เวลาเราไปงานสวดพระอภิธรรมศพผู้ตาย เจ้าภาพมักจะเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไว้รองรับแขกที่มา หลายท่านก็ทานได้ไม่ถือสา แต่มีอีกหลายท่านบอกว่า "ไม่กินอาหารงานศพ" ทำให้เกิดความสงสัยเป็นอย่างมากว่าเพราะอะไร??? อย่ากระนั้นเลย เคยไปลองถามท่านที่ไม่กินอาหารงานศพ ว่าทำไมไม่กิน ก็จะได้คำตอบว่าไม่กินอาหารในงานอวมงคล บ้างก็ตอบว่าฟังจากคำผู้ใหญ่ห้ามมา บ้างก็ตอบว่าเพราะอาหารในงานศพพวกสัมภเวสีจะแอบมากินก่อนแล้ว คำตอนนั้นก็หลากหลายแตกต่างกันไป ตัวป่านแก้วเองจะมีความสามารถด้านการใช้จิตอยู่บ้าง จึงลองหาข้อมูลด้วยตัวเองดู อันนี้ขอออกตัวไว้ก่อนนะคะว่ามันเป็นปัจจัตตัง รู้ได้ด้วยตัวเอง หาสิ่งมาพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้หรอก โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะว่าด้วยเรื่องอาหารในงานศพ มีหลายคนที่ไม่กินอาหารในงานศพหรืองานอวมงคล และมีอีกหลายคนที่ไม่ได้ถือสาเรื่องนี้กินได้หมด และมีอีกหลายคนที่ไม่กินแต่จำเป็นต้องกินเนื่องจากหาที่อะไรกินไม่ได้ วันนี้เรามาเรียนรู้เรื่องนี้กันคะสำหรับตัวผู้ตายนั้น เมื่อตายแล้วอยู่ในโรง ญาติพี่น้อง ก็ได้แต่นำอาหารใส่ถาดมาเคาะโรงให้กับผู้ตาย ตามความเชื่อแต่โบราณนั้น อาหารที่จะนำมาให้ผู้ตายกิน ให้เอาช้อนกลับด้านโดยเอาส่วนที่เป็นด้ามช้อนทิ่มลงไปในอาหาร ผู้ตายจึงจะได้กินอาหารนั้น ไม่อย่างนั้นจะมีวิญญาณอื่นๆ ที่อาศัยอยู่รอบๆ บริเวณนั้นมาแย่งกินกันได้ ซึ่งจริงๆ แล้วเมื่อตายแล้วดวงวิญญาณไม่ได้กินอาหารในรูปแบบของสะสารหรืออาหารที่เราๆ กินกัน แต่เค้ากินเป็นพลังงานของอาหารนั้น แต่สิ่งที่จะทำให้เค้าอิ่มกันมากกว่าอาหารใดๆ คือ "บุญ" บุญจะกลายเป็นเสบียงที่ทำให้เค้าได้เดินหน้าต่อไปส่วนเจ้าภาพนั้น ผู้จัดงานมักจะจัดทำอาหารเลี้ยงแขกเอง หรือจ้างแม่ครัวมาทำอาหารเลี้ยงแขกเอง เมื่อปรุงอาหารเสร็จแล้ว ให้ตักแยกออกมา 1 ที่อาจจะเป็นชุดเล็กๆ แล้วนำไปวางไว้ให้ห่างไกลผู้คน แล้วกำหนดเรียก หรือใช้วิธีจุดธูป เรียกดวงวิญญาณที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ให้มากินอาหารในส่วนนี้ และบอกกล่าวพวกเค้าห้ามเข้าไปยุ่งกับอาหารที่เป็นส่วนของมนุษย์กิน โดยการตั้งจิตให้มั่นแล้วกล่าวว่า "นี่เป็นอาหารที่ไว้เลี้ยงผู้มาร่วมงานที่เป็นมนุษย์เท่านั้น ไม่อนุญาตให้สรรพวิญญาณมากิน จงไปกินตรงที่ที่เราเตรียมไว้ให้" ให้ผู้เป็นเจ้าภาพ ทำทันทีที่ปรุงอาหารเสร็จ เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เหล่าสรรพวิญญาณเหล่านั้นไปกินอาหารในส่วนของมนุษย์ มิฉะนั้นพวกสรรพวิญญาณจะเข้ามากินกันเลย เพราะเค้าถือว่าเป็นอาหารที่ทำเพื่อแจกเป็นทาน ทำให้กลายเป็นว่าคนกินเหลือจากพวกสรรพวิญญาณเหล่านั้นในส่วนแขกผู้มาร่วมงาน เราไม่สามารถรู้ได้ ว่าผู้เป็นเจ้าภาพได้จัดอาหารแยกไว้หรือไม่ ทางที่ดีหลีกเลี่ยงการกินอาหารในงานศพจะดีกว่า แต่หากเลี่ยงไม่ได้ หากสถานที่จัดงานอยู่ห่างไกล จนเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จะทำยังไง ป่านแก้วมีวิธีมาบอกค่ะ คือ ให้เราทำจิตสบายๆ หาจังหวะนิ่งๆ แล้วสวดมนต์บทอิติปิโส ท่อนพุทธคุณ แล้วบอกว่าขอให้อานุภาพของบทสวดนี้ ล้างพลังลบออกจากอาหารเหล่านี้ให้หมดไป ก่อนที่จะกินอาหารของเรา เคล็ดลับคือใจต้องนิ่ง ต้องมั่นใจในอำนาจพุทธคุณ ว่าล้างพลังลบออกจากอาหารได้ เพียงเท่านี้เราก็กินอาหารได้อย่างสบายใจแล้วค่ะเครดิตภาพ Pankaew