เข้าสู่ฤดูหนาว ได้เวลาออกล่าทะเลหมอก แต่มีแบบที่ไม่ต้องเดินทางไกลขึ้นไปถึงดอยสูงภาคเหนือมั้ย ? ตอบว่า “ก็มีนะ” แบบที่ใช้เวลาเดินทางจาก กทม. ไม่นานเป็นวัน แต่ถึงจุดหมาย ตื่นเช้าเห็นสายหมอกที่อาจไม่หนาแน่น แต่ก็สวยไม่แพ้บนดอยสูง แนะนำ 5 พิกัด มาไว้ตรงนี้ .. “เขาเทวดา” จ.สุพรรณบุรี ระยะทาง 100 กว่ากิโลเมตร จาก กทม. ถึงตัวเมืองสุพรรณฯ ขับไปออกไปทาง อ.ด่านช้าง ปักหมุด “อุทยานแห่งชาติพุเตย” ครอบคลุมพื้นที่ป่า 1 แสน 9 หมื่นกว่าไร่ หรือประมาณ 317 ตารางกิโลเมตร และ “ยอดเขาเทวดา” เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดแห่งจังหวัดสุพรรณบุรี สูง 1,123 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สายหมอกรายล้อมเขาเทวดา จากที่ทำการอุทยานฯ ผ่านป่า ขึ้นเขา เส้นทางสูงชันต้องใช้รถโฟร์วิล หรือยกสูง ไปหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ 3 จุดพักกางเต็นท์ค้างแรม 1 คืน ก่อนออกเดินขึ้นเขาในเช้ามืด จากจุดเริ่มเดินเชิงเขาจนถึงบนยอดเขาระยะทางสั้น ๆ แค่ 800 เมตร แต่ใช้เวลาแสนนาน เพราะนอกจากต้องเดินเท้าสถานเดียวแล้ว เส้นทางทั้งสูง ทั้งชัน แม้มีการทำขั้นบันไดให้เดินง่าย แต่ต้องบอกว่า ไม่ช่วย !! .. "เหนื่อยสุด ๆ ต้องหยุดเดิน พักหายใจเป็นช่วง ๆ" แต่พอขึ้นไปถึงบอกคำเดียวว่า "คุ้มค่ากับความเหนื่อยมาก" เอาแค่ระหว่างทางยังไม่ต้องถึงยอดเขา ยังสามารถมองเห็นและสัมผัสไอหมอกที่ไหลเอื่อยรายล้อมรอบเขาแล้ว ดังนั้นที่ยอดเขาไม่ต้องพูดถึง บรรยากาศตรงหน้า คือ "สายหมอก ที่ไหลลอดสับหว่างภูเขาสลับซับซ้อนสุดตา สายลมเย็นสุดฟิน" ที่ยอดเขายังได้สักการะ "สารีริกธาตุพระโมกขลา" เอาฤกษ์เอาชัยเป็นสิริมงคลแก่ตัวอีกด้วย สายหมอกมองจากบนเขาเทวดา “เขากระโจม” จ.ราชบุรี 200 กิโลเมตร จาก กทม. สุดเขตอำเภอสวนผึ้ง “เขากระโจม” ยอดเขาสูงชันในแนวสุดเขตตะวันตกประเทศไทย และ สูงที่สุดในจังหวัดราชบุรี ด้วยระดับความสูง 1,045 เมตร เดิมทีชาวบ้านเรียกที่นี่ว่า “เขาลันดา” หมายถึง ภูเขาที่มีที่ราบ แต่ในสมัยก่อนหลายสิบปีมาแล้ว ยุคที่คนไทยเข้าไปทำเหมืองแร่ดีบุก เห็นลักษณะของภูเขาคล้ายกระโจมอินเดียนแดง ก็เลยได้ชื่อเรียกว่า เขากระโจม เรื่อยมา ระยะทางจากตีนเขาถึงยอดเขาราวกว่า 10 กิโลเมตร ต้องใช้รถโฟร์วิล ขับเคลื่อน 4 ล้อขับขึ้นไปเท่านั้น เพราะเส้นทางสูงชัน ผ่านทั้งเนินดิน เนินหิน บางช่วงต้องลุยน้ำ แต่แม้เส้นทางยากลำบากขนาดนี้ แต่ก็กลับได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะสายลุยทั้งหลาย ขึ้นไปเยือนเป็นจำนวนมาก กลุ่มหมอกขาว ลอยอยู่หน้าเขากระโจม ที่ยอดเขามี "เนิน 1000" มีป้ายติด "สุดเขตประเทศไทย ภาคตะวันตก" เป็นที่ตั้งของกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.137) ด้านหน้า คือเทือกเขาตะนาวศรี ไฮไลท์อยู่ที่ จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก รวมถึงจุดทะเลหมอกที่สุดยอดมาก ๆ โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่เป็นช่วงที่เกิดทะเลหมอกมากที่สุด ยิ่งจังหวะวันที่อากาศดี ฟ้า ฝน เป็นใจ เขาบอกว่า สวยไม่แพ้ทะเลหมอกบนดอยภาคเหนือเลย !! ด้านบนมีลานกว้างสำหรับกางเต็นท์ ภายใต้การจัดระเบียบเวลาขึ้น-ลง เขา เปิดขึ้นได้ตั้งแต่ตี 4 ถึง 7.00 น. ลง 7.00 น. ถึง 9.00 น. แต่ตลอดวันตั้งแต่ 9.00 น.ถึง 19.00 น. สามารถขับขึ้นลงได้ตามปกติ และตั้งแต่ 19.00 น. เป็นต้นไปห้ามขึ้นลงโดยเด็ดขาด และย้ำว่าตลอดเวลาที่อยู่บนเขาต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดด้วย “เขาพะเนินทุ่ง” จ.เพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี อีกจังหวัดท่องเที่ยวที่เดินทางง่ายมากจาก กทม. มีทั้งทะเล ทั้งภูเขาให้เลือกเที่ยว และมีจุดชมทะเลหมอกสุดฟินอยู่ที่ “เขาพะเนินทุ่ง” ในพื้นที่มรดกโลกผืนป่าแก่งกระจาน ภายใต้การดูแลของ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อ่างทะเลหมอก หน้าเขาพะเนินทุ่ง จากที่ทำการอุทยานฯ ผ่านเส้นทางผ่านป่า ขึ้นเขา มีจุดที่ยังสามารถแวะเที่ยว แวะพัก ชมธรรมชาติได้ตามพิกัดต่าง ๆ โดยเฉพาะจุด "บ้านกร่างแคมป์" ที่มีลานชมผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ มีลานกางเต็นท์สำหรับพักค้างแรม สำหรับใครไม่ไปต่อพะเนินทุ่ง และถ้าใครจะไปต่อก็ต้องเปลี่ยนรถที่จุดนี้ เพราะก็ต้องใช้รถโฟร์วิล หรือ รถยกสูงขับขึ้นไป เส้นทางต้องขับผ่านลำธารด้วยบางจุด แต่เชื่อเถอะไปถึงจุดหมาย ฟิน !! ได้ไม่แพ้ดอยสูง "เขาพะเนินทุ่งมีจุดชมวิว 2 จุด คือที่ กิโลเมตรที่ 30 และกิโลเมตรที่ 36 ให้สามารถนั่งจมจ่อมรับแสงแรกของตะวันยามเช้า หนาวสั่นเบา ๆ กับสายลมเย็น และกลุ่มหมอกขาวที่ลอยวนอยู่ในอ่างภูเขา ... ที่จุดนี้ตอนเย็น ๆ ยังสามารถกลับมาชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกได้อีก เรียกว่า จบทุกบรรยากาศได้ในจุดเดียว !! " "วังน้ำเขียว" จ.นครราชสีมา พิกัดเที่ยวที่ได้รับความนิยมแห่งเมืองโคราช แหล่งโอโซนอันดับ 7 ของโลก และได้ชื่อว่าเป็น "สวิสเซอร์แลนด์แดนอีสาน" ด้วยพื้นที่โอบล้อมด้วยภูเขาและป่าไม้ พื้นที่ทำการเกษตรทั้งสวนดอกไม้ ไร่องุ่นและเพาะปลูกพืชพรรณไม้ที่ชอบอากาศเย็น มีที่พักรีสอร์ต ร้านอาหาร ท่ามกลางธรรมชาติ แต่ไฮไลท์แนะนำในช่วงปลายฝนต้นหนาว อยู่ที่ "จุดชมวิวผาเก็บตะวัน บนอุทยานแห่งชาติทับลาน" ต.ไทยสามัคคี เป็นจุดชมวิวสายหมอกขาว ท่ามกลางอากาศสดชื่นเย็นสบาย มีบริการลานกว้างให้นักท่องเที่ยวกางเต็นท์พักแรมสัมผัสอากาศเย็นได้มากถึง 200 หลัง จริง ๆ แล้วไม่เฉพาะฤดูหนาว แต่ที่นี่สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู โดยเฉพาะฤดูฝน ต้นไม้ใบหญ้าชุ่มฉ่ำ ภูเขาเขียวขจี แล้วยังมีกิจกรรมสุดฮิต ยิงหนังสติ๊กปลูกป่าด้วยเมล็ดพันธุ์พืช ที่ยิงออกไปตกตรงไหน เมล็ดพันธุ์ก็จะโตขึ้นเป็นต้นไม้ใหญ่ เพิ่มพื้นที่ป่าได้ หรือจะส่องดู "กระทิงป่า" ก็ได้อารมณ์แบบซาฟารีหน่อย ก็ได้ จุดชมวิวอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่โคราชยังมีพิกัดชมทะเลหมอกอีกจุด ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวขึ้นไปเช็คอินกันอยู่ที่ "เขายายเที่ยง" ถึงจะไม่ได้เห็นหมอกหนาแน่น แต่ก็ได้เห็นสายหมอกบาง ๆ ยิ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาว เดินขึ้นบนยอดเขา ชมสายหมอกบาง ๆ ยาวไกลสุดตา ท่ามกลางวิวอ่างเก็บน้ำและกังหันลมยักษ์ กับวิวเขื่อนลำตะคลองเบื้องล่าง สาย ๆ หน่อยยังปั่นจักรยาน ... ซึ่งมีบริการให้เช่าปั่นรอบอ่างเก็บน้ำ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ได้อีกด้วย สายหมอกไกล ๆ กับกังหันลมยักษ์ เขายายเที่ยง "ลำตะคอง" จากจุดชมวิวเขายายเที่ยง หนาวนี้ ... สัมผัสอากาศเย็น ชมสายหมอกสวย ๆ ชาร์จพลังกับธรรมชาติงาม ๆ แบบไม่ไกลและใช้เวลาเดินทางไม่นานจาก กทม. ฟินสุด ๆ ภาพและเรื่องโดย "เป๋าเป้" กำลังหาที่เที่ยวหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !