ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น unseen ชื่อดังในประเทศไทย เห็นทีจะขาดชื่อของ ถ้ำพระยานคร (Phraya Nakhon Cave) อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ไปเสียไม่ได้ ด้วยเพราะบรรยากาศความงดงามของธรรมชาติ พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ที่สวยงามโดดเด่นท่ามกลางแสงพระอาทิตย์ที่ทอดตรงเข้ามาผ่านปากถ้ำ บอกเลยว่ามีแต่คำว่า ว้าว เต็มไปหมดอย่างแน่นอน หลังจากมีโอกาสแวะเวียนไปเยี่ยมชมด้วยตาเนื้อของตัวเองมาแล้วเลยอยากมารีวิว+แนะนำวิธีการเดินทางไปยังถ้ำพระยานครกันในบทความ ถ้ำพระยานคร (Phraya Nakhon Cave) อยู่ที่ไหน? ไปยังไง สำหรับถ้ำพระยานคร (Phraya Nakhon Cave) จะอยู่ภายในเขตของอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด แนะนำว่าให้ตั้ง GPS ไปได้เลย เส้นทางขับง่าย โดยเขาจะมีค่าเข้าของผู้ใหญ่อยู่ที่ 40 บาท/คน ส่วนของเด็กราคา 20 บาท/คน (ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดสามารถใช้ตั๋วรวมกันได้ทั้งหมด ยกเว้นการล่องเรือที่ต้องจ่ายแยก) ถ้าในวันนั้นเราซื้อตั๋วแล้วก็สามารถใช้ใบเดียวยิงยาวได้เลย และมีค่าจอดรถแยกคันละ 20 บาท สาระน่ารู้เกี่ยวกับถ้ำพระยานคร ชื่อถ้ำพระยานคร มาจากชื่อของพระยานคร (เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช) ที่เคยเดินทางมาหลบพายุภายในถ้ำแห่งนี้โดยบังเอิญ ภายในถ้ำพระยานครมีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญคือ "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" ซึ่งเป็นพลับพลาแบบจตุรมุข สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2433 พระที่นั่งนี้ถูกสร้างขึ้นในกรุงเทพมหานคร แล้วนำมาประกอบภายในถ้ำ โดยมีพระยาชลยุทธโยธินเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จมาทรงยกช่อฟ้าด้วยพระองค์เอง ถ้ำพระยานคร ไปยังไง เดินไกลไหม? วิธีการเดินทางมายังถ้ำพระยานคร เริ่มจากจอดรถที่ลานจอดรถด้านหน้าจากนั้นเดินตรงเข้าไปที่ทางขึ้นเขา โดยจะขอแบ่งรายละเอียดเส้นทางของการเดินทางไปยังถ้าพระยานครทั้งหมด 3 จุด ได้แก่ เส้นทางเดินขึ้นเขาหัวเขาเทียนไปยังหาดแหลมศาลา ระยะทาง 500 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที เส้นทางเดินชายหาดแหลมศาลาไปยังทางขึ้นถ้ำพระยานคร ระยะทาง 900 เมตร ใช้เวลาในการเดินประมาณ 20 นาที เส้นทางเดินขึ้นถ้ำพระยานคร ระยะทางไปจนถึงถ้ำประมาณ 430 เมตร ใช้ระยะเวลา 40 นาที สิริรวมระยะทางสำหรับการเดินไปยังถ้ำพระยานครแล้วจะเป็น 1,830 เมตร (ตีกลมๆ 2 กิโลเมตร) ระยะทางสำหรับเดินไป-กลับ ประมาณ 4 กิโลเมตร ข้ามภูเขา 2 ลูก และชายหาด 1 หาด ใช้เวลาในการเดินทางโดยรวมอยู่ 2.30-3 ชั่วโมง ถ้าถามว่าระยะทางโหดไหมบอกเลยว่าเหนื่อย หอบ โหดพอตัวเลยค่ะเพราะเป็นการเดินขึ้นเขาชันๆ ด้วย อย่างไรก็ตามเราสามารถขึ้นเรือยนต์จากหัวเขาเทียนมายังหาดแหลมศาลาเพื่อย่นระยะการเดินข้ามเขาลูกแรกได้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับการนั่งเรือไป-กลับที่ 400 บาท/คน ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีถึงหาดแหลมศาลา ถ้าใครเดินไม่ไหวก็ขึ้นเรือได้เลย (นอกจากการนั่งเรือไปยังหาดแหลมศาลาแล้วสามารถนั่งไปจุดอื่นๆ ได้ด้วย) ปล.ถ้าช่วงไหนที่คลื่นลมแรงมากๆ เรือจะงดให้บริการ เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวทุกท่านจะต้องเดินข้ามเขาเองแบบ 100% รีวิว วิธีเดินทาง + บรรยากาศ ถ้ำพระยานคร หลังจากที่ซื้อตั๋วเข้าเรียบร้อยแล้ว สามารถเดินข้ามเขาลูกที่ 1 ได้เลย สำหรับเขาลูกนี้ความชันระดับปานกลาง ใช้เวลาเดินรวมๆ ประมาณ 20 นาที มีจุดแวะพักชมวิวประมาณ 2 จุด ระหว่างทางมีวิวทะเลสวยๆ ให้ชื่นชม เป็นของขวัญแลกกับความเหนื่อยล้า ผ่านไป 20 นาที (พร้อมเสียงหอบ แฮกๆ ที่ดังขึ้นเรื่อยๆ) เจอป้ายปลอบใจว่าสุขภาพของเราก็ยังแข็งแรงอยู่ พร้อมเดินข้ามชายหาดแหลมศาลาระยะทางประมาณ 900 เมตรกันต่อ จุดนี้ใครหิวข้าว หิวน้ำ สามารถแวะพักทานอาหาร ดื่มเครื่องดื่มที่ร้านอาหารกลางหาดได้ เดินผ่านไปเรื่อยๆ จะเจอหาดแหลมศาลากับนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำทะเลกันเยอะเชียวละ บรรยากาศของหาดที่นี้จะเงียบสงบ สวยงาม เพราะว่าการจะข้ามมาได้ต้องเดินข้ามเขาหรือนั่งเรือยนต์มาโดยเฉพาะ เดินตรงมาอีกเรื่อยๆ จะเจอกับป้ายทางเข้าหาดถ้ำพระยา ให้เราเดินตรงต่อไปตามทาง จากนั้นจะเดินผ่านบ่อพระยานคร ซึ่งเป็นอีกจุดสำคัญในประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน เดินเลียบป่าสนมาจนถึงตีนเขา ทางขวามือจะมีม้านั่งสำหรับนักพักเหนื่อย และมีป้ายกำกับเอาไว้อย่างชัดเจนว่าผู้ที่มีโรคประจำตัวควรพิจารณาตัวเองให้ถี่ถ้วนก่อนขึ้นไปเพราะการเดินขึ้นเขาจะค่อนข้างชันและเหนื่อยเป็นพิเศษ สำหรับเขาลูกที่ 2 ส่วนตัวเราว่าชันกว่าลูกแรกมากๆ ทางเดินจะมีความซิกแซ็กไปมา มีทั้งช่วงที่เป็นหินชั้นๆ ที่เดินง่าย ตัดสลับกับบางจุดที่เดินได้ยาก ต้องระมัดระวังกันมากเป็นพิเศษ ระหว่างทางจะมีจุดพักชมวิว 1 จุด ซึ่งตรงนี้จะมีเจ้าหน้าที่พร้อมกล่องพยาบาลรวมถึงเป็นจุดที่สามารถชมค่างแว่นได้แบบตัวเป็นๆ ค่อยๆ เดินไปอย่างใจเย็น ไม่ต้องรีบร้อน เมื่อครบระยะ 430 เมตรจากตีนเขา เราก็จะเข้าสู่ปากทางเข้าถ้ำพระยานคร แต่ก็ใช่ว่าเห็นป้ายแล้วจะยลความงามได้ทันทีเพราะว่าเรายังต้องเดินลงบันไดเข้าถ้ำไปอีกประมาณ 200 เมตร ระหว่างทางมีนักท่องเที่ยวเดินออกจากถ้ำและเข้าถ้ำเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย ใครเหนื่อยก็สามารถนั่งพักได้ตามโขดหิน เจอป้ายบอกทางด่านสุดท้าย ว่าแล้วก็เดินไปยังทิศเดียวกับที่ป้ายชี้ได้เลยจ้า มาถึงจุดที่พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ตั้งอยู่ บอกเลยว่างดงามจับใจมากๆ ค่ะ แสงแดดที่ส่องลอดเข้ามาในถ้ำดูงดงาม สร้างแสงตกกระทบและเงาในถ้ำได้อย่างน่าดูชม สำหรับพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์นั้นตั้งเด่นอยู่ท่ามกลางพื้นยกสูง ด้านนอกมีรั้วรอบขอบชิด สำหรับช่วงเวลาที่สวยที่สุดสำหรับการเข้าชมถ้ำพระยานคร เจ้าหน้าที่ประจำในถ้ำแนะนำว่าควรเข้ามาประมาณ 10 โมงกว่าๆ เพราะเป็นเวลาที่แสงพระอาทิตย์สาดลงมากระทบกับพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์โดยตรง จะเป็นช่วงที่วิวสวยที่สุดของวันนั่นเอง หลังจากชื่นชมความงามในถ้ำพระยานครเรียบร้อยแล้วก็เดินทางกลับได้ด้วยการใช้เส้นทางเดิมกับขามา จากประสบการณ์ที่เราไปเดินข้ามเขาทั้ง 2 ลูก (ทั้งขาไปและขากลับ) เพื่อชมวิวสวยๆ ที่ถ้ำพระยานคร สิ่งที่อยากแนะนำคือ ควรพกน้ำเปล่า เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำหวานๆ ยาดม ยาลม ติดตัวไปด้วยเพื่อเรียกแรง พกพัดหรือพัดลมมือถือไปด้วยเพื่อเป่าลมเย็นให้สดชื่น ส่วนเรื่องการแต่งกายเน้นเป็นชุดที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกและใส่รองเท้าผ้าใบเพื่อช่วยให้เดินขึ้นเขาได้ถนัดๆ ถ้าถามว่าเดินทางข้ามเขาไปยังถ้ำพระยานคร ดีไหม คุ้มค่าไหม? ส่วนตัวเราบอกได้ว่าถือเป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ บรรยากาศความงดงามที่เราสัมผัสได้ด้วยตาเนื้อคือสิ่งที่เราชื่นชอบมากๆ อีกทั้งเมื่อเราเดินทางจนสำเร็จลุล่วงก็รู้สึกชื่นชมในความพยายามและความอดทนของตัวเอง เรียกว่าเป็นการเดินขึ้นเขาที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่น่าประทับใจจริงๆ ภาพหน้าปก และ ภาพในเนื้อหาทั้งหมด โดย ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !