เมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม ที่ผ่านมา ครีเอเตอร์ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมนิทรรศการที่ดีมากๆที่หนึ่งของเมืองไทย เลยอยากจะเอาความดีงามมาบอกเล่าให้กับเพื่อนๆทุกท่านค่ะ นิทรรศการที่ว่านี้ ก็คือ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ริมถนนราชดำเนินกลางนั่นเอง (ใครเตรียมตัวไปขึ้นรางวัลที่หนึ่ง ลองแวะเยี่ยมชมได้นะคะ) เมื่อเข้าไปด้านใน จะเจอ first impression ก็คือ เย็นมากกกกก พี่ๆเจ้าหน้าที่ที่น่ารักก็จะเข้ามาให้ข้อมูลและแนะนำการเดินเที่ยวชมอย่างดีเลยค่ะ สำหรับการเยี่ยมชม จะเสียค่าเข้าชมดังนี้นะคะชาวไทย ราคา 70 บาทชาวต่างชาติ ราคา 100 บาทนิทรรศการจะแบ่งเป็น 2 เส้นทาง ในเลือกชม แต่ละเส้นทางใช้เวลา 2 ชั่วโมงโดยประมาณ จำกัดคนไม่เกินรอบละ 16 คน ซึ่งครีเอเตอร์ได้เลือกเส้นทางที่ 2 เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าจะพาไปนั่งเรือและนั่งรถรางค่ะ การเดินชมนั้นจะมีเจ้าหน้าที่พาเดินชมตลอดเส้นทางเลยนะคะ และไม่ต้องกังวลว่าไปคนเดียวจะเหงาไหม คนเดียวเจ้าหน้าที่ก็พาไปเยี่ยมชมค่ะ เพราะครีเอเตอร์ก็ไปคนเดียวเช่นกันเมื่อได้เวลาแล้ว เจ้าหน้าที่จะเรียกรวมตัวที่หน้าป้ายด้านบน และแนะนำระเบียบการเข้าชมต่างๆ จากนั้นก็จะเป็นการพาไปชมห้องต่างๆของนิทรรศการค่ะ ห้องแรกครีเอเตอร์ไม่ได้ถ่ายภาพมา แต่จะแสดงวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ให้ได้ชมกัน ส่วนตัวรู้สึกว่าวิธีการนำเสนอ การเล่าเรื่อง เข้าใจง่ายมากๆ และเด็กๆน่าจะเห็นภาพได้ชัดเจนเลยค่ะ จบจากห้องนี้ ก็ได้นั่งเรือแล้วนะคะ เก็บภาพมาให้ชมเพียงเล็กน้อย เพราะว่าอยากให้ไปชมด้วยตาตนเองดีกว่าค่ะ การนั่งเรือนี้ จะได้จำลองวิถีชีวิตคนไทยเมื่อสมัยยังสัญจรทางน้ำกันอยู่ ระหว่างนั่งเรือก็จะมีการขับเสภาที่ไพเราะอีกด้วยบรรยากาศสองข้างทางขณะล่องเรือและเมื่อนั่งเรือชมวิถีชีวิตยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นๆกันแล้ว กรุงรัตนโกสินทร์ของเราก็เดินทางมาถึงยุคที่เริ่มมีรถราง มีไฟฟ้า ระบบโทรเลข และความเจริญต่างๆ เรือที่เรานั่งเมื่อสักครู่ ก็จะเปลี่ยนไปเป็นรถราง ซึ่งแล่นไปเรื่อยๆให้เราได้ชมวิถีชีวิตในช่วงเวลานั้นค่ะในช่วงนี้ สยามของเราก็เริ่มมีร้านค้า ธนาคาร โรงมหรสพต่างๆ ซึ่งนิทรรศการก็ได้ยกแบบจำลองร้านแต่ละร้านมาให้เราได้ชมแบบจุใจเลยค่ะ ซึ่งถ่ายรูปสวยมากๆ และตรงนี้ เจ้าหน้าที่จะเปิดเพลงจากตู้เพลง ที่น่าจะหาดูได้ยากในสมัยนี้นะคะ เพลงเพราะๆบรรเลง แล้วก็ได้เดินชมนิทรรศการเก่าๆ เป็นพาร์ทที่ครีเอเตอร์เองรู้สึกอิ่มเอมใจไปกับบรรยากาศรอบๆมากเลยค่ะ และการมานิทรรศการนี้ ทำให้เราได้รุ้ว่า เพลงชาติไทยของเรานั้น เมื่อก่อนไม่ได้ร้องแบบนี้นะคะ ในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามนั้นมีการร้องอีกแบบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดให้ฟังด้วยค่ะ เรียกว่า อะไรไม่เคยได้รู้ ได้มารู้จากนิทรรศการนี้หลายเรื่องเลยค่ะส่วนการแสดงที่กลางมาทั้งหมดนี้ จะเรียกว่าห้องรุ่งเรือวิถีไทยนะคะ ต่อไปจะเป็นห้องจัดแสดงชื่อห้องดวงใจประชา ซึ่งจะแสดงประวัติและพระราชกรณียกิจของมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ แต่ละรัชกาล ซึ่งนำเสนอออกมากได้เป็นอย่างดีเลยค่ะเมื่อชมนิทรรศการทั้งสองห้องเสร็จแล้ว ก่อนจบ เจ้าหน้าจะแนะนำให้เราสามารถขึ้นไปจุดชมวิวเรียกว่าเกือบ 360 องศาเลยทีเดียวค่ะ เราจะสามารถชมวิวบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ มองไกลๆไปเห็นภูเขาทอง และโลหะปราสาทได้แบบไม่มีอะไรมาบัง หากชมวิวอย่างจุใจแล้ว สามารถกดลิฟท์ลงมาชั้นล่าง เพื่อจบการเดินเที่ยวชมได้เลยค่ะ วันนั้นหากไม่ติดว่ามีธุระต่อ อยากจะเดินชมอีก 1 เส้นทางเหมือนกันค่ะ อยากให้ไปเยี่ยมชมกันเยอะๆนะคะ ส่วนตัวรู้สึกว่าเงิน 70 บาทนั้น คุ้มค่าคุ้มราคาทุกบาท ทุกสตางค์เลยจริงๆ นิทรรศกาลดีๆแบบนี้จะได้อยู่ต่อไปอีกนานๆภาพทั้งหมด ครีเอเตอร์ถ่ายเองนะคะ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !