ในช่วงที่เราได้เรียนอยู่ในประเทศโรมาเนีย สิ่งหนึ่งที่อยากจะทำมาก ๆ คือการไป Roadtrip หรือ ขับรถเที่ยวเมืองต่าง ๆ พอดีช่วงก่อนปิดภาคเรัียน พ่อแม่เราได้มาจากอเมริกา ( พ่อแม่ชาวอเมริกัน ) บินไปรัสเซียก่อนจะต่อเครื่องมาบูคาเรสต์ เราเลยวางแผนจะเที่ยวด้วยกันโดยการขับรถจากบูคาเรสต์มายังเมืองทางตอนเหนือที่เราเรียนอยู่ โดยเมืองหลวงของโรมาเนีย ชื่อบูคาเรสต์ ( Bucharest ) จะอยู่ทางตอนใต้ค่ะ อย่าสับสนกับบูดาเปสต์ ( Budapest ) นะคะ อันนั้นเมืองหลวงฮังการี เมืองหลวงบูคาเรสต์ ( Bucharest ) ต้องบอกตามตรงว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างน่าเกลียดสำหรับเรา ไม่ค่อยสวยงาม และรถติดมาก ๆ คนก็ไม่ค่อยมีน้ำใจเท่าเมืองเล็ก ๆ อื่น ๆ ถ้าจะให้พูดคือ เราไม่ค่อยชอบมาเท่าไหร่เลยค่ะ เราไปรับพ่อแม่และพี่สาวที่บินมาจากอิตาลี สนามบินค่อนข้างเล็ก เลยไม่ทำให้หลงค่ะ ในบูคาเรสต์ พวกเราได้เข้าเยี่ยมชมอาคารรัฐสภา the Palace of Parliament ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากตึกเพนตาก้อนของอเมริกา หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าโรมาเนียเคยเป็นประเทศที่ปกครองด้วยคอมมิวนิสต์ที่ค่อนข้างเข้มงวดโดยผู้นำเชาเชสกู ( Caucescu ) พึ่งได้รับอิสระภาพในปี 1989 สามสิบกว่าปีนี้เองค่ะ ตึกรัฐสภานี้ก็สร้างโดยผู้นำเชาเชสกู ในยุคที่ตัวเองรุ่งโรจน์แต่ประชาชนลำบาก ยากจน อาหารแทบไม่มีกิน เรื่องตลกปนจิกกัดคือ ตึกนี้ได้ชื่อในภาษาโรมาเนียนว่า ตึกของประชาชน แต่ว่าประชาชนนั้นไม่มีสิทธิ์เข้านะคะในยุคนั้น เป็นเรื่องแปลก ๆ ดีเหมือนกัน พวกเราขับรถออกนอกเมืองไปยังเมืองต่อไปที่ชื่อว่า Sinaia ซินายา ซึ่งเป็นเมืองในหุบเขา มีชื่อเสียงด้านสกีและบ้านพักตากอากาศ อากาศค่อนข้างดีและมีปราสาทที่โด่งดังสไตล์ Neo-Renaissance สร้างขึ้นเพื่อกษัตริย์ของโรมาเนีย King Carol I และยังเป็นปราสาทแรกในยุโรปที่มีไฟฟ้าใช้ทั้งหมดค่ะ รอบ ๆ ปราสาทจะมีของขาย สินค้าสำคัญคือ พวกผลไม้เบอร์รี่ราคาไม่แพงมากนัก สด ๆ หวานอร่อย จากชาวบ้าน ใครสนใจสามารถซื้อชิมได้ และยังมีโบสถ์ใกล้ๆ กับปราสาท Sinaia Monastery คนโรมาเนียนั้นนับถือศาสนาคริสต์นิกายออโธดอกซ์ ( Orthodox Christianity ) ซึ่งจะพบในกลุ่มประเทศรัสเซีย ยูเครน มอลโดว่า จะค่อนข้างเคร่งขัดและมีแบบแผนของตัวเอง วิวสองข้างทางช่างสวยงาม ภูเขาตัดสลับกับป่าที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้เราไม่เบื่อเลยค่ะ เราจะไปต่อยังเมือง Bran ใช่แล้วค่ะ ปราสาทบราน ที่เป็นตำนาน Dracula อยู่ที่นี้เองค่ะ ข้างในได้รับการบูรณะใหม่ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากในแต่ละปี รอบๆ จะมีร้านอาหารและโรงแรมเยอะแยะ ไม่ต้องกลัวว่าจะมาเที่ยวยากเลยค่ะ แถมโรมาเนีย คนส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษเก่ง ปราสาทบรานนั้นสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 จะเห็นว่าสร้างอยู่บนหินผาค่ะ นักเขียนชื่อดัง ใช้บรรยากาศและปราสาทนี้มาแต่งเป็นเรื่องเล่า โดยอ้างอิงเกี่ยวกับเจ้าชายวลาด จริงๆ เจ้าชายวลาดจอมเสียบนั้นเคยเป็นเจ้าของปราสาทในยุคกลาง เขามีชื่อเสียงเรื่องเอาหอกมาเสียบกับคอไว้รอบ ๆ ปราสาทเพื่อทำให้ศัตรูกลัวค่ะ ขับออกมานอกเมืองก็จะเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านนอกเมืองที่ยังใช้รถม้าเป็นพาหนะอยู่ค่ะ ที่ต่อไปเราจะพาไปยังปราสาท ที่มีโบสถ์อยู่ข้างในด้วยลักษณะแบบนี้เค้าเรียกว่า Fortified Church เป็นโบสถ์ป้อมปราการ เพราะในสมัยนั้น การป้องกันเมืองต้องสร้างกำแพงล้อมรอบ สงครามเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยค่ะ ลักษณะในแถบนี้จะเห็นว่ามีหลังคาสีส้ม และมีตาหน้าต่างบนหลังคา เพราะในอดีตนั้นเคยมีชนกลุ่มน้อยเยอรมันเคยอาศัยอยู่ ไบเบิลหรือหนังสือหลักฐานต่าง ๆ จะมีภาษาเยอรมันแบบเก่าอยู่ น่าสนใจมาก ๆ ค่ะ แถมบางคนที่อยู่ในเมือง มีบรรพบุรุษพูดภาษาเยอรมัน ก็ยังถ่ายทอดต่อ ๆ กันมา สามารถพูดภาษาเยอรมันได้บ้างค่ะ และไฮไลต์ของทริปคือ การขับรถผ่าน Highway ชื่อ Transfăgărășan เป็นไฮเวย์ที่สวยที่สุดในยุโรป จะเปิดแค่สามเดือนเท่านั้นค่ะ เราโชคดีพอดีในช่วงที่เค้าเปิด ซึ่งข้างบนนั้นจะหนาวเย็นและอยู่บนภูเขา มีทะเลสาบอยู่ด้วยค่ะ และหิมะยังตกอยู่บนนั้นค่ะ น่าทึ่งมาก เพราะเมื่อเราขับรถไต่ระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ จากร้อน ก็เปลี่ยนเป็นหนาวเย็น และจะมีอุโมงค์สุดท้ายที่เราขับลอดเข้าไปเหมือนกับอีกเมืองข้างบนที่มีหิมะเลยค่ะ น่าทึ่งสุด ๆ เมืองสุดท้ายที่อยากจะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ คือ Sighisoara เป็นบ้านเกิดของเจ้าชายวลาดจอมเสียบนั้นแหละค่ะ แถมยังได้ UNESCO ด้วย เมืองน่ารัก จะมุมไหนก็สวย เก่าแก่เหมือนย้อนกลับไปในสมัยยุคกลางเลยค่ะ ต้องขอบคุณโอกาสดี ๆ ที่เราได้รับทุนมาเรียนที่ประเทศโรมาเนีย ทำให้เราได้เปิดประสบการณ์ทั้งสามปี ตอนนี้เราสามารถพูดภาษาโรมาเนียนได้ ได้พบเพื่อนใหม่ ๆ แถมยังได้เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวรอบโรมาเนีย เจอวัฒนธรรมแปลกใหม่ ที่คิดว่าไม่สามารถหาได้ที่ไหน หากใครมีเวลาหรือวางแผนจะมาเที่ยวยุโรปขอฝากโรมาเนียไว้ในตัวเลือกด้วยค่ะ รับรองไม่ผิดหวังกับความสวยงาม ( ภาพทั้งหมดถ่ายโดยนักเขียน ใช้ในนามปากกา whynottravel )