พี่สาวของผู้เขียนป่วยเป็นโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร อาการของโรคนี้แสดงออกช้ามาก ก่อนหน้านี้พี่บ่นปวดท้องอยู่บ่อยๆ เคยเข้ารับการตรวจหลายครั้งแต่ได้แค่ยาแก้โรคกระเพาะมากิน เมื่อต้นปีผู้เขียนได้พบกับพี่สาวในงานศพของอา ที่ป่วยเป็นมะเร็งเหมือนกันตอนนั้นพี่สาวยังปรกติดี จะผิดไปก็แค่สีผิวของเธอที่เหลืองเหมือนขมิ้นแต่ผู้เขียนไม่ได้เอะใจอะไร หลังจากแยกย้ายกันครั้งนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย จนเวลาผ่านไปราวสามเดือนกว่าๆ เธอปวดท้องจนต้องไปนอนโรงพยาบาล เธอโทรมาหาผู้เขียนบอกถึงอาการเจ็บป่วย “ปวดท้องว่ะ” เธอว่า! แต่น้ำเสียงที่โทรมานั้นไม่ได้แสดงออกว่าตัวเองป่วยแต่อย่างใด ผู้เขียนเองก็ไม่ได้ตกใจมากนักกับการที่เธอบอกว่านอนโรงพยาบาลสัปดาห์กว่าแล้ว เพราะคิดว่าคงป่วยธรรมดา แต่ก็ได้โทรหาญาติๆ พี่น้องให้รู้ข่าวกันว่าเธอป่วยเผื่อว่าเขาเหล่านั้นจะโทรมาให้กำลังใจเธอบ้าง ผลของการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ หมอแจ้งว่าเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย หลังจากวันนั้นเพียง 2 สัปดาห์เธอก็เสียชีวิต ด้วยอายุเพียง 45 ปี ผู้เขียนจัดการงานศพให้เธอเสร็จเรียบร้อย จึงกลับมาทำงานที่เกาะอีกครั้ง ปิดทองพระพุทธรูปวัดหลวงพ่อโต นับจากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลาครบร้อยวัน ผู้เขียนเดินทางไปสมุทรปราการบ้านของพี่สาวอีกครั้ง เพื่อชวนหลานๆ ลูกของพี่สาวไปทำบุญร้อยวันให้แม่ของเขา ตกลงกันว่าจะไปทำบุญที่วัดหลวงพ่อโต หรือวัดบางพลีใน เพราะอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก ลอยกระทงเทียน หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยปางมารวิชัย(สะดุ้งมาร) ลืมพระเนตร ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดบางพลีใหญ่ในตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เป็นพระพุทธรูปที่ได้รับการกล่าวขวัญว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เคารพสักการะของชาวบางพลีและพุทธศาสนิกชนทั่วไป ปิดทอง การเดินทางจากการเคหะบางพลีบ้านพี่สาว วันนี้เราเลือกเดินทางโดยรถเมล์เพื่อตัดปัญหาเรื่องที่จอดรถที่หาที่ว่างยากมากๆ นั่งรถเมล์สาย 132 ไปลงซอยวัดหลวงพ่อโต แล้วต่อรถแท็กซี่เข้าไปอีกไม่ไกล ไปถึงก็เข้าไปถวายสังฆทานอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้พี่สาวผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว หลังจากนั้นก็เข้ากราบหลวงพ่อโตในโบสถ์ ปิดทองและหยอดตังค์ทำบุญตามตู้ต่างๆ วันนี้เป็นวันอาทิตย์ผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลมาเที่ยว มาทำบุญจนแน่นขนัด ให้อาหารปลา เมื่อมาถึงวัดหลวงพ่อโตแล้ว อีกที่ที่เราไม่พลาดคือตลาดน้ำโบราณ เดินชมตลาดเก่าเพลิดเพลินกับขนมบ้าบิ่น กินไอติมหลอด ส่วนอาหารอย่างอื่นมีน่ากินหลายอย่างแต่ด้วยอากาศที่ร้อนและผู้คนมากมาย เลยพักเรื่องกินเอาไว้ เราไม่ลืมที่จะแวะให้อาหารปลา สีของอาหารปลาจี๊ดจ๊าดมาก ขายกันถังละ 30 บาท ถึงแม้จะใช้เวลาไม่นานแต่ก็สร้างความประทับใจไม่น้อยสำหรับทริปนี้ เพราะอย่างน้อยเราก็ไม่ได้ลืมเธอผู้ที่จากไปอย่างไม่มีวันหวนคืน :::ภาพประกอบโดยผู้เขียน::::