เย็นวันหนึ่งของเดือนกุมภาพันธ์ ท้องฟ้าส่วนใหญ่ของเมืองลำปาง ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน แต่บังเอิญว่าช่วงกลางวัน ท้องฟ้าในตัวเมืองกลับมาสดใสอีกครั้งในรอบหลายวัน และ “สวนพฤษชาติแม่เมาะ” ก็เป็นเส้นทางที่เราจะลัดเลาะกลับบ้านได้ จึงอยากไปเดินเที่ยวก่อนเข้าบ้าน ดังนั้นภาพในชุดนี้ ก็จะเทา ๆ หม่น ๆ อยู่สักหน่อย ในช่วงฤดูหนาวที่ท้องฟ้าสดใส ที่แห่งนี้จะทำหน้าที่ในฐานะที่เที่ยวของลำปางอยู่เสมอ ... เราเดินทางในถนนลำปาง-แพร่ แต่เลี้ยวซ้ายเข้ามายังเหมืองแม่เมาะที่แยกใหญ่ โดยมีป้ายบอกทางชัดเจน ขับรถไปเรื่อย ๆ ประมาณ 10-15 นาที เราจะถึงที่หมาย “สวนพฤษชาติแม่เมาะ” ได้ไม่ยาก เพื่อน ๆ ใช้ GPS นำทางได้เช่นกัน เพราะเส้นทางไม่ซับซ้อนใด ๆ และรถปลดประจำการคันใหญ่ตรงหน้า คือสัญลักษณ์ของที่แห่งนี้ ช่วงเวลาในการเที่ยวคือ 7 โมงเช้า – 1 ทุ่ม และรถที่ไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่ จะไม่อนุญาตให้ขับเข้าไป แต่สิ่งที่ยกเว้นได้ก็คือ รถที่นำคนชราหรือผู้พิการเข้าไปส่งด้านใน หลังจากนั้นต้องกลับมาจอดไว้ข้างนอกเหมือนรถคันอื่น ๆ เพราะต้องเข้มงวดในเรื่องของความปลอดภัย “เทวาลัยสถาน” ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ทางด้านขวามือ การมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เราได้สักการะบูชา เป็นเรื่องที่เป็นมงคลต่อจิตใจของชาวพุทธ ดังนั้นเรามักจะยกมือท่วมหัวอยู่เสมอ เวลาเดินผ่านบริเวณนี้ เดินเข้ามาข้างในอีกนิดหนึ่ง เราจะเห็นอาคารอยู่ทางขวามือ ส่วนนี้คือ “พิพิธภัณฑ์เหมืองแม่เมาะ” เปิดให้บริการวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) มีรอบให้เข้าชมได้วันละ 4 รอบตามในป้าย จะว่าไปแล้ว เราเองก็ไม่ได้เข้าไปดูข้างในนานพอสมควรนับ 10 ปีเลย จำได้คร่าว ๆ ว่า จะพูดถึงประวัติความเป็นมา และจำลองการทำเหมืองลิกไนต์ รวมถึงความรู้อื่น ๆ อีกเยอะแยะเลย ส่วนด้านในสุด จะมีจุดชมวิวด้วย เดินเข้าไปด้านในอีกนิด เราจะได้พบกับ อนุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 สร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้น้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน เพราะด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ที่พระองค์มองเห็นถึงประโยชน์อันมหาศาลของพลังงาน จากการทำเหมืองถ่านหินลิกไนต์ในการผลิตกระแสไฟฟ้า จึงทำให้เรามีทรัพยากรในการผลิตไฟฟ้าใช้กัน จวบจนทุกวันนี้ ถัดมาด้านข้าง จะเป็นบึงบัว โดยปกติจะบานในช่วงฤดูหนาว แต่วันนี้คือเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งจะเข้าฤดูร้อน (มาก) แล้ว เราจึงไม่ได้เห็นดอกบัวสวย ๆ กัน แต่เห็นน้ำนิ่ง ๆ แบบนี้ ก็ไม่ได้ส่งกลิ่นเหม็นแต่อย่างใด เพราะทางแม่เมาะทำระบบผันน้ำเอาไว้แล้ว ที่สำคัญอย่าลงเล่นน้ำนะ หมอกควันหนาตาหรือไม่ ก็ให้ภาพเป็นคำตอบเอาละกัน อย่างที่บอกในตอนต้น ว่าในตัวเมืองฟ้าใส เราเลยอยากมากเดินเที่ยวก่อนกลับบ้าน แต่ที่นี่กับในเมืองไม่เหมือนกัน ตอนที่เราเดินอยู่ ก็ใส่หน้ากากเอาไว้ด้วย และจริง ๆ ก็มีคนมาเดินเล่นอยู่นะ เพราะมีรถจอดอยู่ 1-10 คัน หากเป็นช่วงฤดูฝน-ฤดูหนาว เด็ก ๆ จะวิ่งเล่นกันสนุกเลยล่ะ “สวนพฤษชาติแม่เมาะ” แห่งนี้ ขึ้นชื่อเรื่องสไลเดอร์มาก แต่ก่อนพวกเราจะต้องพกกระดาษลังติดมาด้วย บางคนก็ไปหาแผ่นยางส่วนตัวมาเล่น กระดาษมักจะฉีกขาด สุดท้ายก็กลายเป็นขยะ ดังนั้นหลายปีที่ผ่านมา ทางแม่เมาะก็เลยทำให้ซะเลย อย่างที่เราเห็นในภาพ จะมีที่จับให้ด้วย และนั่งได้ครั้งละ 2 คน ที่สำคัญ!! เล่นกันเสร็จแล้ว ก็นำกลับมาเก็บไว้ที่เดิมด้วย คนมาทีหลังเค้าจะได้มีเล่นกันเน๊อะ!! จริง ๆ แล้วช่วงเวลาที่อากาศไม่เป็นใจให้เที่ยว ก็ส่งผลดีต่อสถานที่อยู่เหมือนกัน พื้นที่จะได้บำบัดฟื้นฟูกันใหม่ เมื่อถือเวลาที่เหมาะสม นักท่องเที่ยวก็จะได้มีพื้นหญ้าสีเขียวสดใส เป็นพร็อบถ่ายภาพ และเอาไว้เล่นสไลเดอร์มันส์ ๆ กันอีกครั้ง ในช่วงงานประจำปี จะมีแข่งสไลด์เดอร์ด้วยนะ... ที่นี่เค้าไม่ธรรมดา ... อ้อ!! อย่าลืมอ่านป้ายเตือน และวิธีการเล่นที่ถูกต้องกันด้วย เสียเวลาสักเล็กน้อย แต่ได้ประโยชน์อย่างมาก อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นควรใช้ความระมัดระวังอย่างสูง นอกจากจะมีพิพิธภัณฑ์แบบปิดในอาคารแล้ว ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์แบบเปิดด้านนอกด้วย ซึ่งเราต้องเดินลงเนินไปอีกนิดหนึ่ง ที่แห่งนี้จะละลานตาไปด้วยเครื่องจักรเก่า ที่ใช้งานจริงในเหมือนลิกไนต์ แต่ปลดระวางแล้ว ทางแม่เมาะก็จะนำมาจัดวางที่บริเวณนี้ พร้อมมีป้ายเขียนเอาไว้ให้เราศึกษาด้วย ภาพด้านบนทั้งหมดคือวันเดียวกัน ยกเว้นภาพสุดท้ายนี้ เราอยากปิดท้ายแบบสดใส เพราะอยากจะสื่อให้เห็นว่า ในช่วงเวลาที่ทุกอย่างเป็นใจ “สวนพฤษชาติแม่เมาะ” จะสวยงามน่ามาเที่ยวมาก หากเพื่อน ๆ มีโอกาสเดินทางผ่านมาทางนี้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน-ฤดูหนาว ...มาแวะเที่ยวกันนะ… เพราะในวันที่อากาศเป็นใจ เราก็จะมาเที่ยวใหม่เหมือนกัน เที่ยวทุ่งดอกบัวตอง เหมืองแม่เมาะ คลิก!! เดินเนิบ-เนิบ ที่เนินแม่เมาะ “ทุ่งดอกบัวตอง เหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง”