“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ผมหนุ่ม-สุทน ชอบเก็บเรื่องราวมาเล่าให้แฟน ๆ นักอ่านทุกคนที่ติดตามผลงาน และงานเขียนของผมเพื่อบอกข้อมูลโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวตามที่ต่าง ๆ และเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวจากบันทึกการเดินทางของผมครับ ณ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราดตั้งอยู่ถนนหลักเมือง อ.เมือง จ.ตราด ก่อนจะถึงวัดโยธานิมิตครับ หนุ่ม-สุทน ขอเล่าเรื่องย้อนอดีตก่อนเมื่อครั้งพระยาตากสินหรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ครั้งประวัติศาสตร์ของกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีในปี พ.ศ. 2309 กรุงศรีอยุธยาถูกกองทัพของพม่าล้อมเกาะกรุงศรีอยุธยาและเข้าตีเผาบ้านเผาวังหลวงกรุงศรีอยุธยาแทบไม่เหลือซาก ก็เลยทำให้ชาวบ้านชาวเมืองหนีภัยสงครามเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ครั้งนั้นพระยาตากสินหรือพระยาวชิรปราการได้รวบรวมผู้คนประมาณ 500 ชีวิต ตีผ่าวงล้อมของทัพพม่าแล้วเดินทางสู่เป้าหมายคือภาคตะวันออก ตามเส้นทางเมืองบางละมุง เมืองระยองแล้วสามารถยึดเมืองจันทบูรณ์หรือจันทบุรีได้ แล้วรวบรวมผู้คนชาวจันทบูรณ์เพื่อช่วยกันกอบกู้เอกราชกรุงศรีอยุธยาครับ ครั้งนั้นพระยาตากสินหรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้มาเมืองตราดเพื่อขอให้ชาวบ้านชาวเมืองตราดเห็นแก่บ้านเมืองช่วยกันกอบกู้เอกราชกลับคืนมาให้ได้ ดังนั้นสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจึงทรงโปรดฯ ให้สร้างศาลหลักเมืองขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวเมืองตราดครับ ต่อมาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เรียกว่า ร.ศ 112 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมืองตราดถูกประเทศมหาอำนาจคือฝรั่งเศสเข้ายึดเมืองตราดก็เลยทำให้ชาวบ้านชาวเมืองเสียขวัญเรื่องของประเทศมหาอำนาจยุคล่าอาณานิคมของชาวตะวันตกที่ส่งกองกำลังเข้ามายึดน่านน้ำทะเลสยามภาคตะวันออกนานประมาณ 10 ปีครับ เมื่อเป็นเช่นนี้ชาวเมืองตราดจึงได้มาพึ่งบารมีศาลหลักเมืองเป็นศาลไม้ไม่ใหญ่มากนักครั้งนั้นยังเรียกศาลหลักเมือง 1.ตัวเสาหลักเมืองเสาสูง 2.องค์เสาหลักที่ตัวเสาต่ำกว่าคือศิวลึงค์ชาวเมืองตราดได้ไปขออัญเชิญมาจาก ต.ห้วยแร้ง เพราะว่าองค์เสาศิวลึงค์นี้เป็นที่ศรัทธาเคารพนับถือของชาวบ้านห้วยแร้งเมืองตราด เพื่ออัญเชิญมาก็ประดิษฐานคู่กันเป็นศาลหลักเมืองครับ สมัยที่กองกำลังทหารฝรั่งเศสเข้ามาประจำการในเมืองตราดเห็นว่าชาวเมืองตราดเข้ามาภายในศาลหลักเมืองกันมากทุกวัน ก็เลยไม่พอใจ แล้วทหารฝรั่งเศสได้มาช่วยกันถอนหรือดึงเสาหลักออก ปรากฏว่าไม่สามารถดึงตัวเสาหลักเมืองขึ้นมาได้ พวกทหารฝรั่งเศสก็เกิดอาการป่วยทันทีโดยไม่รู้สาเหตุ ป่วยหนักแล้วก็เกิดความกลัวๆ ไม่กล้ากลับมาถอนเสาหลักเมืองอีก ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ รัชกาลที่ 5 ทรงสละนครวัด-ทะเลสาบและเกาะกง ของประเทศเขมรหรือกัมพูชา ซึ่งเคยเป็นของสยามประเทศเพื่อแลกกับเมืองจันทบูรณ์หรือจันทบุรีและเมืองตราด กองกำลังทหารฝรั่งเศสก็ถอนกองกำลังกลับไป เมื่อเป็นเช่นนี้ชาวตราดจึงมีความสุขอีกครั้งกับอิสระภาพ และประกอบอาชีพได้ถึงทุกวันนี้แหละครับ นี่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เมืองตราดเท่านั้นครับ เรากลับมาเรื่องของศาลหลักเมืองตราดกันต่อครับ เข้ามาในปี พ.ศ. 2543 ชาวจีนที่เข้ามาทำการค้าใน จ.ตราดเห็นว่าศาลหลักเมืองเป็นศาลไม้เก่าแก่ชำรุดมากก็เลยร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเป็นศาลเจ้าคล้าย ๆ วังโบราณของชาวจีนหรือแบบเก๋งจีนโบราณและประกอบพิธีบวงสรวงเทวรูปองค์เจ้าพ่อหลักเมืองหรือเสี่ยอึ่งกง ประดิษฐานพร้อมด้วยเทพเจ้าโชคลาภประดิษฐานทางด้านซ้าย ส่วนด้านขาวคือเทพเจ้าปฐพีเป็นเทพเจ้าคุ้มครองให้รอดพ้นจากภัยพิบัติต่าง ๆ สำหรับศาลหลักเมืองตราดปัจจุบันเรียกว่าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง มีเรื่องราวเล่าขานจากชาว จ.ตราด ถ้าใครซื้อรถยนต์ทุกชนิดส่วนใหญ่จะขับรถมาที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราด จุดธูปเทียนขอถวายรถให้เจ้าพ่อหลักเมืองเสร็จแล้วขออัญเชิญเจ้าพ่อหลักเมืองประทับบนรถแล้วขับรถเข้าเมืองตราด แล้วกลับมาส่งที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเป็นอันเสร็จพิธีครับ เขาเล่าขานกันว่าถ้าหากรถยนต์หายขโมยจะขับรถมาจอดในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราดทุกคันครับ นี่แหละเป็นเรื่องราวเล่าขานเมื่อครั้งอดีตแต่ทุกวันนี้ชาว จ.ตราดยังถือปฏิบัติอยู่นะครับเพราะหนุ่ม-สุทนเดินทางไปศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราดพึ่งกลับมาก็เห็นชาวตราดซื้อรถยนต์แล้วประกอบพิธีถวายเจ้าพ่อหลักเมืองครับ แต่อย่างไรก็ตามทุกปีของวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 จะมีงานฉลองศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเรียกว่า “วันงานพลีเมืองหรืองานวันเกิดองค์เจ้าพ่อหลักเมือง” ครับ หนุ่ม-สุทน ขอแนะนำควรจะหาโอกาสเดินทางท่องเที่ยวเมืองตราดสักครั้งหนึ่งนะครับแล้วลองศึกษาข้อมูลในด้านต่าง ๆ ดูครับเพราะมันคืออรรถรสในการเดินทางที่คุณจะได้ทั้งความสนุกและความรู้ควบคู่กันไปครับผม เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์ แฟนเพจเฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/ #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #ตะลอนชิมกาแฟทั่วไทย #เที่ยวทั่วไทยคลื่นข่าว100.5fm #คนรักษ์กาแฟ #bigmaptravel #เที่ยวเพลิน