ถ่ายภาพโดย : นิจ อักษรา หลายคนรู้จักแกรนแคนยอน จากภาพแห่งความสวยงามตามธรรมชาติในต่างประเทศ และอีกหลายคนที่อาจไม่เคยสัมผัสธรรมชาติในต่างประเทศ ด้วยเรื่องของเวลาและโอกาสที่จะเดินทางไป แต่สำหรับเมืองไทย การท่องเที่ยวไทยไม่ไปไม่รู้ แต่พอรู้ก็อยากไปให้เห็นด้วยตาตัวเอง หลังจากฟังหลาย ๆ คนแนะนำต่อเนื่องกันมา ถ่ายภาพโดย : นิจ อักษรา ด้วยเมืองไทยเรามีหลายจังหวัด ทุกจังหวัดมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป วันนี้เรามีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่นี่มีฉายาว่าเมืองในหุบเขา และนับเป็นเมืองเล็ก ๆ ในหุบเขาที่มีแหล่งท่องเที่ยวให้แวะชมมากมายจริง ๆ ถ่ายภาพโดย : นิจ อักษรา ปายแคนยอน หรือภาษาถิ่นว่า กองแลน เป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำในการท่องเที่ยวเมืองปาย เพราะที่นี่มีภูมิประเทศ และเอกลักษณ์อันโดดเด่นคล้ายกับแกรนแคนยอนในต่างประเทศ เราก็เคยได้ยินเพื่อน ๆ ที่ไปเที่ยวเล่าสู่กันฟัง วันที่เดินทางไปสัมผัสด้วยตัวเอง ทำให้รู้สึกทึ่งในธรรมชาติจริง ๆ เลยนะ เพราะที่กองแลนแห่งนี้ จะมีแนวสันเขาเป็นทางเดินเล็ก ๆ เป็นแนวยาว ซึ่งเหมาะกับการขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์สมคะแนนคุย ถ่ายภาพโดย : นิจ อักษรา เราเลือกขึ้นไปในช่วงเย็น เพราะตั้งใจจะมาเก็บภาพความงดงามในช่วงพระอาทิตย์ตกดินเอาไว้ และก็ได้ภาพมาฝากเพื่อน ๆ สมใจด้วยนะ แม้อาจไม่ได้ในหลายมุมมากนัก เพราะมีความยากลำบากในการเดินทางอยู่ไม่น้อย หลายคนบอกว่า ถ้าอยากแวะขึ้นไปถ่ายรูปชมวิว ต้องออกกำลังกาย ฟิตร่างกายกันหน่อย เพราะนอกจากระยะทางสูงชันพอสมควรแล้ว ยังมีระยะทางถึงเกือบ 200-300 เมตรอีกด้วย ดีหน่อยตรงที่มีการทำทางปูน และราวจับไว้ให้จนสุดเส้นทาง อันนี้จัดว่าน่าประทับใจในการเดินทางที่สะดวกรวดเร็วขึ้นนี่ล่ะ การเข้าชมปายแคนยอน หรือกองแลน ว่ากันว่าเวลาที่เหมาะสมีคือในช่วงเช้าและช่วงเย็น เพราะช่วงกลางวันอากาศจะร้อนมากหน่อย การเข้าชมที่นี่ไม่มีการเก็บค่าเข้าชมแต่อย่างใด และสามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี แค่แนะนำว่ามาในช่วงฤดูหนาว อากาศจะเย็นสบายกว่า ถ่ายภาพโดย : นิจ อักษรา หลังได้เดินเที่ยวชมกันอย่างเพลิดเพลินและนั่งรถเก็บภาพพระอาทิตย์ตกดิน ก็แอบได้ยินคนพื้นถิ่นเล่าสู่กันฟัง ถึงคำว่า "กองแลน" ว่ามาจากภาษาท้องถิ่น แปลง่าย ๆ คำว่ากอง ก็คือถนน หรือเส้นทางสัญจร ส่วนคำว่า แลน ทางนี้เขาหมายถึง ตัวตะกวด หรือตัวเงินตัวทอง เอามารวมกันก็หมายถึง เส้นทางสัญจรของตะกวด แต่ก็ใช่ว่าที่นี่จะมีตะกวดมากมายนะ ที่ให้ความหมายแบบนี้ ก็น่าจะเป็นการเปรียบเทียบว่าเส้นทางสัญจรของตะกวดนั้นเล็กและแคบนั่นเอง ถ่ายภาพโดย : นิจ อักษรา เพียงพอสำหรับการเติมรอยยิ้ม เติมความสุขด้วยธรรมชาติที่งดงามของพระอาทิตย์ตกดิน บนทางสัญจรแคบๆ แห่งปายแคนยอนกันแล้ว เราก็คงต้องเผชิญเส้นทางกว้าง ๆ บนโลกใบนี้กันต่อไป ถ้าเพื่อน ๆ ได้ไปเทียวปาย อย่าลืมหาโอกาสทักทายปายแคนยอนกันด้วยนะ !