ตอนที่ 1 : จากเมืองกรุง มุ่งตรงสู่วัดไร่ขิง (ภายในรถเมล์ สาย 84 เวลา 12.20) “ป้ายหน้า ป้ายซีคอนบางแค ซีคอนบางแค มีคนลงป้ายหน้า จอดป้ายด้วย...” เสียงของพนักงานเก็บโดยสาร ตะโกนส่งเสียงเพื่อบอกว่า ป้ายต่อไปนั้น อยู่ที่ซีคอนบางแค ทำให้ฉันกับเพื่อนรู้ว่าขณะนี้ อยู่ที่ซีคอนบางแค ฉันกดหน้าจอโทรศัพท์เพื่อดูเวลา ซึ่งก็ผ่านมาสักพักแล้ว จึงหยิบหูฟังมาฟังเพลงและมองไปยังหน้าต่างของรถเมล์ ก่อนที่ฉันกับเพื่อนจะเผลองีบหลับไปตอนที่ 2 : ถึงที่หมาย ปลายทาง วัดไร่ขิง (ภายในรถเมล์ สาย 84 เวลา 13.25) “ป้ายหน้า ป้ายหน้าวัดไร่ขิง สุดสายแล้ว...” เสียงของพนักงานเก็บโดยสาร ตะโกนส่งเสียงอีกครั้ง ทำให้ฉันและเพื่อนที่งีบหลับไปตื่นอีกครั้ง เก็บหูฟังลงกระเป๋าผ้า สะพายกระเป๋า เตรียมลงป้าย เมื่อถึงป้ายแล้ว ฉันกับเพื่อนจึงรีบลงจากรถเมล์เพื่อมุ่งตรงยังที่หมายของเราสองคน ใช่แล้ว! จุดหมายปลายทางของสองคนก็คือ “วัดไร่ขิง” นั่นเองค่ะตอนที่ 3 : เปิดประตู สู่วัดไร่ขิง (ภายในทางเข้าวัดไร่ขิง) เวลา 13.30 ฉันกับเพื่อนก็เดินเข้ามาภายในวัดไร่ขิงแล้วนะคะ ก่อนอื่น ฉันขอกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของวัดไร่ขิงก็เลยนะคะ วัดไร่ขิง (วัดมงคลจินดาราม) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนหรือแม่น้ำนครไชยศรี ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ที่วัดไร่ขิงนั้นเปิดทุกวัน เวลา 08.00 น.- 16.00 น. ซึ่งการเดินทางนั้น สามารถโดยสารทางรถยนต์ส่วนตัว หรือ รถเมล์ สาย 84 และ 556https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=208 ผู้อ่านคงได้รับทราบถึงประวัติความเป็นมาของวัดไร่ขิงแบบกล่าวๆแล้ว วันนี้ทั้งวัน ฉันกับเพื่อนจะพาผู้อ่านทุกคนไปทัวร์ภายในวัดไร่ขิงและพาไปทำบุญด้วยกันค่ะตอนที่ 4 : ทำบุญร่วมกัน ผลักดันให้ได้บุญ เวลา 13.35 หลังจากที่ฉันได้ถ่ายภาพทางเข้าวัดไร่ขิงแล้วนะคะ ฉันพาผู้อ่านทุกคนไปดูกิจกรรมต่างๆภายในวัดกันค่ะ ซึ่งฉันกับเพื่อนได้ทำบุญ คือ ถวายน้ำมันตะเกียงหรือการทำบุญด้วยการเติมน้ำมันตะเกียง โดยมีความเชื่อกันว่าจะช่วยให้ชีวิตของเรา มีแสงสว่างในจิตใจและสติปัญญา ความคิด เมื่อชีวิตรุ่งโรจน์โชติช่วงก็ทำให้ปัญหา อุปสรรคต่างๆ ที่ทำให้ชีวิตเรามืดมิดลงก็หายไป ฐานะทางการเงินดีขึ้น มีเงินใช้ไม่ขาดมือนั่นเองต่อไปฉันกับเพื่อนก็ได้ไปทำบุญโลงศพกันต่อ อุทิศแด่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว แด่เจ้ากรรมนายเวร เพื่อความต้องการให้ฉันและผู้รับทุกคน มีความสุขและได้ผลบุญนี้ร่วมกับฉันไปด้วยค่ะ ซึ่งการทำบุญโลงศพนั้นก็ตามกำลังศรัทธาของทุกคนนะคะหลังจากที่ได้ถวายน้ำมันตะเกียงและได้ทำบุญโลงศพแล้วนะคะ ฉันกับเพื่อนก็ได้ไหว้พระ ถวายธูปเทียน ดอกไม้ที่พระพุทธรูปเบญจภาคีวารีปาฏิหาริย์ ซึ่งพระพุทธรูปทั้ง 5 นี้ ตามตำนานกล่าวว่า พี่น้องชาวเมืองเหนือ 5 คน บวชเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา และสําเร็จเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบัน จึงพร้อมใจกันตั้งสัจอธิษฐานว่า “เกิดมาชาตินี้จะขอบําเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้วก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไปจนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน” เมื่อพระอริยบุคคลทั้ง 5 ดับขันธ์แล้ว ก็เข้าสถิตอยู่ในองค์พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ ด้วยปรารถนาจะช่วยปลดเปลื้องทุกข์ให้คนที่อยู่ทางใต้ จึงลอยน้ำลงมาตามแม่น้ำ 