“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ทักทายกันวันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม 2568 พาไปรู้จัก "วัดท่าหลวง" อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร วัดท่าหลวง "วัดท่าหลวง" อยู่ริมสายน้ำน่านแต่ดั้งเดิมสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ "วัดท่าหลวง" เป็นสำนักสงฆ์ในชุมชนบ้านท่าหลวงและคลองท่าหลวงต่อมาในปี พ.ศ. 2388 ล้นเกล้ารัชกาลที่ 3 ทรงโปรดฯ ให้สร้างวัดชื่อ "วัดท่าหลวง" ตามชื่อบ้านท่าหลวงส่วนทุกวันนี้อยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร แล้วต่อมาสมัยแผ่นดินรัชกาลที่ 5 มีการอัญเชิญ "องค์หลวงพ่อเพชร" มาประดิษฐานเป็นองค์พระประธานในพระอุโบสถวัดท่าหลวง!! ทำไมหลวงพ่อเพชรพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพิจิตรมาตั้งแต่สมัยแผ่นดินอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งเป็นราชธานีจึงมาประดิษฐานที่ "วัดท่าหลวง" ได้? อาจเป็นคำถาม? กราบขอพร "องค์หลวงพ่อเพชร" กันได้ครับ ส่วนคำตอบขอเขียนเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมืองพิจิตรก่อน "เมืองเก่าพิจิตร" เป็นเมืองที่สร้างขึ้นมาในปลายของแผ่นดินขอม-สุโขทัย ครั้งนั้นชื่อเมืองโอฆะบุรี เมืองสระหลวง เมืองชัยบวร เมืองปากยมและสมัยแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาชื่อ "เมืองพิจิตร" และเมืองพิจิตรครั้งกระนั้นมีกองทัพของกรุงศรีอยุธยาเข้ามาพักทัพในเมืองพิจิตรเพื่อจะไปปราบกบฏทางเหนือคือ "เมืองจอมทอง" ด้วยเหตุนี้เจ้าเมืองพิจิตรได้ขอกับแม่ทัพว่าถ้าพบพระพุทธรูปก็ขอให้อัญเชิญมาฝากเมืองพิจิตรด้วยแน่นอนเมื่อกองทัพปราบกบฏเมืองจอมทองแล้วสันนิษฐานว่าคงอัญเชิญ "องค์หลวงพ่อเพชร" ในวัดพระธาตุศรีจอมทองแล้วลงแพล่องมาตามสายน้ำปิงพอถึงวัดพระธาตุนครชุมเมืองกำแพงเพชรก็อัญเชิญองค์หลวงพ่อเพชรฝากไว้ที่วัดพระธาตุนครชุมแล้วก็บอกไปถึงเมืองพิจิตรให้มาอัญเชิญหลวงพ่อเพชรไปเมืองพิจิตรแล้วประดิษฐานในอุโบสถของ "วัดนครชุม" เมืองพิจิตรคู่กับหลวงพ่อพัฒน์พระพุทธรูปเก่าแก่ของเมืองพิจิตร องค์หลวงพ่อเพชร สำหรับเรื่องราวของหลวงพ่อเพชรยังไม่จบแค่นี้ต่อมาสมัยแผ่นดินล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทรงโปรดฯให้บูรณะวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามในเขตเมืองหลวงกรุงรัตนโกสินทร์และต้องการองค์พระพุทธรูปเพื่อประดิษฐานในพระอุโบสถและครั้งนั้นข้าราชบริพารได้ทูลว่าองค์พระพุทธรูปที่เหมาะสมคือพระพุทธชินราชของวัดใหญ่หรือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเมืองสองแควพิษณุโลกก็ทรงโปรดฯให้อัญเชิญองค์พระพุทธชินราชมาประดิษฐานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรแล้วให้อัญเชิญองค์หลวงพ่อเพชรเมืองพิจิตรมาประดิษฐานที่วัดใหญ่เมืองสองแควพิษณุโลกแทนด้วยเหตุนี้ทางเมืองพิจิตรก็อัญเชิญหลวงพ่อเพชรลงแพเพื่อมาเมืองสองแควครั้งนั้นกล่าวกันว่าชาวเมืองพิจิตรร้องไห้เพราะองค์หลวงพ่อเพชรจะไปอยู่เมืองสองแคว!!! ส่วนชาวเมืองสองแควพิษณุโลกพอรู้ข่าวก็เสียใจกันทั้งเมืองแล้วครั้งนี้ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ทรงทราบก็ทรงโปรดฯให้จัดพิธีหล่อองค์พระพุทธชินราชจำลองขึ้นมาที่บริเวณวัดใหญ่เมืองสองแควเสร็จแล้วทรงโปรดฯให้เหล่าทหารเรืออัญเชิญลงแพมาประดิษฐานเป็นองค์พระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรถึงทุกวันนี้!! ส่วนองค์หลวงพ่อเพชรก็อัญเชิญกลับเมืองพิจิตรแต่ไปประดิษฐานที่ "วัดท่าหลวงเมืองพิจิตร" เมืองใหม่ปรากฏว่าชาวพิจิตรเมืองเก่าก็ไม่ยอมแต่ก็พูดคุยกันเข้าใจเพราะว่าเป็นเมืองพิจิตรเช่นกันนี่คือเรื่องราวของ "หลวงพ่อเพชร" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพิจิตรประดิษฐาน ณ วัดท่าหลวง องค์พระพุทธชินราช สำหรับ "องค์หลวงพ่อเพชร" หล่อด้วยทองผสมสำริดหน้าตักกว้าง 2 ศอก 1 คืบส่วนสูง 3 ศอก 3 นิ้ว ศิลปะสมัยเชียงแสนขัดสมาธิเพชรจึงเรียกว่า "หลวงพ่อเพชรเมืองพิจิตร" น่าสนใจไปท่องเที่ยวแล้วกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายใน "วัดท่าหลวง" ริมสายน้ำน่านและบูชาขอพรหลวงพ่อเพชร เช่น เรื่องทำธุรกิจการค้าขายเรื่องขอให้สอบผ่านเข้ารับราชการและเรื่องโชคลาภ เป็นต้น "กินเที่ยวทั่วไทย เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับ ไปกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันได้ครับ "วัดท่าหลวง" เมืองพิจิตร พิกัด "วัดท่าหลวง" https://maps.app.goo.gl/EY95fScEX5KkJ9g27 เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์ แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/ #ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !