เชื่อเหลือเกินว่าใครที่เพิ่งเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นครั้งแรกๆ อาจจะต้องกังวลใจมากแน่ๆ ว่าต้องมาถึงสนามบินกี่โมงถึงจะไม่ตกเครื่อง กันนะ? อย่างที่เรารู้กันดีว่าพิธีการก่อนขึ้นเครื่องมีเยอะมาก ทั้งการเช็กอินที่เคาน์เตอร์ของสายการบินนั้นๆ การตรวจสอบ Boarding Pass การสแกนสัมภาระและร่างกาย ตลอดไปจนถึงการรอขึ้นเครื่องที่ทางออกขึ้นเครื่อง (Gate) ซึ่งถ้าเทียบกับการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ อย่างรถไฟ รถทัวร์ รถตู้ เราก็แค่ซื้อตั๋วแล้วมาให้ตรงเวลาเท่านั้น แต่สำหรับการขึ้นเครื่องบินถ้าเราเผื่อเวลาน้อยไปบอกเลยว่ามีตกเครื่อง แผนที่วางไว้เลื่อนยาวแน่ๆ มาดูกันว่า ต้องมาถึงสนามบินกี่โมง เครื่องออก 9 โมง ต้องไปสนามบินกี่โมง และอีกหลายๆ เรื่องที่น่าสนใจในบทความนี้ ควรมาถึงสนามบินก่อนกี่ชั่วโมง ถึงจะปลอดภัย ไม่ตกเครื่อง อย่างแรกที่เราต้องจำให้แม่น คือ วันที่ และเวลาที่เราจองเอาไว้บนหน้าตั๋ว คนใกล้ตัวเราเองก็มีเยอะมากที่บ้างก็มาก่อนวันเดินทางที่อาจพอแก้ไขได้ หรือบางคนมาหลังวันที่ระบุในตั๋วไปเลยก็มี เพราะฉะนั้นตรวจสอบรายละเอียดวันที่และเวลาเดินทางให้ดีค่ะ ถัดมาเรามาดูกันที่เรื่องของเวลา ว่าเราควรเผื่อเวลามาถึงสนามบินก่อนกี่ชั่วโมง จึงจะปลอดภัย ไม่ตกเครื่อง โดยจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี ได้แก่ การเดินทางในประเทศ และ การเดินทางไปต่างประเทศ การเดินทางในประเทศ ควรมาถึงสนามบินก่อนกี่ชั่วโมง? สำหรับข้อแนะนำโดยทั่วไปสำหรับเที่ยวบินในประเทศ ควรมาก่อนเวลาที่ระบุในตั๋วเครื่องบิน ดังนี้ ไฟลต์บินในประเทศ ที่ต้องโหลดสัมภาระ ควรมาก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ไฟลต์บินในประเทศ กรณีที่เช็กอินออนไลน์มาล่วงหน้าหรือไม่มีโหลดสัมภาระ ควรมาก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง การเดินทางไปต่างประเทศ ควรมาถึงสนามบินก่อนกี่ชั่วโมง? ส่วนไฟลต์เดินทางต่างประเทศ จะต้องเผื่อเวลามากขึ้นจากการเดินทางในประเทศ เหตุผลหลักๆ คือ พอเป็นไฟลต์บินระหว่างประเทศจำนวนผู้โดยสารจะเยอะขึ้น และขั้นตอนตรวจสอบความปลอดภัยจะมากกว่า ผู้โดยสารต้องผ่านการตรวจจากด่าน ตม. และนอกจากนี้อาคารของสนามบินนานาชาติมีแนวโน้มที่จะมีขนาดใหญ่มากกว่าสนามบินในประเทศ จึงต้องเผื่อเวลาให้การเดินในสนามบินด้วย ไฟลต์บินต่างประเทศ ที่ต้องโหลดสัมภาระ ควรมาก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ไฟลต์บินต่างประเทศ กรณีที่เช็กอินออนไลน์มาล่วงหน้าแต่ยังต้องโหลดสัมภาระ ควรมาก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 2 ชั่วโมง (ส่วนใหญ่แถวเช็กอินออนไลน์จะสั้นกว่าแถวที่ไม่ได้เช็กอินออนไลน์ล่วงหน้า) สรุปง่ายๆ ว่า ถ้าบินในประเทศ ควรมาถึงสนามบินก่อนเวลาเครื่องออก 2 ชั่วโมง และถ้าบินต่างประเทศควรมาถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 3 ชั่วโมง หรือถ้าให้ชัวร์ที่สุดผู้โดยสารควรอ่านรายละเอียดการเช็กอินของสายการบินที่จองไว้ว่า counter เปิดให้เช็กอินล่วงหน้าได้กี่ชั่วโมง ก็มาตามเวลาที่ระบุไว้ได้เลย ทำไมต้องเผื่อเวลามาสนามบินหลายชั่วโมง? มาใกล้ๆ กับเวลาที่ขึ้นเครื่องได้ไหม? สาเหตุที่เราต้องมาถึงสนามบินล่วงหน้าก่อนการเดินทางจริงหลายชั่วโมง นั่นเป็นเพราะมีขั้นตอนต่างๆ ที่ผู้โดยสารต้องทำก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งเป็นกฏระเบียบของกรมท่าอากาศยาน และความปลอดภัยของตัวผู้โดยสารเอง ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเครื่องออก 9:30 นาที เรามาตอน 09:00 ได้ไหม? ตอบเลยว่าไม่ได้แน่นอน แล้วขั้นตอนที่ว่ามีอะไรบ้าง? มาดูขั้นตอนที่ผู้โดยสารต้องทำก่อนขึ้นเครื่องกันได้เลย เข้าแถวเช็กอิน และโหลดสัมภาระ (กรณีที่ไม่ได้เช็กอินออนไลน์) ขั้นตอนการตรวจ Boarding Pass ก่อนเข้าอาคารผู้โดยสาร การสแกนร่างกายและสัมภาระ ที่ถือขึ้นเครื่อง (Carry on) การผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) <<สำหรับไฟลต์บินต่างประเทศเท่านั้น การเดินทางไปยัง Gate และรอเรียกขึ้นเครื่อง ซึ่งนับรวมเวลาที่ต้องใช้ทั้งหมดแล้วอาจกินระยะเวลานานหลายนาทีไปจนถึงหลักชั่วโมง จึงเป็นคำตอบสำคัญว่าทำไมเราควรเผื่อเวลามาเนิ่นๆ ก่อนเวลาเครื่องออกที่ระบุไว้บนตั๋วนั่นเองค่ะ เช็คอินออนไลน์ ได้กี่ชั่วโมงก่อนบิน สำหรับใครที่ต้องการเช็คอินออนไลน์ สามารถเช็คอินได้ด้วยตนเองก่อนเวลาบิน ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่ทั้งเที่ยวบินในประเทศและต่างประเทศ มักเปิดให้ผู้โดยสารเช็กอินออนไลน์ได้ก่อนบิน ตั้งแต่ 24 ชั่วโมง ไปจนถึง 75 นาทีก่อนการเดินทาง อย่างไรก็ตามกฏระเบียบของแต่ละสายการบินแตกต่างกันไป อย่าลืมเช็กสายการบินที่ตนเองจองตั๋วให้ดีค่ะ เช็กอินออนไลน์เสร็จแล้วทำไงต่อ? ทางสายการบินจะส่ง E-Boarding Pass มาให้เรา ถ้าไม่มีโหลดสัมภาระเพิ่มเติม ก็สามารถใช้ E-Boarding Pass นี้ประกอบการขึ้นเครื่องได้เลย (ในกรณีที่มีโหลดสัมภาระก็จะต้องไป Drop สัมภาระที่ Counter แยกอีกครั้ง) โดยจะแคปหน้าจอไว้ใช้ก็ได้หรือจะปรินท์ E-Boarding Pass ติดตัวไว้ก็ได้เช่นเดียวกัน ต้องเข้าเกทก่อนกี่นาที คำถามนี้ก็ได้ยินบ่อยๆ เหมือนกัน ส่วนนี้เราแนะนำว่าให้ตรวจสอบข้อมูลบน Boarding Pass หรือตั๋วโดยสารที่พนักงานปรินท์ให้ หรือเช็กจาก E-Boarding Pass (ในกรณีที่เช็กอินออนไลน์) รายละเอียดที่ควรรู้บน Boarding Pass 1.สถานที่ต้นทาง ที่เราขึ้นเครื่อง อย่างในภาพคือ SURAT THANI 2.สถานที่ปลายทาง ที่เครื่องลง ในภาพ คือ BANGKOK DONMUEANG 3.หมายเลขไฟลต์บิน เอาไว้ฟังตอนมีประกาศจากพนักงาน / ตรวจสอบ Gate บนหน้าจอในสนามบิน / รับกระเป๋า 4.วันที่บิน 5.เวลาเครื่องออก(Boarding Time) อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ เวลาที่เครื่องจะเหินออกจากรันเวย์ 6.Gate ขึ้นเครื่อง สนามบินเล็กๆ อาจมีประมาณ 1-5 เกท ส่วนสนามบินใหญ่ๆ จะมีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อย และเราจะต้องไปรอขึ้นเครื่องให้ถูก Gate 7.หมายเลขที่นั่งบนเครื่องบิน โดยเราสามารถเทียบหมายเลขที่นั่งบนตั๋วกับบริเวณที่วางสัมภาระเหนือศีรษะ 8.เวลาเรียกขึ้นเครื่องบิน (Boarding Time) คือ เวลาที่พนักงานภาคพื้นดินเรียกให้ผู้โดยสารเริ่มขึ้นเครื่อง โดยส่วนใหญ่จะเรียกก่อนเวลาเครื่องขึ้นประมาณ 45 นาที **เวลาที่เครื่องออก ≠ เวลาเรียกขึ้นเครื่อง** 9.ระบุเวลาที่ Gate จะปิด จากตัวอย่างระบุว่า Gate จะปิดก่อนเวลาเครื่องขึ้น 20 นาที เพราะฉะนั้นคำตอบคือ ควรถึงเกทอย่างน้อยๆ 20 นาทีก่อนเครื่องออก (ทั้งนี้ระเบียบเวลาของแต่ละสายการบินจะแตกต่างกันออกไป) หลายคนเช็กอินเสร็จแล้ว แต่อาจแวะทานข้าวหรือซื้อของฝากเพลินพอมาถึง Gate แล้วพบว่าประตูขึ้นเครื่องปิดไปแล้วก็มีให้เห็นกันบ่อยๆ เพราะฉะนั้นเช็กอินเรียบร้อยแล้วไม่ควรชะล่าใจและมาที่ Gate ให้ทันเวลา ทั้งนี้ทั้งนั้นเราแนะนำว่าเวลาที่ควรอยู่ภายใน Gate คือ เวลาเรียกขึ้นเครื่องบิน (Boarding Time) จะปลอดภัยที่สุด เพราะหลายครั้งอาจมีความจำเป็นบางอย่าง เช่น ประกาศเครื่องบิน Delay ประกาศเปลี่ยน Gate ขึ้นเครื่อง เราจะได้มีเวลาเตรียมตัว ไม่ลนลาน ปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องคำนึงถึงเพื่อเผื่อเวลาในการมาถึงสนามบิน เมื่อเราพอเข้าใจแล้วว่า ควรเผื่อเวลามาที่สนามบินอย่างน้อย 2 ชั่วโมง สำหรับเที่ยวบินในประเทศ และอย่างน้อย 3 ชั่วโมง สำหรับเที่ยวบินต่างประเทศ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เราควรคำนึงถึงและเผื่อเวลาเพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสมด้วยเหมือนกัน เช่น ระยะทางจากที่พักถึงสนามบิน ระยะทางไกลมากหรือไม่ การจราจรติดขัดหนาแน่นมากเพียงไหน ช่วงเวลาการเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางมาสนามบินช่วงเช้าและเย็นที่รถมักจะติดมากเป็นพิเศษ (โดยเฉพาะในช่วงวันธรรมดา) ตลอดไปจนถึงการเดินทางในช่วงเทศกาล วันหยุด ที่จำนวนผู้โดยสารจะเยอะขึ้น จึงควรเผื่อเวลาเพิ่มขึ้นอีกหลายๆ ชั่วโมง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะตกเครื่อง ผู้ที่ร่วมเดินทางด้วย เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ ในกรณีแบบนี้แนะนำให้เผื่อเวลามากขึ้นจากเวลาทั่วๆ ไปเพื่อให้ขั้นตอนก่อนขึ้นเครื่องเป็นไปอย่างราบรื่น ขนาดของสนามบิน หากสนามบินมีขนาดใหญ่ก็อาจต้องใช้เวลาในการเดินจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งค่อนข้างนาน หรือบางสนามบินต้องมีการเปลี่ยนอาคาร ดังนั้นแล้วควรศึกษารายละเอียด รวมถึงขนาดของแต่ละสนามบินให้ดีเพื่อเราจะได้เผื่อเวลาถูก และนี่ก็เป็นรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเดินสารโดยใช้เครื่องบิน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับนักเดินทางที่สนใจ ขอให้ทุกการเดินทางปลอดภัยและมีความสุขค่ะ ภาพหน้าปก และ ภาพในเนื้อหาทั้งหมด โดย ผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !