วันนี้ผู้เขียนพามาเที่ยวภาคตะวันออกกันอีกแล้วค่ะ ไม่ใช่จังหวัดติดทะเลเหมือนที่ผ่าน ๆ มานะคะ แต่เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่สีเขียวและน้ำตกเยอะมาก ๆ ใช่แล้วค่ะ จังหวัดนครนายกนั่นเอง สำหรับชาวกรุงฯ เดินทางมานครนายกด้วยรถยนต์ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น แน่นอนว่าผู้เขียนพาทุกท่านไปเที่ยวชุมชนตามเคย แต่! ทริปของเราไม่ได้หยุดแค่ชุมชนแน่นอน ถ้าอยากรู้ว่าไปเที่ยวที่ไหนบ้างรีบตามมากันเลย ที่แรกที่เราไปคือ ศูนย์การเรียนรู้ภูกะเหรี่ยง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ตำบลศรีนาวา อำเภอเมือง เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต แน่นอนว่าที่นี่เขาเน้นเรื่องการทำเกษตรกรรม โดยเฉพาะการปลูกข้าวทำนา ทำให้เมื่อมาถึงเราจะพบกับทุ่งนาเขียวขจีกว้างสุดลูกหูลูกตา ทั้งยังมีสะพานไม้ยาวให้เราได้เดินเล่นชมความสวยงามของทุ่งนาด้วยนะคะมาที่นี่ชาวบ้านจะสาธิตวิถีชีวิตต่าง ๆ ให้เราได้เรียนรู้ และร่วมทำด้วยค่ะ อย่างการทำน้ำนมข้าว และการทำขนมข้าวกระยาคู ซึ่งขั้นตอนการทำเรียกได้ว่าซับซ้อนเกินหน้าตามาก ๆ แม้ดูเผิน ๆ จะเป็นขนมที่กินง่ายและอุดมไปด้วยประโยชน์ แต่ขั้นตอนมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการนำใบข้าวอ่อนมาคั้นเอาน้ำออกเป็นน้ำนมข้าว แล้วนำไปกรองแล้วกรองอีก หรือแม้แต่การเคี่ยวให้ข้นเหนียว ต่างก็เป็นกรรมวิธีที่ต้องใช้เวลาและความอดทนมาก ด้วยเหตุผลนี้ จึงทำให้ขนมข้าวกระยาคู เป็นอีกหนึ่งขนมไทยที่ค่อนข้างหากินยากในสมัยนี้เลยค่ะอีกกิจกรรมที่เราได้ลองทำ และฝันอยากจะทำมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนที่นั่งดูละครย้อนยุค นั่นคือการตำข้าว ฝัดข้าว และสีข้าวนั่นเองค่ะ! คนสมัยก่อนหรือแม้แต่ในสมัยนี้ที่ไม่ใช้เครื่องจักร หากจะหุงข้าวแต่ละหม้อ เห็นจะได้กล้ามแขนก่อนค่ะ เพราะทุกขั้นตอนที่กล่าวมาต่างก็ต้องใช้แขนอยู่เนือง ๆ โดยเฉพาะการตำข้าวที่ต้องยกสากใหญ่ ๆ ตำ จินตนาการไว้ในหัวว่าคงไม่หนักขนาดนั้น แต่พอได้ลองจับจริง ตำไปได้สามครั้งก็หน่วงแขนแล้วละค่ะ ต้องยอมแพ้ ให้พี่ ๆ ชาวบ้านในศูนย์ฯ ช่วยตำแทนส่วนการฝัดข้าว คือการนำข้าวซึ่งตำกะเทาะเปลือกแล้ว มาแยกเปลือกข้าวและเมล็ดข้าวออกจากกัน ก่อนจะนำไปสีในเครื่องสีข้าว (ที่หน้าตาคล้าย ๆ เครื่องโม่แป้ง) เพื่อให้เปลือกที่ยังติดอยู่บนเมล็ดถูกขัดออก หลังจากนั้นเราก็จะได้ข้าวกล้องกลับไปหุงกินที่บ้าน รับรองว่าได้ประโยชน์เน้น ๆ เลยค่ะที่จริงแล้วกิจกรรมที่ศูนย์การเรียนรู้ภูกะเหรี่ยงยังมีอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการชมพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ เครื่องมือเกษตร ช่างไม้ และเครื่องมือแพทย์แผนโบราณ หรือจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลผลิตทางการเกษตร และแวะชิมเครื่องดื่มจากคาเฟ่กลางท้องนาที่นี่ก็มีค่ะ แต่เพราะผู้เขียนมาแบบวันเดย์ทริป ซึ่งต้องไปจุดหมายอื่น ๆ ต่อ ทำให้ได้ทำกิจกรรมในศูนย์การเรียนรู้ฯ ค่อนข้างน้อย แต่ว่า! ที่ ๆ เราจะไปก็น่าสนใจ และสนุกไม่แพ้กัน เพราะเราจะไปเล่นน้ำกันค่ะ! ขับรถต่อไปจากศูนย์การเรียนรู้ฯ ใช้เวลาประมาณ 17 นาทีก็จะถึงสถานที่ที่พลาดไม่ได้ของจังหวัดนครนายกแล้ว เขื่อนขุนด่านปราการชล นั่นเองค่ะ เขื่อนแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรองรับน้ำที่ไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไฮไลต์ไม่ใช่เพียงแค่ทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวภายในเขื่อนที่ให้เราได้ไปนั่งล่องเรือเล่น ล่องเรือชมด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกช่องลม น้ำตกผางามงอน หรือน้ำตกคลองคราม รับรองว่าสวยไม่แพ้น้ำตกไหน ๆ เลยละค่ะคิดว่าการล่องเรือเที่ยวเขื่อนคือที่สุดแล้วใช่ไหมคะ แต่บอกก่อนเลยค่ะว่ามีสนุกสุดกว่านี้อีก แน่นอนว่ามาเที่ยวจังหวัดแห่งสายน้ำทั้งที การล่องแก่งคือสิ่งที่พลาดไม่ได้! วันนี้เราเลยมาล่องแก่งกันที่แม่น้ำนครนายกค่ะ ที่นี่จะนิยมใช้เรือแคนูและเรือยาง และที่พิเศษคือ สามารถล่องแก่งได้ตลอดปี! จุดเริ่มต้นในการล่องแก่งจะอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานหลังเขื่อนขุนด่านปราการชลเรื่อยมาตามลำน้ำนครนายกการล่องแก่งแม่น้ำนครนายกจะใช้เวลาประมาณ 1- 2 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีระดับความยากง่ายในการล่องแก่งอีกด้วยนะคะ โดยจะมีตั้งแต่ระดับ 3 - 5 บอกเลยว่าสนุกและตื่นเต้นมาก! และเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง คือ ลำน้ำที่คดเคี้ยวตลอดเส้นทาง การล่องแก่งจึงทำให้เราได้มีโอกาสฝึกการพายบังคับเรือยางหรือแคนูให้เลี้ยวซ้ายขวาจนสิ้นสุดการล่องแก่งเลยถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำ แต่นครนายกยังมีที่ให้เที่ยวอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวทางธรรมชาติ หรือที่เที่ยวชุมชน ทั้งยังเป็นจังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เท่าไรด้วย ให้มาเที่ยวอีกกี่ครั้งก็คงจะมีความสุข และประทับใจเหมือนเดิมเลยละค่ะ และสำหรับท่านใดที่มีแพลนจะมาท่องเที่ยวที่จังหวัดนครนายก แล้วยังไม่มีที่พัก ผู้เขียนขอแนะนำเป็นที่นี่เลยค่ะ ชลพฤกษ์ รีสอร์ท โรงแรมที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม สัตว์เล็กนานาชนิด สวนดอกไม้ที่สวยงาม สูดอากาศบริสุทธิ์ตามธรรมชาติ และพิเศษสุดสำหรับลูกค้า ทรูรับส่วนลดห้องพักราคาพิเศษเพียง 1,500 บาท จากปกติ 2,500 บาท คลิกเลย! ภาพถ่ายทุกภาพนักเขียนเป็นผู้ถ่ายเองวันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลก์คนที่ชอบ 'ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี'คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 11 สิงหาคม 2565