หากพูดถึง สิงคโปร์ แม้ว่าที่นี่จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกให้หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวกันในแต่ละปีมีจำนวนไม่น้อยเลย เนื่องจากว่ามีความหลากหลายในด้านสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นแหล่งบันเทิง แหล่งช้อปปิ้ง แหล่งอาหาร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด้านความเชื่อในการมาขอโชคลาภและความโชคดี อีกทั้งได้จัดเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีแม้จะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยตึกจำนวนมากก็ตาม วันนี้เราเลยจะมาแจกแพลนเที่ยววันหยุดยาว กับ 8 จุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของประเทศสิงคโปร์ ตามนี้เลยค่ะ1.เมอร์ไลอ้อน (The Merlion)จุดนี้ถือเป็นจุดไฮไลท์ที่ใครมาต้องมาถ่ายภาพกับ เมอร์ไลอ้อน หรือที่หลายคนเรียกว่า สิงโตทะเล เป็นสัญลักษณ์ที่มีความโดดเด่นของประเทศสิงคโปร์ ถูกออกแบบผสมผสานระหว่างความจริงกับตำนาน โดยเจ้ารูปปั้นดังกล่าวมีหัวเป็นสิงโตและท่อนล่างมีตัวเป็นปลาหันหน้าพ่นน้ำออกสู่อ่าวมารีน่าอย่างสง่างาม อีกทั้งจากจุดเมอร์ไลอ้อนหากเรามองไปโดยรอบจะเห็นสถานที่สำคัญๆอยู่หลายจุด เช่น โรงละครเอสพาเนด, มารีน่าเบย์ แซนด์ สกายปาร์ค, สิงคโปร์ ฟลายเออร์ และตึกที่สูงเด่นตระหง่านจำนวนมากพิกัด : เมอร์ไลอ้อน (The Merlion)2.สิงคโปร์ ฟลายเออร์ (Singapore Flyer)สิงคโปร์ ฟลายเออร์ เป็นอีกหนึ่งจุดที่สร้างความตื่นเต้นและท้าทายให้กับผู้ที่กล้วความสูงได้ดีเลยทีเดียว เพราะเป็นกระเช้าชิงช้าสวรรค์ที่มีลักษณะเป็นแคปซูลปิดตาย จะมีทั้งหมด 28 แคปซูล แต่ละแคปซูลจะสามารถบรรจุคนได้ราวๆ 28 คน โดยความพิเศษของเจ้าชิงช้าสวรรค์นี้ก็คือ เมื่อหมุนขึ้นถึงยังจุดสูงสุดเราจะสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของสิงคโปร์ได้หมดเกือบทั้งเกาะเลยค่ะ เพราะฉะนั้นหากใครมาเที่ยวที่นี่ต้องลองขึ้นให้ได้นะคะพิกัด : สิงคโปร์ ฟลายเออร์ (Singapore Flyer)3.เที่ยวย่านไชน่าทาวน์ สิงคโปร์ (Chinatown)ย่านไชน่าทาวน์แห่งนี้ ถือเป็นย่านที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกแห่งชาติของสิงคโปร์ หากใครมาที่นี่ก็จะได้เห็นวิถีชีวิตของคนในย่านนี้ ไม่ว่าจะเป็น วัดเก่าแก่โบราณ ตึกแถว อาคารร้านค้าที่มีการออกแบบเน้นสีสันที่หลากหลาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่ให้เราได้มาสัมผัสกับอาหารท้องถิ่นจากต้นตำหรับอีกด้วย จริงๆ ถ้าได้มาย่านนี้ คือเดินเพลินมากๆเลยล่ะค่ะ เพราะเป็นทั้งแหล่งของกินของฝากและแหล่งทำบุญพิกัด : ไชน่าทาวน์ สิงคโปร์ (Chinatown)4.วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple)วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว หรือวัดพระเขี้ยวแก้ว เป็นวัดที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ในย่านไชน่าทาวน์ โดยการออกแบบวัดเป็นสถาปัตยกรรมระหว่างสมัยราชวงศ์ถังของจีนผสมผสานกับศิลปะแบบแมนดาลาจากทิเบตที่สร้างด้วยงบจำนวนมหาศาล ภายในตัววัดมีความสวยและอลังการมากๆ ใครที่มาสิงคโปร์ก็มักจะเข้ามาขอพรเพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเอง เพราะฉะนั้นสายมูเตลูทั้งหลายต้องห้ามพลาดแล้วล่ะค่ะพิกัด : วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple)5.ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studios Singapore)ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ ถือเป็นสวนสนุกแห่งแรกและแห่งเดียวในภูมิภาคที่ให้เราได้สัมผัสกับภาพยนตร์จาก Holly Wood ด้วยเครื่องเล่นที่มีมากกว่า 20 จุด โดยภายในจะมีเครื่องเล่นที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รถไฟเหาะตีลังการางคู่ที่สูงที่สุดในโลก เครื่องเล่นจากภาพยนตร์ โซนมัมมี่ ขบวนแฟนซี ใครที่ชอบท้าทายหรืออยากย้อนกลับสู่วัยเด็กต้องห้ามพลาดเลยค่ะ ในวันหนึ่งของเราอาจจะจบกับที่นี่ที่เดียว เพราะเครื่องเล่นเยอะจริงๆ ค่ะพิกัด : ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studios Singapore)6.