มีกิจกรรมหลายอย่างที่นาน ๆ ครั้งจะมีโอกาสได้ทำ และหลายคนยังจัดกิจกรรมนั้นให้เป็น bucket lists. (กิจกรรมที่อยากทำสักครั้งหนึ่งในชีวิต) ของตนเองอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมขึ้นบอลลูน ดำน้ำ กระโดดร่ม เล่นบันจี้จัมพ์ ซึ่งกิจกรรมดูวาฬก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่หลายคนอยากจะทำสักครั้งหนึ่งในชีวิต กิจกรรมดูวาฬนั้นมักจะพบเห็นในต่างประเทศที่ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์คือที่นิวซีแลนด์ บอสตัน ไอซ์แลนด์ แต่ล่าสุดที่เมืองไทยก็มีกิจกรรมให้ชมวาฬเช่นกัน แถมไม่ไกลด้วยอยู่ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ นี่เอง ซึ่งวาฬที่เราจะไปชมกันนั้นสามารถพบได้ในทะเลอ่าวไทยซึ่งทาง Bangkok Whale Watching บอกว่ากิจกรรมนี้พบในประเทศไทยประเทศเดียวใน กลุ่มอาเซียน โดยวาฬที่พบนั้นคือวาฬบรูด้า ซึ่งแตกต่างจากวาฬชนิดอื่นตรงที่ด้านหลังของใต้ปากจะเป็นสีชมพู ส่วนวาฬชนิดอื่นจะเป็นสีเทา และด้านบนของปากจะมีสามสันเด่นชัด ส่วนวาฬชนิดอื่น ๆ จะมีสันเดียว ในทะเลอ่าวไทยนั้นมีวาฬบรูด้ามากกว่า 60 ตัว ดังนั้นอัตราการพบวาฬนั้นประมาณ 90-95 % ซึ่งวันที่ไปนั้นเห็นวาฬเยอะมาก บางครั้งวาฬอ้าปากทานปลาพร้อม ๆ กัน เรียกว่าหันทางไหนก็เห็น บอกเลยคุ้มค่ามาก ๆ โดยครั้งนี้เดินทางไปกับ Bangkok Whale Watching โดยออกเรือที่ร้านเจ๋ง ครัวชายทะเล ตำบลพันท้ายนรสิงห์ จังหวัดสมุทรสาคร โดยออกเรือจากท่าเรือไปสองชั่วโมงก็จะเริ่มเห็นวาฬแล้วสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้มารอชมวาฬเป็นอย่างมาก โดยเราออกจากท่าเรือไปในอ่าวไทย เวลา 8.00 น. และกลับถึงฝั่งเวลา 16.00 น. ค่าบริการ ผู้ใหญ่ 1800 บาท เด็ก 1200 บาท โดยเรือที่ไปเป็นเรือที่มีแอร์ด้วย ชื่อวารีประทานทรัพย์ นับเป็นเรือดูวาฬลำเดียวที่มีแอร์ เรือรับผู้โดยสารได้สูงสุด 68 คน แต่ทริปดูวาฬนี้จำกัดผู้โดยสารเพียง 40 คนเท่านั้น ร้านเจ๋งครัวชายทะเล เรือวารีประทานทรัพย์ ราคานี้รวมอาหาร 2 มื้อ มื้อเช้าข้าวต้มไก่ฉีกและมื้อกลางวันเลือกได้ระหว่าง ข้าวผัดทะเล ปู/กุ้ง/หมึก ข้าวผัดกระเทียม กุ้ง/หมึก/กุ้ง+หมึก ข้าวผัดกระเพรา กุ้ง/หมึก ซึ่งอาหารที่นำมาเสิร์ฟนั้นเนื้อปูกับกุ้งเน้น ๆ จริง ๆ อีกทั้งยังรวมเครื่องดื่ม น้ำเปล่าและ น้ำอัดลม ไม่อั้นอีกด้วย แต่ถ้าใครอยากประหยัดค่าใช้จ่ายก็สามารถไปเรือที่ไม่มีแอร์ ซึ่งจะถูกกว่าหน่อยโดยค่าบริการอยู่ที่ 1500 บาท (แต่จากประสบการณ์คิดว่าไปเรือแอร์น่าจะสะดวกสบายกว่า) เรือไม่มีแอร์นี้ออกจากท่าเรือนี้เช่นกัน ชื่อเรือพรสวรรค์ ซึ่งในการดูวาฬนั้นจุดขึ้นเรือที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์นี้ถือได้ว่าเป็นจุดออกเรือที่ใช้เวลาสั้นที่สุดในการเดินทางไปชมวาฬ ซึ่งจุดออกเรืออีกที่หนึ่งคือ บางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี โดยมุ่งหน้ามาชมวาฬที่บริเวณแม่น้ำท่าจีนเช่นกัน ข้อแนะนำสำหรับการไปชมวาฬ 1. พอกกันแดดแน่น ๆ 2. ใส่เสื้อแขนยาว 3. ใจเย็น ๆ ยังไงได้เห็นแน่นอน เห็นจนต้องบอก พอแล้วขอเข้าไปนั่งพักในห้องแอร์ดีกว่า 4. ทริปดูวาฬค่อนข้างนานจาก 8.00น. - 16.00น. ซึ่งหากพาเด็กไปด้วยความสนใจของเด็กอาจจะอยู่แค่ช่วงเช้าเท่านั้น (ระยะเวลาเดินทางไปถึงจุดดูวาฬประมาณสองชั่วโมง ระยะเวลาเดินทางกลับประมาณสองชั่วโมง ระยะเวลาชมวาฬและทานอาหารกลางวันบนเรือประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง) สำหรับใครที่สนใจจะไปดูวาฬ สามารถแอดไลน์ ร้านเจ๋งครัวชายทะเล ที่ jk_seaside แล้วติดต่อเพื่อจองได้เลยนะคะ โดยต้องโอนมัดจำ 50 % ในวันที่จอง และชำระที่เหลือในวันเดินทางที่ร้านเจ๋งครัวชายทะเลค่ะ โดยทาง Bangkok Whale Watching บอกว่าเรือเต็มทุกเสาร์-อาทิตย์ถึงเดือนธันวาคมแล้ว แต่วันธรรมดายังว่างอยู่ ก็ถ้าใครสนใจคงต้องรีบหน่อยแล้ว จบไปแล้วนะคะ สำหรับรีวิวประสบการณ์ดูวาฬ หวังว่าจะเป็นไอเดียสำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังหาโปรแกรมเที่ยวกันอยู่นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ภายในเรือวารีประทานทรัพย์ในส่วนที่เป็นห้องแอร์ ชั้นสองบนเรือวารีประทานทรัพย์ ภาพปกและภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียนและสามีผู้เขียน