อาจจะเป็นเพราะความเงียบสงบของเมืองปายที่บอกตามตรงว่าในบางเวลานั้นไม่ตอบโจทย์ "คนชีพจรลงเท้า"อย่างผมเลยแม้แต่น้อย เลยคิดหาอะไรสนุกๆทำคั้นกลางบรรยากาศที่เหมาะกับการให้กล้องดอลลี่ตัวเองเป็นอย่างมาก แต่ผมก็คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรเพราะด้วยเป็นคนที่เดินทางไปไหนไม่ค่อยจะมีแพลนเลย ย้ำว่าไม่เลย "โป่งน้ำร้อนท่าปาย" น่าสนแหะ ผมเปิดเจอในกูเกิ้ล "เอาว่ะเหนื่อยมาทั้งวันไปแช่ตัวให้หายเหนื่อยก็ยังดี"ไม่รอช้าก็รีบไป "โป่งน้ำร้อนท่าปาย"ทันที ซึ่งไม่ไกลจากที่พักมากนัก จะบอกว่าสถานที่ท่องเที่ยวของปายนั้นไปง่ายมากๆๆ ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่นัก ตรงอย่างเดียวจ๋า(แทบจะทั้งหมด)ไม่เกิน 15 นาทีผมก็มาถึงหน้าปากทางแล้วกำลังจะเข้าไปแต่ผมดันเหลือบไปเห็นป้ายเขียนว่าประมาณ "บ้านช้าง" บริการขี่ช้างชมวิว บลาๆๆอะไรนี่แหละความคิดของผมเริ่มตีกันระหว่าง "ฉันจะไปแช่น้ำร้อน"หรือ"ฉันจะไปขี่ช้างดี" ผมเลยเอาว่ะแช่น้ำร้อนตอนไหนกะได้ แต่ขี่ช้างเนี่ยครั้งแรกเลยน่าลองแหม่เป็นการตัดสินใจที่รวดเร็วจริงๆ "นี่มันก็นานแล้วนะป้ายคนละครึ่งยังอยู่เลยแหะ" สื่อให้รู้เลยว่าเจ้าของไม่น่าอัพเดตข่าวสารหรือไม่ค่อยปรับปรุงร้านเท่าไหร่นัก พอเดินเข้าก็เจอช้างอยู่2-3 เชือกแต่โดยรอบนั้นเรียกว่าอย่างไรดี "ค่ายช้าง"555+ คือมันมีหลายที่มากๆแล้วแต่ท่านจะเลือกใช้บริการแต่ที่นี่มันดูสะดุดตาผมเท่านั้นชายแก่คนดูแลช้างก็เดินมาต้อนรับผมอย่างเป็นมิตร"มาขี่ช้างเหรอหนุ่ม 1,000 บาทครับ" ชายแก่ตอบด้วยรอยยิ้มแต่ผมนี่สิไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย ผมตกใจราคาที่เค้าบอกต่างหากเพิ่งรู้ว่าขี่ช้างเนี่ยตั้ง 1,000 บาท!!! แต่ด้วยสกิลถอยทัพที่ได้มาจากดอยอินทนนท์ครั้งก่อนก็ทำให้ผมถอยหลังและปฏิเสธไปโดยง่าย"สุ้ราคาลุงไม่ไหว ผมเอางบมารอบนี้มาไม่มาก" ผมพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดก่อนจะเดินไปที่มอเตอร์ไซด์เพื่อจะไปแช่บ่อน้ำพุร้อน"หนุ่มจ้ะ XXXบาท พอลูกป้าลดให้เพราะที่อื่นก็ราคาประมาณนี้อย่างที่ลุงบอกนะ" ป้าที่อยู่ในบ้านรีบเดินมาบอกผมผมคิดในใจว่าแม่งเจ็ดร้อยก็ยังแพงสำหรับเราแต่อีกใจก็อยากลองจะได้ไปเล่าให้พ่อแม่ฟังได้"โอเคป้า"ผมตกลงพร้อมกับเดินตามหลังลุงไปลุงพาผมเดินไปเก็บของในตู้เก็บแล้วให้ผมขึ้นฐานเพื่อขี่ช้าง ผมอธิบายไม่ถูกว่ามันคืออะไรมันมีบันไดขี้นไปแล้วลุงจะสั่งให้ช้างเขยิบมาใกล้ๆเพื่อให้ผมสามารถก้าวขาลงหลังช้าง สัมผัสแรกของการขึ้นหลังช้างคือความสากหยาบกร้านของผิวและขนที่ราวกับเป็นกวาดดอกหญ้าแต่จะแข็งกว่ากล้ามเนื้อที่เคลื่อนไหวจนทำให้ผมรู้สึกกลัวขึ้นมาเช่นกัน