10 ปราสาท ดิสนีย์ ที่มีอยู่จริง ต้นแบบเทพนิยายแสนโรแมนติก ที่ไปเองได้ไม่ต้องรอเจ้าชาย
มีหลายคนที่ใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวที่ดิสนีย์แลนด์ แดนเทพนิยายในดวงใจด้วยความหวังว่าจะได้ไปชมปราสาทสวยๆ แบบใกล้ชิดด้วยตนเองสักครั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้วปราสาทดิสนีย์นั้นก็เป็นเพียงการสร้างมาเพื่อความสวยงาม เป็นแลนด์มาร์คไว้เท่านั้นเอง ไม่ได้มีกลิ่นอายของเจ้าหญิงเจ้าชาย หรือเรื่องราวความเป็นมาแสนโรแมนติกในนั้น
เราเลยอยากชวนคุณไปชมปราสาทของจริง ที่เป็นแรงบันดาลใจถึงการ์ตูนของวอลท์ ดิสนีย์ ที่อยู่ในความทรงจำของพวกเราตั้งแต่ครั้งยังเด็ก ที่สำคัญคือปราสาทเหล่านี้เปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปีด้วย เรามาตามรอยการ์ตูนโปรดไปพร้อมๆ กันดีกว่าครับ
1. Mont Saint-Michel
ปราสาทของเจ้าชาย Eric จากเรื่อง The Little Mermaid
Mont Saint-Michel นั้นเป็นปราสาทตั้งอยู่บนเกาะขนาดเล็ก มีถนนเชื่อมระหว่างเกาะ และแผ่นดิน อยู่ในแคว้น Normandy ประเทศฝรั่งเศส ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้ว มีโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.709 รายล้อมด้วยหมู่บ้านที่ยังคงสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไว้ และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างคับคั่งทุกๆ ปี
2. Taj Mahal
วังสุลต่าน จากเรื่อง Aladdin
บอกตามตรงว่าสมัยเด็กๆ เข้าใจผิดว่าทัช มาฮาลเป็นวังสุลต่านมาตลอด แต่ความจริงแล้วปราสาทต้นแบบของอะลาดินนี้เป็นสุสานที่เจ้าชายชาห์ จาห์ฮาล ทรงสร้างให้ด้วยใจอาลัยถึงพระนางมุมตัส มาฮาล ใช้ระยะเวลาการสร้างยาวนานถึง 22 ปี เพื่อให้มีความปราณีตวิจิตรบรรจงมากที่สุดชนิดหาที่ใดมาเทียบเทียม (อ่านเรื่องราวของทัช มาฮาล เพิ่มเติมได้ ที่นี่)
3. Hotel de Glace
ปราสาทน้ำแข็งของ Elsa จากเรื่อง Frozen
Lukas Maverick Greyson / Shutterstock.com
ที่นี่จะพิเศษกว่าชาวบ้านหน่อย ตรงที่ไปเที่ยวได้แค่ช่วงหน้าหนาวเท่านั้น ที่ Quebec City ประเทศแคนาดา เป็นโรงแรมน้ำแข็งที่เปิดให้แขกเข้าพักได้ในเดือนมกราคม-มีนาคม แถมด้วยห้อง Suite ที่ตกแต่งตามธีมเรื่อง Frozen แบบเป๊ะๆ เผื่อลูกค้าท่านไหนอยากลองเป็นเจ้าหญิงเอลซ่าดูบ้าง
4. Segovia Castle
ปราสาทราชินี จากเรื่อง Snow White
Segovia Castle หนึ่งในปราสาทที่สวยที่สุดของประเทศสเปน เคยถูกใช้เป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อพระวงศ์ โรงเรียนสอนทหาร ค่ายกันศัตรู รวมถึงคุกคุมขังนักโทษ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 อยู่บนชะง่อนผาที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน เป็นต้นแบบของปราสาทของซินเดอเรลล่านั่นเอง
5. Neuschwanstein Castle
พระราชวังจากเรื่อง Sleeping Beauty
Neuschwanstein Castle (ปราสาทนอยชวานสไตน์) ปราสาทงามของยุคกลางพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ท่ามกลางเนินเขากลางป่าใกล้ทิวเขาแอลป์ เป็นปราสาทที่มีภูมิทัศน์เหมือนอยู่ในเทพนิยายมากที่สุด
6. Mont Saint-Michel
ปราสาทจากเรื่อง Tangled
พาคุณกลับมาที่ประเทศฝรั่งเศสอีกรอบ ที่ Mont Saint-Michel เชื่อว่าคงสวยงามจริงๆ ถึงขนาดที่ว่าโปรดิวเซอร์ของดิสนีย์ยังต้องหยิบมาใช้อีกครั้งในเรื่อง Tangled เจ้าหญิงผมสวยราพันเซลนั่นเอง (แต่หยิบมาคนละมุม)
7. Angkor Wat
มหานครโบราณ จากเรื่อง Atlantis
Atlantis มหานครใต้บาดาลตามตำนานโบราณที่ไม่สามารถอ้างอิงจากสถานที่จริงได้ ดิสนีย์จึงหยิบยกเอาต้นแบบจากปราสาทที่มีอายุเก่าแก่จากหลายๆ ที่มารวมกัน โดยตัวแบบหลักจะเป็นปราสาทนครวัด ที่ประเทศเขมร นำมาผสมกับวัฒนธรรมอื่นๆ เช่น มายัน อินเดีย เพื่อให้ออกมาเป็นแอตแลนติสตามจินตนาการในที่สุด
8. Machu Picchu
หมู่บ้านชนเผ่า จากเรื่อง The Emperor’s New Groove
Machu Picchu มหานครสาบสูญของชาวอินคา ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงในประเทศเปรู นับเป็นศูนย์กลางความสำคัญทางโบราณคดีของทวีปอเมริกาใต้ ที่ชวนให้นักโบราณคดีต่างสงสัยว่าชาวอินคาในยุคนั้นสามารถขึ้นไปสร้างเมืองอยู่บนเขาเช่นนั้นได้อย่างไร รวมถึงพระนามของจักรพรรดิ Kuzco ในเรื่องก็ตั้งชื่อตามหมู่บ้าน Cusco ในเปรูอีกด้วย
9. Dunnottar Castle
พระราชวังจากเรื่อง Brave
Dunnottar Castle ที่ประเทศสก็อตแลนด์ ปราสาทบนเนินผาริมทะเล เดิมถูกใช้เป็นป้อมปราการมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 15 แม้ปัจจุบันจะเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ยังคงความงามอยู่ไม่เสื่อมคลาย
10. Château de Chambord
ปราสาทจากเรื่อง Beauty and the Beast
ปราสาทหลังงามจากเรื่อง Beauty and the Beast หรือ โฉมงามกับเจ้าชายอสูร เป็นอีกหนึ่งปราสาทที่ใช้รูปแบบจากปราสาทที่มีอยู่จริงในประเทศฝรั่งเศส ชื่อว่า พระราชวังช็องบอร์ (Château de Chambord) เป็นหนึ่งในที่เที่ยวยอดนิยม และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
===============