(ภาพปกถ่ายโดยนักเขียน) เมื่อไรก็ตามที่ครอบครัวเรามีโอกาสได้เดินทางไกล สถานที่ที่มักจะหาโอกาสไปเยี่ยมชมคือพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เพราะได้ความรู้ และที่สำคัญคือมีอะไรให้เล่นมากมาย แถมไม่ร้อนด้วยเพราะมักจะอยู่ในร่ม วันนี้เราไปกันที่มิไรคัง หรือ National Museum of Emerging Science and Innovation (Miraikan) มิไรคังตั้งอยู่ที่โอไดบะ โตเกียว เราแม่ลูกนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Telecom Center แล้วเดินต่อไม่เกิน 10 นาที ทางเข้าจะเป็นป้ายสีฟ้าเขียนว่า Miraikan สำหรับค่าเข้าชม ผู้ใหญ่อยู่ที่ 620 เยน ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า18 ปี เสียครึ่งราคา เวลาทำการคือ 10.00-17.00 ปิดทุกวันอังคาร (ภาพถ่ายโดยนักเขียน) พอเข้ามาด้านในจะเห็นลูกโลกก่อนเลย (ภาพถ่ายโดยนักเขียน) มีเตียงให้นอนดูลูกโลกด้วย เมื่อเดินเข้าไป สิ่งแรกที่แทบทุกคนต้องเงยหน้าขึ้นมองคือ “ลูกโลกขนาดใหญ่” ที่เกิดจากการนำหน้าจอมาเรียงเข้าด้วยกัน ภาพบนลูกโลกจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ คล้ายกับการดูโทรทัศน์ มีเตียงให้นอนดูด้วย เห็นนักเรียนญี่ปุ่นนอนดูกันหลายคน นอกจากลูกโลกแล้ว ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่คือหุ่นยนต์ ASIMO ที่เตะบอลและเต้นรำได้ การแสดงของ ASIMO จะจัดเป็นรอบ ๆ มีเจ้าหน้าที่บรรยายภาษาอังกฤษขณะทำการแสดงด้วย นอกจาก ASIMO แล้ว มิไรคังที่ขึ้นชื่อเรื่องความล้ำยุคยังมีหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายตัว ตัวที่ลูกสาวชอบและเรียกเสียงหัวเราะจากผู้มาเยี่ยมชมได้มากคือ หุ่นยนต์ผู้หญิงที่แสดงท่าทางต่าง ๆ ได้ วิธีเล่นคือ ให้คนหนึ่งเข้าไปที่ห้องพากย์เสียงข้าง ๆ แล้วพูด เสมือนว่าเป็นหุ่นยนต์พูด ส่วนอีกคนก็นั่งตรงข้ามหุ่นยนต์แล้วพูดคุยกัน (ภาพถ่ายโดยนักเขียน) ได้นั่งคุยกับหุ่นยนต์ด้วย นอกจากนี้ก็มีหุ่นยนต์ที่ขยับส่วนต่าง ๆ ได้ และหุ่นยนต์ขวัญใจเด็ก ๆ อย่างหุ่นยนต์แมวน้ำที่ลูบเล่นได้ (ภาพถ่ายโดยนักเขียน) หุ่นยนต์แมวน้ำที่เด็ก ๆ ชอบ การจัดแสดงส่วนอื่น ๆ ที่น่าสนใจคือ การทดลองขับ UNI-CUB เป็นยานพาหนะล้อเดียวที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า น่าเล่นมาก แต่อดเพราะต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น ในส่วนงานจัดแสดง มีสิ่งต่าง ๆ ให้เด็กและผู้ใหญ่ได้ทดลองได้เล่นหลายอย่าง เช่น อุปกรณ์ที่ให้ความรู้เรื่องดวงตา การส่งรหัส ฯลฯ วันที่พวกเราไปมีนิทรรศการชั่วคราวเกี่ยวกับการรับมือกับสภาวะหดหู่หรือซึมเศร้าด้วย (ภาพถ่ายโดยนักเขียน) มีอุปกรณ์ให้เล่นเยอะเลย ที่ชั้นหกมีโดมครึ่งวงกลม ภายในเป็นท้องฟ้าจำลองแสดงภาพอวกาศแบบสามมิติ แต่เราก็พลาดไม่ได้เข้าชมในส่วนนี้อีกเช่นกัน เพราะต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น ส่วนชั้นห้าเป็นคาเฟ่ขายเครื่องดื่ม ขนม อาหารว่างต่าง ๆ ทีนี้มาถึงจุดที่ห้ามพลาด นั่นก็คือร้านขายของที่ระลึก เรากับลูกให้ห้าดาวเลย ของแต่ละอย่างน่าซื้อมาก ราคาจับต้องได้ ลูกสาวซื้อกล้องส่องทางไกลที่หน้าตาเหมือนของเล่นในราคาไม่ถึง 300 เยน แต่การใช้งานเกินราคา (ภาพถ่ายโดยนักเขียน) กล้องส่องทางไกลจิ๋วที่ราคาไม่ถึง 300 เยน ถ้ามีโอกาสมาโอไดบะ ลองหาโอกาสมาเที่ยวเปิดหูเปิดตาที่มิไรคังดู โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็ก ที่นี่น่าจะตอบโจทย์