ 400 เมตร ซึ่งหากลงสถานีแล้วเดินต่อไปยังวัดชิเทนโนจิ (shitennoji Temple) จะต้องเดินผ่านสุสานวัดนิดหนึ่งค่ะอย่าพึ่งตกใจนะคะ แล้วเดินต่อเนื่องเข้าวัดไปซึ่งจะเข้าข้างวัด วัดชิเทนโนจิ (shitennoji Temple) เป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นกว่า 1,400 ปี อยู่ในย่านเทนโนจิ โอซาก้าค่ะ โดยวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 593 จากความศรัทธาเลื่อมใสพระพุทธศาสนาของเจ้าโชโทคุ ซึ่งหากไม่มีบัตร OSAKA AMAZING PASS จะเสียค่าเข้าชมราคา 300 เยนค่ะ นอกจากความดั้งเดิมเก่าแก่ของวัดแห่งนี้แล้วยังมีสวนโกคุราคุ-โจ เป็นสวนดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ตกแต่งอย่างงดงามและเลื่องชื่อในวัดแห่งนี้ หลังจากเข้าชมวัดชิเทนโนจิ (shitennoji Temple) ผู้เขียนเดินออกจากวัดทางฝั่งหน้าวัด ซึ่งจะเห็นร้านอาหารหลายร้านขายของอยู่บริเวณแห่งนี้ มีอาหารมากมายหน้ากินมาก โดยเฉพาะเสี่ยวหลงเปาหอม ๆ กลิ่นหอม ๆ ยั่วยวนผู้เขียนมาก เลยแวะกินสักหน่อย ซึ่งมีหลายรสชาติให้ลิ้มลอง ผู้เขียนอยากบอกว่าเสี่ยวหลงเปาอร่อยมาก เดินต่อไปประมาณ 1 กิโลเมตร เราจะเห็นทางแยกเลี้ยวซ้ายก็จะเจอ สวนสัตว์เทนโนจิ (Tennoji Zoo) ขอแวะสวนสัตว์กันก่อนดีกว่า สวนสัตว์เทนโนจิ (Tennoji Zoo) เป็นสวนสัตว์เก่าแก่อันดับที่ 3 ของญี่ปุ่น โดยเปิดเมื่อปี 1915 เป็นที่อยู่ของสัตว์มากมายกว่า 230 ประเภท รวมกว่า 900 ตัว หากไม่มีบัตร OSAKA AMAZING PASS จะเสียค่าเข้าชม 500 เยน โดยสวนสัตว์แห่งนี้จะแบ่งหลายโซนให้เราชมมากมาย หลังจากนั้นผู้เขียนเดินผ่าน ตลาด Shinsekai แวะกินข้าวที่ตลาด Shinsekai ก่อนที่จะไปชมวิวบนหอคอยซึเคนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ตลาดแห่งนี้จะเต็มไปด้วยสีสันฉูดฉาดของแต่ละร้านญี่ปุ่น หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) หากไม่มีบัตร OSAKA AMAZING PASS จะเสียค่าเข้าชม 700 เยน หอแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ความเจริญในเมืองโอซาก้า ซึ่งเป็นหอคอยที่มีต้นฉบับมาจากหอไอเฟล (Eiffel Tower) ในเมืองปารีส (Paris) และเคยถูกทำลายในช่วงสงครามโลกก่อนที่จะสร้างพัฒนาต่อเติมใหม่ให้สูงกว่าเดิม วิวข้างบนบทหอคอยมองเมืองโอซาก้าได้แบบ 360 องศารอบทิศเลยค่ะ เมื่อขึ้นชมวิวเมืองแสนโรแมนติกแบบจุใจแล้ว ผู้เขียนจะพาไปนั่งชิงช้าสววรค์เท็มโปซานแสนโรแมนติกได้ที่ Tempozan Giant Ferris Wheel โดยนั่งรถไฟมาลงสถานี Osakako Station แล้วเดินต่อ 450 เมตร เราก็เริ่มพบกับความยิ่งใหญ่ของชิงช้าสวรรค์แห่งนี้ ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน Tempozan Giant Ferris Wheel เป็นชิงช้าสวรรค์ใหญ่ที่มีความสูง 112.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตร อยู่บริเวณริมอ่าวโอซาก้า หากไม่มีบัตร OSAKA AMAZING PASS จะเสียค่าเข้าชม 800 เยน โดยเปิดเวลา 10.00-22.00 น. ผู้เขียนแนะนำให้ไปช่วงเวลาตอนกลางคืนค่ะ จะได้บรรยากาศแสนโรแมนติกมาก ๆ ชิงช้าสวรรค์แบบนี้จะมีอยู่ 2 แบบให้เลือกนั่ง แบบแรกจะเป็นตู้สีสันสดในสีแดง แต่ไม่สามารถมองเห็นพื้นข้างล่างได้ จะสามารถนั่งได้ไม่จำกัดเวลา แต่หากเลือกอีกตู้หนึ่งเป็นตู้ใสทั้งตู้ ซึ่งจะมองเห็นวิวได้รอบด้านทั้งข้างล่างด้วยจะสามารถนั่งได้เพียง 25 นาทีหรือ 1 รอบเท่านั้นค่ะ ผู้เขียนเลือกตู้แบบใส แล้วไปดูวิวข้างบนกันเลย หากยังไม่เหนื่อยเราก็แวะไปช้อปปิ้งและกินข้าวได้ที่ ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) และโดทงโบริ (Dotonbori) ซึ่งเป็นแหล่งศูนย์ช้อปปิ้ง และอาหารของกินมากมาย นอกจากนี้ยังมีป้ายกูลิโกะเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ สามารถชมเที่ยวโอซาก้าฉบับเต็มได้ที่นี่ เครดิตรูปภาพทั้งหมด : โดยผู้เขียน