เสริมพลังบวกกับน้ำพุแห่งโชคลาภ หรือน้ำพุแห่งความมั่นคั่ง (Fountain of Wealth)น้ำพุแห่งความมั่นคั่ง (Fountain of Wealth) นี้ ตั้งอยู่กลางกลุ่มอาคาร Suntec city ว่ากันว่าตัวอาคารได้ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ยทุกประการ จึงเชื่อว่าเป็นจุดที่มีฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดในโลก ในตัวของน้ำพุตามหลักมีความเชื่อว่าเป็นจุดศูนย์รวมของพลังงานด้านบวกที่ดึงดูดผู้คนที่มีความศรัทธาทางศาสตร์นี้ให้เดินทางมารับพลังดีๆจากที่นี่ โดยการใช้มือสัมผัสหรือได้สัมผัสกับละอองของน้ำก็จะทำให้ผู้นั้นมีโชคลาภและได้รับความโชคดี ถือเป็นอีกจุดเช็คอินของสิงคโปร์ที่ห้ามพลาด ยิ่งถ้าได้มาในช่วงเวลากลางคืนจะยิ่งสวยมากๆ เลยล่ะค่ะพิกัด : น้ำพุแห่งความมั่นคั่ง (Fountain of Wealth)7.การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay)หากใครที่ชอบชื่นชมความสวยงามของเหล่าพรรณไม้ต่างๆ ไม่ควรพลาดที่นี่เลยค่ะ กับ การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay) เพราะเป็นสถานที่รวบรวมพรรณไม้นานาชนิดจากทั่วทุกมุมโลกได้นำมาจัดแสดงไว้ที่นี่ โดยจะมีโซนที่น่าสนใจ ได้แก่ Bay South, Bay East และ Bay Central ซึ่งสวน Bay South จะค่อนข้างได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ เนื่องจากตัว Flower Dome มีการจัดแสดงพรรณไม้ดอกหลากหลายพันธุ์เป็นจำนวนมาก อีกทั้งโซนถ่ายภาพก็เยอะ เพราะฉะนั้นห้ามพลาดเลยค่ะ...พิกัด : การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay)8.มารีน่า เบย์ แซนด์ (Marina Bay Sands)แน่นอนว่าหากใครมาสิงคโปร์จะต้องเห็นตึกสูงที่มีความโดดเด่นอย่าง มารีน่า เบย์ แซนด์ รีสอร์ทสุดหรูที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ จะมีรูปร่างคล้ายเรือ ตั้งอยู่บนอาคารทั้ง 3 แซนด์ สกายพาร์ค ซึ่งเป็นสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลกสูงกว่า 200 เมตร ถือว่าเป็นอีกจุดที่น่าสนใจเลยค่ะพิกัด : มารีน่า เบย์ แซนด์ (Marina Bay Sands)สำหรับแพลนเที่ยวสิงคโปร์ตอนที่เราไป เป็นแพลน 5 วัน 3 คืน รวมวันเดินทางไปและกลับด้วยนะคะโดยแพลนวันแรก ได้แก่ เมอร์ไลอ้อน, โรงละครเอสพาเนด, สิงคโปร์ ฟลายเออร์ และเที่ยวทำบุญย่านไชน่าทาวน์ ในส่วนของวันที่ 2 ย้อนวัยไปกับเครื่องเล่นที่หลากหลายที่ ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ เกือบเต็มวันเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะเครื่องเล่นเยอะมาก ในส่วนช่วงเย็นล่องเรือในอ่าวมารีน่า(Marina Bay) ชมความสวยงามยามค่ำคืนของสิงคโปร์และในส่วนของวันที่ 3 ได้แก่ น้ำพุแห่งความมั่งคง, วัดเจ้าแม่กวนอิม, การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay), มารีน่า เบย์ แซนด์ (Marina Bay Sands) และแหล่งช๊อปปิ้งย่านดังย่านออร์ซาร์ด โร้ด (Orchard Shopping Street) เป็นต้นนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่เราแนะนำแล้ว หากใครมาสิงคโปร์อาหารที่อยากให้ได้ลอง ก็จะได้แก่ ข้าวมันไก่สิงคโปร์, มักกุ๊ดเต๋ (Buk Kut Teh), ติ๋มซำ (Dim Sum), คายาโทส (Kaya Toast), หมี่ผัด (Char Kway Teow), ลักซา (Laksa), ผัดขนมผักกาด, นาซี เลมัก (Nasi Lemak) และโรตี พราตา เป็นต้น ใครที่กำลังจะไปเที่ยวสิงคโปร์ลองนำแพลนของเราไปวางแผนกันได้ค่ะ เพราะส่วนใหญ่สถานที่จะไม่ไกลกันมาก ฝากติดตามเราด้วยนะคะ "ไปเที่ยว มาเล่า"ภาพประกอบบทความจากเพจ : ไปเที่ยว มาเล่า (ภาพของตัวนักเขียน) ข้อมูลเพิ่มเติมเพจไปเที่ยว มาเล่าบทความอื่นๆ ของไปเที่ยว มาเล่า ติดตามข่าวสาร คอนเทนต์เด็ด ๆ ก่อนใคร อย่าช้า โหลดเลยที่ TrueID !!