สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวบล็อกทุกคน บทความนี้เป็นบทความแรกของผมที่ได้เขียนขึ้นมา โดยใช้ชื่อผู้เขียนว่า JapaenCreator อย่างไรก็ดี ผมขอฝากทุกคนช่วยติดตาม ติชม และแนะนำกันด้วยนะครับผม ในช่วงนี้ก็เรียกได้ว่า เป็นช่วงที่สถานะการณ์การท่องเที่ยวนั้นค่อนข้างเงียบ เนื่องจากการระบาดของโคโรนาไวรัส (covid-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทางเพื่อท่องโลกของสายเที่ยวกันมากๆ แน่นอนว่าเมื่อไม่ได้เดินทางแล้ว หลายคนก็ต้องกักตัวอยู่บ้านเพื่อความปลอดภัยตามนโยบายภาครัฐกันด้วย และบางคนอาจจะรู้สึกเบื่อ ดังนั้น วันนี้ผมจึงนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้เดินทางไปกับกลุ่มเพื่อนสนิทของผมที่เรียนอยู่ด้วยกันก่อนที่จะเกิด (covid-19) มาให้ทุกคนได้ชมแก้เบื่อกันครับ โดยสถานที่ทั้งสามจุดที่เราเดินทางไปนั้น สองจุดแรกคือ เขาค้อ และภูทับเบิก อยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และจุดที่สาม คือ เชียงคาน อยู่ที่จังหวัดเลยครับ แต่ขอแอบบอกก่อนเลยนะครับว่า เป็นการเดินทางที่ทั้งเหนื่อย ทั้งสนุก และหวาดเสียว เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางที่ครบรสมากๆ ทีเดียว และที่สำคัญคุ้มค่าที่ได้เดินทางไปสุดๆ ครับ ใครที่ยังไม่เคยไปในสถานที่ที่ทุกคนจะได้ชมต่อไปนี้ หาก (covid-19) เริ่มลดหายไปแล้ว ก็สามารถตามผมมาได้นะ เอาล่ะ! อย่ามัวรอช้า ไปชมกันเลยดีกว่าครับ อย่างที่บอกไปว่าเป็นการเดินทางที่เหนื่อย แต่สนุก เพราะเราใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางไปนั่นเองครับ เริ่มเดินทาง ประมาณ 04:00น. จากจังหวัดมาสารคาม มุ่งหน้าสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้เวลาเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง ถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ ประมาณ 07:00น. สิ่งแรกที่พวกเราทำคือ หาร้านอาหารครับ หลังจากทานอาหารเสร็จ เราก็มุ่งหน้าสู่แลนด์มาร์กที่แรก ซึ่งก็คือ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เรียกได้ว่า เป็นวัดที่วิจิตรตระการตามากๆ เลยทีเดียวครับ แม้ช่วงเวลาเช้ามีแสงแดดจ้าไปหน่อย แต่ด้วยสถานที่ที่อยู่บนภูเขาจึงทำให้รู้สึกเย็นทั้งกายทั้งใจเลยล่ะครับ เมื่อเราเก็บภาพแห่งความทรงจำกันจุใจแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางไปยังสถานที่ถัดไป ก็คือ ภูทับเบิก ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกที่ขับรถไปพร้อมกับการเกร็งตัวตลอดทาง ด้วยเส้นทางที่สูงชัน และคดเคี้ยวมากๆ อีกทั้งยังมีถนนที่ชำรุดบางจุด ซึ่งตอนนี้น่าจะซ่อมแซมกันเสร็จแล้วล่ะครับ เมื่อจอดพักแล้วเห็นสภาพรถที่กลบไปด้วย ฝุ่น และโคลน ก็นึกไปว่า เราก็ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ฮ่าๆๆ ระหว่างนี้ก็ปล่อยรถพักไป เราก็ไปถ่ายเก็บภาพแห่งความทรงจำให้หายเกร็งกันดีกว่า "ไหนลองมองกลับไปทางที่เราเดินทางมาหน่อย" โค้งเล็กๆ เอ๊ง! (แต่จะบอกว่าโค้งเล็กๆ นี่แหละที่ทำผมเข่าแทบทรุด ฮ่าๆๆ) เอาล่ะ รถก็ได้พัก คนก็ได้พัก หายเกร็งละ เดินหน้ากันต่อ เดี๋ยวจะมืดซะก่อน จากนั้นเราก็เดินทางไปยังที่พักกันต่อ เข้าผิดซอยบ้าง gps พามั่วบ้าง ซึ่งบอกเลยว่า การกลับรถบนเขา สำหรับผมไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะถึงที่พักก็ทำเอาทุกคนบนรถเหนื่อยไปตามๆ กันเลยล่ะครับ แต่ที่สุดแล้ว ยังไงความสำเร็จย่อมไม่ทรยศต่อความพยายามครับ เราถึงที่หมายโดยปลอดภัย ก็ฟรีสไตล์กันไปครับ ทานข้าว เก็บภาพแห่งความทรงจำ และแน่นอน เราเก็บมาฝากทุกคนด้วยครับ ไปชมกัน! จะค่ำแล้ว อากาศก็เย็นมากทีเดียวเชียว เข้าที่พักกันเถอะ ถ่ายตอนมาถึง ภาพก็จะสว่างหน่อยเนอะ เอาล่ะ เข้านอน แล้วรีบตื่นมารับเช้าวันสดใสกันครับ ผ่านวันแรกไปอย่างปลอดภัยกับที่หมาย "ภูทับเบิก" เข้าสู่วันที่สอง (เสียงนาฬิกาปลุก) เช้าแล้ว รีบเตรียมตัว แล้วออกไปจุดชมวิวกันดีกว่า ไปเลย เอ้ย! ไปภูทับเบิก!! (แฮร่ มุก 5บาท 10บาท ก็ยังจะเล่น ฮ่าๆๆ) เก็บภาพสวยๆ ไปทำโปรไฟล์ได้เลย "แต่เอาจริงๆ เสียดายมากๆ ที่วันนี้ไม่มีทะเลหมอก แต่ไม่เป็นไรครับ อย่างน้อยๆ ก็ถือว่าเราได้เคยไปมาแล้วเนอะ" กลับมาชมวิวแถวๆ ที่ทานข้าวในที่พักกันดีกว่า เช้าๆ สวยใช้ได้เลยนะ มาชมซากุระเมืองไทย หรือดอกพญาเสือโคร่ง นั่นเอง "สวยใช่เล่นเลยนะเรา" เอาล่ะถ่ายภาพกันจุใจแล้ว ทานข้าวอิ่มท้อง ก็พร้อมลุยกันต่อละครับ เดินทางไปสถานที่ต่อไปกันเลย! สถานที่ต่อไปก็คือ "เชียงคาน" นั่นเองครับผม เราเดินทาง ใช้เวลากันนานมาก ขับรถจนร่างกายเพลียกันทีเดียว แต่พอถึงที่หมาย เราก็หายเหนื่อยเหมือนปลิดทิ้งกันไปเลยครับ และนี่คือที่หมายของเราครับ "เชียงคาน จังหวัดเลย" ที่พักสองชั้น พักด้วยกันได้จุใจอย่าบอกใคร "เลย" เชียว (ใครสนใจก็ลองติดต่อกันเข้าไปตามเบอร์โทรในภาพได้ครับ) พักหายเหนื่อยแล้ว ไปเดินเล่น หาอะไรทาน ที่ถนนคนเดินกันดีกว่า เช่นเคยครับ เก็บภาพแห่งความทรงจำกับเพื่อนผมว่านาทีนี้คือที่สุดแล้วล่ะ ถ่ายเสร็จ เดินเล่น หาของกิน ชมบรรยากาศ ปั่นจักรยาน เลือกที่ชอบสักอย่าง ก็ถูกใจไม่เบาเลยล่ะครับ เข้าสู่คืนที่สองของการเดินทางแล้ว พักเอาแรงกันก่อน และทุกช่วงเวลาที่เดินผ่านไป ก็พาเรามาสู่เช้าของวันที่สาม (เสียงนาฬิกาปลุก) เช้าวันที่สาม พร้อมลุย! ตื่นอาบน้ำแต่งตัว และสิ่งแรกที่ผมตั้งใจจะทำก็คือ "ตักบาตร" ครับ ตักบาตรแล้วใจก็สงบร่มเย็นขึ้น จะทำให้มีกำลังใจที่จะก้าวต่อไป เสร็จจากนั้น ผมก็นึกขึ้นได้ว่า เมื่อคืนคุยกับเพื่อนๆ เห็นว่า เชียงคาน มีสถานที่ใกล้ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง จึงเลือกมาหนึ่งจุด หลังจากตักบาตรเสร็จ ผมก็ได้รีบขับรถไปชมเลย และสถานที่นั้นก็คือ "ภูทอก เชียงคาน" จังหวัดเลย นั่นเองครับ ในใจคิดไว้เลยว่า "พลาดทะเลหมอกจากภูทับเบิกมาแล้ว ขออย่าให้พลาดทะเลหมอกที่ภูทอกอีกเลย" แล้วก็สมหวังจริงๆ ครับ สวยจัง ถ่ายภาพไว้ลงโซเชียลกันหน่อย เก็บภาพกันจุใจแล้ว กลับที่พักไปเดินเล่น ก่อนเดินทางต่อกันครับ เดินริมโขงยามเช้า ได้บรรกาศที่ดีไปอีกแบบเลยครับ เอาล่ะครับ! มาถึงตอนนี้ ก็เป็นการเดินทางวันสุดท้ายของเราแล้ว เที่ยวกันจนอิ่มอกอิ่มใจละ เหลือที่หมายอีกเพียงจุดเดียวคือ "บ้าน" ครับ เราทุกคนต่างก็สนุก เหนื่อย และหวาดเสียวกันสุดๆ สำหรับทริปนี้ เอาเป็นว่า ช่วงสถานะการณ์ (covid-19) นี้ ผมก็ขอให้ทุกคนปลอดภัยกันถ้วนหน้านะครับ ส่วนใครที่สนใจอยากจะเดินทางตามพวกเรามา ก็อย่ารอช้าครับ เมื่อสถานะการณ์โลกดีขึ้น ก็ให้รีบตามกันมา "เลย" ครับ ขอให้ทุกคนโชคดีครับผม ท้ายนี้ ก่อนไปผมขอฝากช่องทางการติดตามผมหน่อย ทุกคนสามารถเข้าชม และพูดคุยกับผมได้ที่ Facebook Page : JPAEN PHOTOs ขอบคุณครับ (Bye) ภาพประกอบทั้งหมด โดยผู้เขียน