โดยมีลุงคุมช้างอยู่ด้านหน้าแน่นอนด้วยสัญชาตญาณของสัตว์ต่อให้ถูกเลี้ยงด้วยมนุษย์แต่ก็คงเหมือนกับเด็กที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ในบางอารมณ์เพราะกว่าจะถึงคลองเล่นเอาผมซะเหนื่อยเลย มันเดินซ้ายทีขวาที ยืนนิ่งถ่ายอุจจาระหรือแม้กระทั่งไม่ฟังลุงคุมช้างเลยก็มี เหล็กที่เอาไว้เคาะหัวคงจะเป็นอะไรที่ชินชาสำหรับมันไปแล้ว "กว่าจะถึงคลองอย่างที่บอกใช้เวลาพอควรก็ได้เวลาสัมผัสประสบการณ์ที่ผมทั้งสนุกและเฉียดตาย"ลุงเริ่มการบรรเลงแรกด้วยการให้ช้างไปตรงกลางคลอง บอกได้เลยว่าถึงจะเรียกว่า "คลอง" แต่มันลึกเอามากๆๆ จนขาของช้างจมมิดเหลือแค่ตัวมันที่โผล่ขึ้นมาพ้นน้ำผมที่นั่งบนหลังช้างก็ทั้งกลัวทั้งตื่นเต้นคือถ้ามันตกมันขึ้นมาแล้วสะบัดผมลงไปในคลองก็คือ "ไม่น่ารอด" แต่มันก็คือช้างเลี้ยงทำให้ยังเข้าใจสิ่งที่ต้องทำอยู่บ้าง อารมณ์ขึ้นลงเหมือน "ไบโพล่า" จะว่าแบบนั้นก็ได้ลุงบอกให้ผมถอดเสื้อเพื่อความคล่องตัวแล้วจึงพาผมไปอีกที่ซึ่งไม่ลึกและสามารถเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ ธรรมชาติโดยรอบนั้นเรียบง่ายแต่ก็สวยงามแบบพื้นๆ ผมถามลุงว่าทำอาชีพนี้มากี่ปีแล้วแกก็ตอบย่างสบายใจว่า"ตั้งอายุ 17 อะไอ้หนุ่ม"อย่างที่เค้าว่าไว้มันก็จริงนั้นแหละบางคนเกิดมาเพื่อสิ่งใดสิ่งนึงที่ไม่สามารถพรากออกจากกันได้เหมือนลุงกับช้างที่ต้องอยู่ด้วยจนสิ้นอายุขัยคงเป็นเรื่องไม่เกินจริง มันเป็นอะไรที่ผมให้ความเคารพนะไม่ต้องมีทรัพย์สินมากมายแต่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและทำมันได้อย่างดี ผมล่ะอิจฉาลุงแกจริงๆตื่นมาก็เจอธรรมชาติและอยู่กับช้างที่บางตัวเลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อย ผิดกับคนเมืองอย่างผมที่อีกไม่กี่วันก็ต้องไปทำงานเสียแล้วใครบอกว่าขี่ช้างและคุมช้างมันง่าย ผมขอเถียงขาดใจเพราะวันนี้รู้สึกจะไม่ใช่วันของผมซะเท่าไหร่เพราะช้างเชือกนี้ไม่เอนจอยกับกิจกรรมสันทนาการนี้สักเท่าไหร่พยายามจะเล่นอยู่ตัวเดียวโดยการเหวี่ยงผมจนร่วงหล่นไปในคลองหลายสิบรอบแล้วทุกครั้งที่ผมพยายามขึ้นหลังช้างมันก็จะสะบัดลงไปอีก นึกสภาพแค่ทรงตัวให้ยืนในน้ำว่าเหนื่อยแล้วต้องถ่อสังขารร้อยกิโลปีนขึ้นหลังช้างให้ได้มันจะเหนื่อยเป็นทวีมากขนาดไหน ผมว่า Deadlift 150 KG 10REP นั้นกระจอกไปเลยฮาๆๆๆๆ เห็นภาพตัวเองแล้วรู้สึกเลยว่าเป็น "ลูกช้าง"อย่างไรอย่างนั้น ลุงก็เชียร์ผมให้ขึ้นไปหลังช้างครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ถามสุขภาพผมสักคำดันก้นผมขึ้นไปให้ได้แล้วก็หนังม้วนเดิมคือโดนเหวี่ยงไปมาจนร่วงไปอีกรอบ ช้างมันคงหัวเราะสะใจแน่ๆ โคตรเหนื่อยบอกเลยหายใจแรงมากๆร่างกายร้อนผ่าว แขนขาหมดเรี่ยวแรงแหนะ!!! ป้าแกก็ลากผมให้ไปเจอกับช้างมันอีกกลัวไม่คุมกับราคาที่จ่ายไปใช่ไหมเนี่ย