5 สาย เมื่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเห็นพระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ลอยน้ำมา ต่างพากันเลื่อมใส จึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นฝั่งและอาราธนาให้ขึ้นประดิษฐานที่วัดใกล้กับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ ดังนี้• หลวงพ่อโสธร ลอยมาตามแม่น้ํำบางปะกง ประดิษฐานที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร อําเภอเมืองฯ จังหวัดฉะเชิงเทรา• หลวงพ่อโต ลอยมาตามแม่น้้ำเจ้าพระยา ประดิษฐานที่วัดบางพลีใหญ่ อําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ• หลวงพ่อบ้านแหลม ลอยมาตามแม่น้ํำแม่กลอง ประดิษฐานที่วัดเพชรสมุทรวรวิหาร (วัดบ้านแหลม) อําเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสงคราม• หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา ลอยมาตามแม่น้ํำเพชรบุรี ประดิษฐานที่วัดเขาตะเครา อําเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรีตอนที่ 5 : ชม...บ้านดินอินทณัฐ วัดไร่ขิง เวลา 14.20 น. “แม่ๆ...ดูสิปลาคาร์ฟเยอะแยะเลย” “พ่อครับ พ่อครับ ดูสิๆ ผมให้อาหารปลาคาร์ฟด้วย ปลามากินกันเยอะแยะเลย ” เสียงของเด็กๆทั้งผู้หญิงและผู้ชายพากันมาที่นี่ ที่บ้านดินอินทณัฐ นั่นเอง ซึ่งบ้านดินอินทณัฐนี้นะคะ ได้มีการจัดสถานที่ให้ผู้คนที่เดินทางไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ สามารถร่วมทำบุญซื้ออาหารปลา ที่เป็นรูปแบบขวดนมป้อนปลาคาร์ฟ ซึ่งโดยส่วนตัวฉันชอบมากเป็นพิเศษค่ะ เพราะว่าได้ทั้งทำบุญ ได้ความสนุก และได้ใกล้ชิดกับปลา ได้ป้อนอาหารกับมือนั่นเองค่ะและหลังจากฉันกับเพื่อนให้อาหารปลาคาร์ฟเสร็จ พวกเราสองคนได้ไปพักหาของกินภายในบริเวณวัดค่ะ ซึ่งภายในวัดนะคะมีทั้งของกิน เช่น เฟรนฟราย ลูกชิ้นต่างๆ น้ำ และนอกจากของกินยังมีสินค้า OTOP วัดไร่ขิง เช่น เสื้อผ้า กระเป๋าต่างๆ ซื้อกลับไปฝากคนที่ในบ้านได้อีกด้วยนะคะตอนที่ 6 : ก่อนกลับกัน...ฉันขอแวะ(ตลาด) เวลา 14.40 น. ก่อนที่ฉันกับเพื่อนจะกลับกรุงเทพฯนั้น ฉันได้แวะเดินตลาดข้างๆวัดไร่ขิง เป็นเหมือนถนนคนเดิน ภายในตลาดนั้นนะคะ มีทั้งของกิน ของใช้ ของเล่นเด็ก เสื้อผ้า เครื่องประดับ และได้ซื้อกาละแม น้ำและขนมน้ำตาลกลับบ้าน ซึ่งกาละแมที่นี่อร่อยมาก ชื่อว่าร้านเพชรเจริญยิ่ง ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของตลาด ถ้าผู้อ่านคนไหนนะคะ มาที่นี่ อย่าลืมซื้อกาละแมกลับบ้านกันด้วยนะคะตอนที่ 7 : ถึงเวลากลับ เวลา 15.10 น. เสียงจอดรถของรถเมล์สาย ๘๔ มาจอดเทียบป้ายรถเมล์ ฉันกับเพื่อนขึ้นรถเมล์เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ลมเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศภายในฉันรถเมล์ ทำให้รู้สึกเย็นสบาย สิ่งที่ฉันได้รับการทำบุญในวัดไร่ขิงครั้งนี้ คือ ทำให้ฉันและเพื่อนมีความสบายใจมากขึ้น อิ่มทั้งกายอิ่มทั้งใจ และความสนุกและรอยยิ้มจากทริปที่วัดไร่ขิงนี้ตอนที่ 8 : จบทริปนี้...มีความสุข เวลา 17.10 น. จบทริปสั้นๆที่วัดไร่ขิงแล้ว ฉันได้แบกทั้งความสุขกาย สุขใจ และความสุขที่ได้รับการวัดไร่ขิงนั้นกลับมาด้วย เรียกได้ว่าเป็นสร้างความตราตรึงให้กับฉันเลยทีเดียวค่ะ ถึงแม้การเดินทางของฉันกับเพื่อนครั้งนี้จะจบลง แต่ความทรงจำดีที่วัดไร่ขิงของฉันจะไม่มีวันลืมเลยแล้วผู้อ่านล่ะคะ คิดเห็นว่าทริปของฉันเป็นอย่างไรบ้าง :)เครดิตภาพ โดย ผู้เขียนวันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !