ในช่วงเช้าของวันหยุด ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ออกไปสัมผัสบรรยากาศสดชื่นที่เขาค้อและภูทับเบิก ผมขึ้นมอเตอร์ไซด์คู่ใจและเริ่มออกเดินทางจากที่พักเล็กๆในตัวเมือง เพียงแค่สตาร์ทเครื่องและขี่ออกไป ถนนเส้นเล็กๆ ก็พาผมลัดเลาะผ่านวิวภูเขาที่เรียงรายเป็นแถบตลอดเส้นทาง ระหว่างทางที่ขี่มอเตอร์ไซด์ขึ้นเขา ผมผ่านร้านค้าท้องถิ่นที่ตั้งเรียงรายสองข้างทาง ส่วนมากเป็นร้านเล็กๆ ขายของที่ระลึกและผลไม้สดจากสวน บางร้านเป็นคาเฟ่เล็กๆ ตกแต่งด้วยไม้และต้นไม้เลื้อย ผมแวะพักที่คาเฟ่แห่งหนึ่งที่มีวิวทิวเขาสุดลูกหูลูกตา ขณะที่นั่งจิบกาแฟร้อนๆ สายลมเย็นๆ พัดผ่าน มองเห็นทุ่งหญ้าและหมู่เมฆที่ลอยต่ำทำให้รู้สึกผ่อนคลายจนไม่อยากจะลุกไปไหน หลังจากพักผ่อนสักพัก ผมก็ขี่มอเตอร์ไซด์ต่อ ข้างทางเริ่มเป็นวิวภูเขาสูงชัน ถนนโค้งไปมาตามความลาดเอียงของภูเขา แต่การขี่มอเตอร์ไซด์ในช่วงนี้กลับให้ความรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษ เพราะอากาศเย็นสบายและวิวที่สวยงาม ผมรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาในอีกโลกหนึ่ง ที่ซึ่งธรรมชาติและความเงียบสงบครอบคลุมทุกอย่าง เมื่อถึงภูทับเบิก ผมมองเห็นที่พักหลายแห่งเรียงรายอยู่ตามเนินเขา ทั้งที่พักแบบบ้านไม้และเต็นท์แคมป์ที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาได้ ผมเลือกที่พักที่มีระเบียงกว้าง หันหน้าออกสู่ทะเลหมอก วิวในตอนเย็นสวยจนบรรยายไม่ถูก ท้องฟ้าเปลี่ยนสีจากฟ้าใสเป็นสีส้มและชมพูในยามพระอาทิตย์ตก ทำให้การเดินทางครั้งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง กลางคืนอากาศเย็นลง ผมนั่งมองหมู่ดาวที่เต็มท้องฟ้า รู้สึกขอบคุณที่มีโอกาสได้มาสัมผัสบรรยากาศสวยงามของภูทับเบิก ผมรู้สึกว่าไม่ว่าจะกลับมาที่นี่กี่ครั้ง ก็ยังคงมีความสุขเหมือนเดิม และผมได้สัมผัสว่า ระหว่างทางก็สำคัญไม่แพ้ปลายทาง บางทีเราก็สนใจและนึกถึงแต่ปลายทางอยางเดียว จนลืมไปว่าระหว่างนั้น มีสิ่งที่ให้เราสัมผัสชื่นชมมากมายเช่นกันครับ เครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !