น้ำตกโตนไทร ป่าที่ราบต่ำแดนใต้ผืนสุดท้ายของภูเก็ต คงโดนหาว่าบ้าแน่ ถ้าผมจะบอกว่า “ ไปเดินป่าที่ภูเก็ตกัน “ มันมีเหรอป่าที่ภูเก็๖ เพราะมองไปทางไหนไม่ชายหาดแดดจ้า ก็ตึกรามากมาย จะเอาป่าเขาที่ไหนมาเดินได้เล่า ช้าก่อน อย่างพึ่งมองผ่าน ภูเก็๖ยังมีเส้นทางเดินป่าแอบซ่อนตัวรอนักค้นหาให้ได้มาพบ ที่สำคัญยังเป็นผืนป่าที่มี สุดยอด ยอดสุด ของสิ่งมีชีวิตเมืองไทย ไปครับ ก้าวไปด้วยกัน มุ่งหน้าสู่ ป่าฝนเขตร้อน ป่าดิบที่ราบต่ำผืนสุดท้ายของเกาะภูเก็๖ ร่วมกันตามหาสิ่งมีชีวิตถิ่นเดียว ที่พบที่ภูเก็๖เพียงแห่งเดียวในโลก ณ น้ำตกโตนไทร ทิวเขาพระแทว จ.ภูเก็ตครับ รู้จักกับ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว นานแสนนานในกาลก่อน ล้านก้าวได้อ่านเรื่องราวของผืนป่าแห่งนี้ว่า เป็นป่าฝนผืนสำคัญของจังหวัดภูเก็๖ อีกทั้งยังเป็นสถานีเพาะเลี้ยงและศึกษาเรื่องราวสัตว์ป่าเมืองไทยในนาม ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่า เขาพระแทว ส่วนอีกหน่วยที่ดูแลสถานที่แห่งนี้คือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว จัดตั้งขึ้นในปี 2523 เพื่อปกปักษ์รักษาผืนป่าต่ำผืนสุดท้ายของเกาะภูเก็ต ไม่น่าเชื่อว่าผืนป่าเล็ก ๆ ผืนนี้เคยเป็น1 ใน บ้าน 13 หลังของนกสุดหายากอย่างนกแต้วแร้วท้องดำ แม้กระพัฒนาจะรุกล้ำเกาะภูเก็ตอย่างหนัก แต่เรายังคงรักษาผืนป่าสำคัญไว้ได้ถึง 4 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่เขาพระแทวเกือบทั้งหมด เพราะที่นี่คือบ้านหลังเดียวของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์หายากที่พบที่เดียวในโลก Endermic แห่งเขาพระแทว Endermic ศัพท์แสงทางวิทยาศาสตร์ ไว้ระบุชนิดพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ที่พบ ณ จุดเล็ก ๆ เพียงจุดเดียวในโลก ซึ่งเขาพระแทวได้รับเกียรติให้เป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตถิ่นเดียวถึง 5 ชนิด นั่นคือ ปาล์มเจ้าเมืองถลาง หรือ ปาล์มหลังขาว ปาล์มถิ่นเดียวที่บเฉพาะที่ภูเก็ต ถูกค้นพบโดยนักพฤกษศาสตร์ชาวไอริช ผู้ได้ชื่อว่า บิดาแห่งวงการพฤกษศาสตร์ไทย คุณหมอ A F G Kerr หรือ หมอคาร์ ถูกค้นพบในปี 1929 อีกชนิดเป็นสัตว์น้ำตัวจ้อย เรียกว่า ปูมดแดง ซึ่งพบได้เพียงแห่งเดียวในโลกที่ภูเก็ตเช่นกัน เส้นทางเดินป่า น้ำตกโตนไทร ที่เขาพระแทว มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติอยู่สองเส้นทางคือ เส้นทางเดินป่า น้ำตกโตนไทร และ เส้นทางเดินป่า เขาพระแทว แต่เส้นทางเดินป่าที่ยังคงความสมบูรณ์ คือเส้นทางเดินป่าน้ำตกโตนไทร ที่ยังคงความเป็นป่าฝนเขตร้อนไว้ อาจเป็นเพราะไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว เราจึงยังเก็บความสมบูรณ์ของผืนป่าไว้ได้ เส้นทางสายนี้มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เดินเป็นรูปวงกลม ค่อย ๆ เดินตัดชันเลียบธารน้ำตก อ้อมลงยังฝั่งที่เป็นป่าฝนเขตร้อน ระหว่างทางเราสามารถพบเห็นสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ในป่าผืนนี้ แต่ช่างน่าเสียดายทีชนิดพันธุ์สัตว์ป่าดั้งเดิมของภูเก็ตได้สูญสิ้นไปจนเกือบหมดแล้ว คงเหลือแต่พันธุ์ไม้ที่น่าค้นหา สำหรับหลายคนที่กลัวว่าจะหาปาล์มหลังขาวไม่พบ ไม่ต้องกังวล เพราะปัจจุบัน นักพฤกษศาสตร์ไทยสามารถเพราะเลี้ยงปาล์มหลังขาวได้แล้ว และได้นำพวกเขากลับคืนสู่บ้านดั้งเดิม ดังนั้น เริ่มเดนิไม่ทันไร ปาล์มหลังขาวก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว ส่วนพันธุ์ไม้อื่น ๆ ที่น่าสนใจระว่างทางมี ต้นเคี่ยม ต้นสมพง ต้นตะเคียน ตามผืนป่าเบื้องล่าง เฟิร์นนานาชนิด รวมถึงเห็ดรา ร่วมแต่งแต้มความงดงามให้ผืนป่าโดยเฉพาะ เจ้าเห็ดที่ถือเป็นตัวแทนแห่งเขาพระแทวอย่าง เห็ดแชมเปญ สีส้มอมชมพู รูปร่างคล้ายถ้วย แบ่งบางตามคาคบไม้พื้นล่าง ให้ได้ชื่นชม ตามลำน้ำ อย่าลืมมองหา ปูมดแดง เจ้าปูตัวจ้อยที่ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่น้ำสะอาด และไม่มีการรบกวนของมนุษย์ เป็นตัวบ่งชี้ถึงความสมบูรณ์ของป่าเขาพระแทว น้ำตกโตนไทรแห่งเขาพระแทว ป่าผืนเล็กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสำคัญมากมาย เป็นแหล่งน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงชาวภูเก็ตแถบตอนเหนือของเกาะ เป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตแสนพิเศษที่ไม่สามารถพบที่ใดได้ในโลกนอกจากภูเก็ต ป่าผืนนี้สอนให้เรารู้ว่า เมื่อใดที่เราขาดป่า เมื่อนั้นเราไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ เครดิตภาพถ่าย : Yanapol Chaiwoot