ความใฝ่ฝันในตอนเด็กๆ อย่างหนึ่งคือ "การได้ล่องแพ" เพราะเวลาเห็นผู้ใหญ่ล่องแพรู้สึกสนุกและมีความสุขมาก เพราะเป็นการเดินทางที่ไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงใดๆ และไม่ได้อันตรายจนเกินไปอีกด้วย เป็นการเดินทางที่สามารถช่วยกันได้หรือแบ่งกันทำหน้าที่ในแต่ละช่วง สามารถขนส่งของได้ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญก็ยังนำไม้ไผ่ที่ล่องแพมากลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย โตขึ้นมาก็มีโอกาสได้ไปล่องแพกับเพื่อนๆ แต่กว่าจะได้สนุกและผ่อนคลายอย่างที่เราเห็นผู้ใหญ่ล่องลงมาต้องเหนื่อยกันก่อนพอสมควร มีขั้นตอนคร่าวๆ อะไรบ้าง ลองมาอ่านกันดู1. ก่อนทำการล่องแพก็ต้องเดินเท้ากันมาที่ต้นๆ ของสายน้ำหรือบริเวณที่เราจะล่องแพ ซึ่งการมาของเราก็มีจุดประสงค์ เช่น มาเก็บผักในป่า มาสวน หรือเพื่อนำไม้ไผ่ไปใช้โดยตรงก็มี การเดินเท้าเพื่อมาล่องแพก็ถือว่าสนุกอีกแบบหนึ่ง เพราะได้พูดคุยกับเพื่อนๆ ชมบรรยากาศธรรมชาติข้างทาง เก็บผักเป็นช่วงๆ กันไป ใช้เวลาสัก 2 ชั่วโมงได้ 2. เวลาจะทำแพก็ต้องไปหาลำไม้ไผ่ที่สามารถใช้ให้ตรงกับงานได้ ขั้นตอนนี้ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะได้ลำไม้ไผ่ที่มีลำสวยหรือตรง โดยหาที่เหมาะกับงานที่จะไปใช้ต่อ ไม่เล็กเกินไปหรือใหญ่เกินไป ส่วนจำนวนลำไม่ไผ่ก็แล้วแต่ต้องการ อย่างน้อยก็ 7-10 ลำกำลังดี ที่เหมาะกับจำนวนคนที่จะล่องลงมาด้วย นำไม่ไผ่ที่ตัดมาแล้วมาวางที่ริมน้ำไว้ ใช้เวลาอีกราว 1 ชั่วโมงในการทำ 3. ให้เฉาะแต่ละลำไม้ไผ่ส่วนหัวเป็นรู 2 ด้านตรงข้ามกันเหนือปล้อง เพื่อเสียบไม้หรือไม้ไผ่ขนาดเล็ก เพื่อยึดแต่ละลำเข้าด้วยกัน หากเป็นไม้ไผ่ก็นำปลายที่เหลือพับด้านบนอีกครั้งเพื่อให้แข็งแรงยิ่งขึ้น จากนั้นก็ใช้ตอกมัดหรือเถาวัลย์พันให้ยึดติดกันให้แข็งแรง 4. มัดส่วนกลางและท้าย โดยใช้ไม้ขนาดเล็กหรือลำไม้ไผ่เล็กๆ วางไว้บนลำไม้ไผ่ทั้งหมดที่นำมาเรียงกัน มัดยึดให้แน่นเช่นเดียวกัน5. ตัดไม้ไผ่ขนาดเล็กและหนาที่มีความแข็งแรงเพื่อใช้เป็นไม้ถ่อ ตามจำนวนคนที่จะถ่อหรือเผื่อสำรองกรณีลอยตามน้ำไปหรือไปติดตามซอกหินเวลาถ่อ6. บางแพที่มีขนาดใหญ่ก็สามารถทำที่นั่งให้สูงขึ้นมาจากลำแพที่สัมผัสน้ำโดยตรง เพื่อวางสัมภาระหรือของที่นำมาไม่ให้เปียกได้ด้วยเช่นกัน ส่วนคนที่ถ่อแพก็มักพร้อมที่จะเปียกอยู่แล้ว เลยไม่ต้องกังวลอะไร และใช้เวลาล่องแพอีกราว 1 ชั่วโมง การไปล่องแพโดยมีรุ่นพี่หรือผู้เชี่ยวชาญไปด้วยจะช่วยให้แก้สถานการณ์ต่างๆ ได้ในเวลาล่องแพ เพราะจะรู้จังหวะแต่ละช่วงของลำน้ำ บางที่เป็นเกาะแก่ง บางที่น้ำเชี่ยว บางที่น้ำลึก บางที่น้ำตื้น บางที่มีหิน ลำน้ำโค้งต่างๆ ทำให้การล่องแพมีความปลอดภัยได้มากขึ้นและไม่ติด จากที่เคยล่องแพตามสายน้ำรันตี ที่หมู่บ้านกองม่องทะ ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีมา รวมๆ ก็ราว 5-6 ชั่วโมง ตั้งแต่ขาไปและขากลับ ทำให้ได้สัมผัสน้ำ เล่นน้ำ ผ่อนคลายได้เรื่อยๆ ได้เห็น 2 ริมฝั่งของสายน้ำ บางจุดก็สามารถหยุดพักไปเก็บผักได้อีก บางช่วงของสายน้ำที่เป็นเส้นตรงก็สามารถปล่อยแพไหลไปเรื่อยๆ ได้ไม่ต้องกังวลอะไร คนที่ถ่อแพก็ต้องคอยประสานกัน ถ่อผิดก็ทำให้แพติดหรือแพกลับหัวท้ายได้ ดังนั้นการล่องแพที่ทำเองจะได้ความรู้อีกหลายๆ อย่าง ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ บางทีต้องหลบ ก้มสิ่งกีดขวางต่างๆ ระหว่างเดินทาง พอมาถึงหมู่บ้านก็เตรียมตัวถ่อแพเข้าฝั่ง ไปเทียบท่า ใช้เชือกมัดหรือเกยฝั่งไว้ไม่ให้ไหล แล้วค่อยมาตัดตอก แยกส่วนต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ต่อไป หรือไม่ก็วางไว้ใช้สาธารณะประโยชน์ที่ริมน้ำต่อไปการล่องแพที่ไม่ใช่เชิงการท่องเที่ยวก็ถือเป็นอีกประสบการณ์ที่ฝึกให้อดทนกว่าจะเบาได้ (นั่ง ยืน นอน และถ่อแพ ล่องตามลำน้ำเรื่อยๆ)ก็ต้องผ่านความหนักมาก่อน (การตัดไม้ไผ่ แบก วาง เหลา มัด) และที่สำคัญทรัพยากรธรรมชาติที่นำมาก็มาใช้ประโยชน์ต่อได้ ย่อยสลายคืนสู่ธรรมชาติเมื่อถึงเวลา จึงได้ทั้งความสุข ผ่อนคลาย และสัจธรรมในชีวิตด้วยเช่นกันทุกภาพประกอบ โดยผู้เขียนขอบคุณ Canva ใช้ตกแต่งภาพปก อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !