วัดผาตากเสื้อ ตั้งอยู่ที่ ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ที่นี่มี Sky walk ที่เป็นพื้นกระจกใสติดตั้งบนหน้าผา ซึ่งมีข้อจำกัดคือสามารถขึ้นไปได้ครั้งละ 20 คนเท่านั้น สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำโขง และ 2 ฟ้ากฝั่งที่สวยงามระหว่าง 2 ประเทศ ไทย - ลาว การเดินทางมาที่วัดผาตากเสื้อนี้ เป็นทริปที่เกิดขึ้นหลังจากได้เดินทางไปสักการะ เจ้าปู่ศรีสุทโธ ที่วัดคำชะโนด อุดรธานี และเกิดจากการได้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนของเจ้าถิ่นผู้แนะนำทางว่าวัดผาตากเสื้อนี้ ห่างจากที่พักซึ่งอยู่ใน อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เพียง 60-70 กิโลเมตรเท่านั้น ทุกคนจึงตกลงใจกันว่าจะเดินทางมาที่นี่ก่อนที่จะเดินทางกลับโคราช เพื่อเตรียมตัวทำงานกันต่อไป แต่พอเดินทางมาจริง ๆ ระยะทางก็ปาเข้าไปเป็น 2 เท่าของระยะทางที่ผู้นำทางบอกเราเลยทีเดียว เนื่องจากได้ตกลงใจตั้งใจว่าจะมาที่นี่แล้วจึงไม่ได้วกรถกลับคืน แถมเมื่อทราบว่าระยะทางไกลกว่าที่ได้ข้อมูลมา และเส้นทางมาก็ค่อนข้างหวาดเสียว เพราะเป็นทางขึ้นลงเขาเกือบตลอดทาง ทำให้สมาชิกในรถบางคนถึงกับถอดใจกันเลยทีเดียวค่ะ ต่อเมื่อขึ้นมาจนสุด ถึงบริเวณลานจอดรถของวัด ซึ่งเป็นด่านแรกที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ ในใจก็เกิดคำพูดที่ว่า "มันคุ้มจริง ๆ นะกับการเดินทางมาถึงที่นี่ได้" ภาพโดย : ผู้เขียน หลังจากจอดรถแล้วเราก็ได้พากันเดินเข้าไปในบริเวณวัด เนื่องจากวันนั้นเราใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นไป จึงได้เข้าไปหยิบผ้าถุงที่วัดจัดเตรียมไว้ให้เพื่อสวมใส่ให้เหมาะกับกาลเทศะและให้เกียรติสถานที่ เสร็จแล้วก็เข้าชมส่วนต่าง ๆ ของบริเวณวัดต่อไป หลัก ๆ คือเราพากันบูชา ดอกไม้ ธูป เทียน เพื่อเข้าไปกราบไหว้พระประธานที่ประดิษฐานอยู่ในโบสถ์ ซึ่งมีบันไดพญานาคทอดยาวขึ้นไปหลายขั้นเลย และพระประธานที่ประดิษฐานอยู่บนนั้น ก็สวยงามอร่ามตามากทีเดียวค่ะ เมื่อลงมาจากกราบพระประธานในโบสถ์แล้ว เราก็มาเยี่ยมชมในส่วนของ Sky walk ค่ะ ว่ากันว่าถ้ามาในช่วงเช้าหรือช่วงฤดูหนาว ที่นี่จะมีทะเลหมอกที่สวยงามให้เยี่ยมชม และถ้ายิ่งเข้าไปยืนอยู่ใน Sky walk ที่เป็นพื้นกระจกใสก็ยิ่งเหมือนกับว่าเราเข้าไปยืนอยู่ท่ามกลางเมฆหมอก ดุจดั่งอยู่บนสรวงสวรรค์อย่างไรอย่างนั้นเลย แต่เป็นที่น่าเสียดายนัก ที่วันนั้นเราไปถึงเวลาก็เกือบเที่ยงเสียแล้ว จึงไม่ได้มีโอกาสได้เห็นเมฆหมอกเหล่านั้น กลับได้เห็นทิวทัศน์รอบ ๆ บริเวณได้อย่างชัดเจน ว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นเรือกสวนนาไร่ เส้นทางสัญจรต่าง ๆ ของประชาชนที่อาศัยอยู่รอบ ๆ บริเวณนั้น ซึ่งเราสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนทีเดียว ภาพโดย : ผู้เขียน จุดตรงนี้จะมองเห็นแม่น้ำโขงเป็นสันดอนสามเหลี่ยมมีโค้งเป็นรูปตัว y ในบางช่วงเวลาที่น้ำลดลงมาก ๆ ก็จะสามารถมองเห็นสันดอนได้อย่างชัดเจน และเห็นสันทรายกลางแม่น้ำโขงเป็นคลื่นริ้ว ๆ คล้าย ๆ กับเกล็ดพญานาคสวยงามค่ะ แต่ในวันที่เราไปน้ำยังมากอยู่จึงมองเห็นแค่น้ำและโค้งรูปตัว y ต้นไม้เขียวขจีกับแสงแดดที่เจิดจ้า เป็นบรรยากาศที่ค่อนข้างสวยงามไปอีกแบบเช่นกันค่ะ เมื่อเดินชมสกายวอล์คและทิวทัศน์ด้านบนผากันแล้ว ยังพอมีแรงเหลือก็เลยพากันเดินลงไปใต้ผา ซึ่งเป็นบันไดชิดผนังผาทอดลงไปยาวหลายขั้นเลยล่ะค่ะ สังเกตว่าระหว่างทางที่ลงไปนั้นมีการนำกิ่งไม้และท่อนไม้เล็ก ๆ มาตั้งค้ำตามซอกผาไว้ ซึ่งเราเองก็ไม่ทราบว่าจุดประสงค์ในการนำไม้มาค้ำนั้นเพื่ออะไรกัน จนมาสิ้นสุดทางลงผาจะเป็นกุฏิเดิมของ หลวงปู่เพชร ปะทีโป ผู้ที่ได้เดินทางมาปฏิบัติธรรมและก่อตั้งวัดผาตากเสื้อขึ้นในปี 2477 ค่ะ จริง ๆ แล้วกุฏิหลังนี้ได้ผุพังตามกาลเวลาไปนานแล้ว แต่ก็ได้มีการบูรณะและนำพระพุทธรูปมาประดิษฐานไว้ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มาชื่นชม กราบไหว้ อีกด้วยค่ะ ภาพโดย : ผู้เขียน เมื่อพากันขึ้นมาจากใต้ผาแล้ว ก็ได้มารวมตัวกันที่รถเพื่อเดินทางต่อไป และหาอะไรกินกันระหว่างทางด้วยค่ะ เพราะรู้สึกว่าแต่ละคนจะใช้พลังงานกันเยอะพอสมควร กับการที่ได้เยี่ยมชมด้านบนของผายังไม่พอ ยังได้ไต่ลงไปชมด้านล่างของผาตากเสื้ออีกด้วย วัดผาตากเสื้อนี้ได้เติมเต็มความรู้สึก ที่ได้มาท่องเที่ยวและได้ทำบุญอีกด้วยค่ะ การกราบพระขอพร ก็ไม่ได้ขออะไรมาก ขอเหมือนเดิมเลยค่ะ คือขอให้เดินทางไปไหนมาไหนแคล้วคลาดปลอดภัย ขอให้ชีวิตมีความสุขตามปกติสุขค่ะ ภาพผู้เขียนและคุณยุ้ย หนึ่งในผู้ร่วมเดินทางค่ะ และสามารถติดตามอ่าน บันทึกการเดินทาง# 1 ฝนพรำ ๆ ที่คำชะโนดได้ที่นี่นะคะ เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยค่ะ