อย่างที่บอกไปว่าวันนี้ผมเจอช้างอารมณ์บ่จอย จึงทำให้เกิดซีนนี้ที่ผมเกือบจะขิตด้วย "งวงฟาด"ของช้างตกมันที่กำลังรำคาญผมเป็นอย่างมาก คือถ้ามาดูตอนนี้มันก็ตลกอยู่หรอก แต่ตอนนั้นบอกได้เลยว่าแม้แต่ป้าแกก็ยังร้องตะโกนสุดเสียงให้ผมหลบแต่ผมไม่ได้ยิน โชคดีที่ต่อจากฉากนี้ผมดันลื่นหินหน้าขมำลงน้ำ เลยไม่ได้บาดเจ็บอะไรผมเลยปล่อยให้ลุงกับช้างสวีทกันสองต่อสองแบบนั้นเพราะไม่ไหวแล้วร่างจะพังแถมถ้าฝืนขึ้นหลังอีกทีคงไม่รอดแน่ๆอย่าเสี่ยงเลยจะดีกว่า ผมเลยเดินเล่นบนฝั่งไปอีกสักพักจนช้างพอใจ นี่ผมต้องเอาใจช้างขนาดนี้เลยนะไม่งั้นขากลับมันไม่ให้ผมขี้นหลังแน่นอนในที่สุดช้างตัวน้อย(มั่ง)ก็สงบลงและเดินขึ้นฝั่งมาเพื่อให้ผมขี่หลังโดยง่ายไม่มีท่าทีงอแงเหมือนเมื่อสองชั่วโมงก่อน ตอนนี้เป็นช้างน้อยก็ตามใจผมเสียแล้วแน่นอนขากลับนั้นเดินแบบไม่มีการแวะอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่อย่างว่านั้นแหละสัตว์กับมนุษย์ก็มีอารมณ์ดีหรือโกรธไม่ต่างกัน จะต่างกันตรงที่มนุษย์มีความนึกคิดมากกว่าและพูดได้ไม่น่าเชื่อว่าเล่นไปเล่นมาก็เกือบๆสองชั่วโมงเป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนและคิดว่าจะมาแก้ตัวใหม่โดยที่ตัวเองต้องไปออกกำลังกายและลดน้ำหนักจะได้มีแรงปีนหลังช้างเพื่อทรงตัวให้ได้มากกว่านี้ อากาศช่วงเย็นของเมืองปายกับการอยู่บนหลังช้างเป็นอะไรที่มีความสุขเหมือนกันอยากให้เจ้าช้างเดินไปเรื่อยๆไม่ต้องหยุดพักจนกว่าจะพลบค่ำเลยล่ะ พออาบน้ำล้างตัวเสร็จเรียบร้อยก็บอกว่าลาเจ้าช้างตกมันที่ดูสีหน้าตอนนี้มีความสุขที่ได้แกล้งมนุษย์ตัวอ้วนคนนึงอย่างสะใจ บางทีก็เบาๆหน่อยก็ได้ แรงมหาศาลขนาดนั้นใครจะกล้าสู้ด้วยผ่านสะพานประวัติศาสตร์ท่าปายก็เอาเสียหน่อยกับการถ่ายรูปจะว่าไปการไปเที่ยวคนเดียวก็ไม่ได้แย่นะแถมมีเวลาถ่ายรูปมีเวลาอยู่กับสถานที่ใดที่นึงได้นานเท่าที่พอใจไม่ต้องกังวลว่าจะมีเพื่อนคนไหนทำตัวมีปัญหาซึ่งมันเป็นปกติของการเดินทางร่วมกันเพียงแต่ตัวผมก็คงไม่ชอบสักเท่าไหร่นักจึงเลือกที่จะมาท่องโลกคนเดียวแบบนี้แน่นอนตื่นขึ้นมาอีกวันนึงผมก็นอนเป็นผักเพราะทั้งขาของผมปวดเคล็ดขัดยอกก็แหง่แหละขี่ช้างอ้าขาแแบบนั้นแถมต้องทำศึกกับช้างในน้ำเกือบสองชั่วโมง ขอตัวกินยาพาราและนอนก่อนนะครับ กระผมไม่ไหวจริง...."จงมอบโอกาสด้วยตนเอง อย่ารอโอกาสจากคนอื่น"นามปากกา:NATTOOMEETYOUเครดิตภาพ:NATOOMEETYOU สถานที่ท่องเที่ยวสุดล้ำค่า:เมืองปาย อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน 58130twin camp chang 8F67+57G ตำบล แม่ฮี้ อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน 58130อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !