รีเซต

PAI IN THE MIST ปาย เมืองในสายหมอก เที่ยวปายหน้าฝน สวยนะจะบอกให้

PAI IN THE MIST ปาย เมืองในสายหมอก เที่ยวปายหน้าฝน สวยนะจะบอกให้
aichan
2 ตุลาคม 2558 ( 10:22 )
25.7K

 

ไปเที่ยวปายก็ต้องไปหน้าหนาวสิ ได้บรรยากาศเมืองในหุบเขา อากาศหนาว ดูทะเลหมอก ดอกไม้สวยๆ คิดแบบนี้ใช่ไหมล่ะค่ะ วันนี้ Travel Truelife จะทำให้คุณเปลี่ยนใจ เพราะเราจะพาไปเที่ยวปายในหน้าฝนกันแบบเต็มอิ่ม 4 วัน 3 คืน สัมผัสปายในฤดูกาลที่เค้าว่ากันว่าสวยที่สุดค่ะ รับรองว่าจะต้องหลงรักปายในหน้าฝนแน่นอน

 

วันที่ 1

ออกเดินทางแต่เช้าด้วยเครื่องบินจากดอนเมืองไปเชียงใหม่ ทริปนี้เรานั่งสายการบินแอร์เอเชียค่ะ เที่ยวบินที่ FD 3437 เวลา 06.40 น. ไปถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณ 8 โมง หลังจากจัดแจงมื้อเช้ากันที่ม่อนระมิงค์ เรียบร้อยแล้ว เรานั่งรถตู้กันต่อยาวๆ ใช้เส้นทาง 1095 ไปยัง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ครึ่งทางเราหยุดแวะพักรถและออกมายืดเส้นยืดสายกันที่ร้าน Coffee Hill ค่ะ อยู่ติดถนนใหญ่ เขตป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ช่วงนั้นฟ้าครึ้มๆ อากาศค่อนข้างเย็นสบาย ได้จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ยิ่งสดชื่นค่ะ


พักดื่มอะไรเบาๆ ไปแล้ว ก็ออกเดินทางต่อ ก่อนเข้าสู่ตัว อ.ปาย เราต้องผ่านอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จึงแวะเข้าไปเที่ยวกันเสียหน่อยค่ะ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังในช่วงหน้าฝนนี้ธรรมชาติดูเขียวสดและชุ่มชื่นมากๆ อากาศเย็นสบาย 18 องศา นั่งชมวิวรับลมกันได้เพลินๆ เลย


เราถึงตัวอำเภอปายกันประมาณเที่ยงครึ่งค่ะ แวะรับประทานมื้อเที่ยงกันที่ The Quarter Hotel เติมพลังด้วยอาหารเมืองเหนือพร้อมลุยเที่ยวต่อช่วงบ่ายค่ะ


ที่เที่ยวปายที่แรกที่เราไปคือ น้ำพุร้อนไทรงาม ที่นี่เรียกได้ว่าเป็น Unseen Thailand เลยก็ว่าได้เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จัก เพราะเป็นน้ำพุที่ผุดขึ้นมาตามธรรมชาติ น้ำใสสีเขียวมรกตนั้นมีความอุ่นไม่ร้อนจนเกินไป เหมาะกับการนั่งรีแลกซ์แช่ตัว ส่วนมากคนที่มาแช่จะเป็นชาวบ้านแถวนั้นค่ะ แต่วันที่เราไปนั้นเจอนักท่องเที่ยวต่างชาติไปแช่กันเยอะเหมือนกัน และดูเหมือนว่าน้ำพุร้อนแห่งนี้จะเป็นที่ชื่นชอบของทุกๆ คนมากทีเดียว


อ่านรีวิว รีแลกซ์เบาๆ แช่น้ำร้อนที่ปาย น้ำพุร้อนไทรงาม น้ำใสสีเขียวมรกต เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3328376

 

เนื่องจากเรามีเวลาเที่ยวไม่มาก จึงได้เพียงแช่ขาสักพัก แล้วไปเที่ยวกันต่อค่ะ ที่ กองแลน หรือ ปายแคนยอน เป็นสถานที่ที่เกิดขึ้นจากความอัศจรรย์ของธรรมชาติ การยุบตัวของดินและการกัดเซาะด้วยลมและฝนในบริเวณกว้าง ทำให้พื้นดินเกิดเป็นร่องลึกและหน้าผาสูงชันค่ะ ลักษณะเหมือนแกรนด์แคนยอน


อ่านรีวิว พาเที่ยวกองแลน แคนยอนเมืองปาย ความอัศจรรย์จากธรรมชาติ เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3329080

 

ใช้เวลาช่วงบ่ายไปกับการเดินเที่ยวกองแลน พื้นที่ค่อนข้างกว้างเล่นเอาเหงื่ออกเหมือนได้ออกกำลังกายเลยค่ะ มื้อค่ำวันนี้เราจึงจัดมื้อค่ำกันที่ร้าน Silhouette ภายในโรงแรม Riverie Siam เพราะที่นี่บรรยากาศดีมาก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองปาย จากห้องอาหาร สามารถมองเห็นทิวทัศน์เป็นภูเขาเบื้องหลัง พร้อมรับประทานอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนรสชาติยอดเยี่ยม เป็นมื้อค่ำสุดหรูที่แนะนำให้ทุกคนต้องไปลองค่ะ


อ่านรีวิว มื้อค่ำสุดโรแมนติก จิบไวน์ชิลล์ๆ ท่ามกลางหุบเขา ที่ร้านอาหาร Silhouette ปาย เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3329969


ค่ำแรกเราพักกันที่โรงแรม Belle Villa ค่ะ รีบอาบน้ำพักผ่อน เพราะจุดหมายปลายทางของพรุ่งนี้เช้าคือไปชมทะเลหมอที่หยุนไหล บ้านสันติชลค่ะ

 

 

วันที่ 2

ตื่นแต่เช้าเวลาตี 5 ครึ่ง มุ่งหน้าไปยังจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล นั่งจิบชาพร้อมมองพระอาทิตย์ขึ้น น่าเสียดายเช้านี้ไม่มีทะเลหมอกเลยค่ะ อีกทั้งเมฆเยอะ ฟ้าไม่เปิด แต่วิวเบื้องหน้าสวยเกินบรรยาย ทั้งแสงแดดอ่อนที่ค่อยๆ กระทบกับหมู่บ้านเบื้องล่างและทิวเขาซับซ้อนเบื้องหลัง นั่งจิบชากินลมชมบรรยากาศกันจนลืมเวลาไปเลย



อ่านรีวิว ชมทะเลหมอกหยุนไหล บ้านสันติชล ชิมหมั่นโถวจีนยูนนาน จิบชาอุ่นกลางขุนเขา เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3271421

 

เรากลับไปกินข้าวเช้ากันที่โรงแรม Belle Villa ค่ะ พอมีเวลาได้แสนปรูปมาฝากด้วย ที่นี่เค้ามีทั้งห้องแบบติดสระว่ายน้ำ และแบบบ้านพักเป็นหลังมองไปเห็นวิวภูเขาด้านหลังโรงแรม บรรยากาศดีรายล้อมด้วยต้นไม้ ดอกไม้ ช่วงเช้านี้ยิ่งสดชื่นเลยค่ะ


อ่านรีวิว Belle Villa ที่พักสุดชิลล์ในเมืองปาย รีแลกซ์เต็มที่ท่ามกลางธรรมชาติ เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3328994

 

10.00 น.เก็บสัมภาระให้เรียบร้อย เพราะคืนวันที่ 2 นี้เราจะไปพักอีกรีสอร์ทนึงค่ะ ก่อนจะออกเดินทางไปยัง Thom’s Pai Elephant Camp แค้มป์ช้างที่มีกิจกรรขี่ช้างให้เราได้สนุกกันค่ะ ถ้าหากอยากได้ความเป็นธรรมชาติจริงๆ แนะนำให้ขี่ช้างแบบไม่มีเก้าอี้ค่ะ เพราะทั้งสนุกและน่าตื่นเต้น เส้นทางขี่ช้างจะเดินตั้งแต่ตรงถนน ลัดเข้าป่า ผ่านไร่สวนของชาวบ้าน ซึ่งกำลังโตเป็นสีเขียวขจีค่ะ จากหลังช้างสามารถมองเห็นผืนไร่และทิวเขาสลับซับซ้อนของปายสวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีการอาบน้ำช้างด้วย ใครไปปายบอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ


อ่านรีวิว ขี่ช้างชมธรรมชาติ กิจกรรมสนุกๆ ที่ Thom’s Pai Elephant Camp ปาย เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3330421

 

ขี่ช้างกันสนุกสนานเป็นที่เรียบร้อย เราพักกินมื้อเที่ยงที่โรงแรม Pai Hotspring Spa Resort โรงแรมติดริมน้ำปาย ที่พักของเราคืนนี้นั่นเอง ห้องอาหารของโรงแรมตั้งอยู่ติดแม่น้ำปาย บรรยากาศดีไม่น้อย แถมอาหารก็ยังอร่อยด้วยค่ะ


อิ่มแปล้กันแล้วช่วงบ่ายเราแวะไปทำบุญกันที่ วัดศรีดอนชัย กันค่ะ วัดศรีดอนชัยเป็นวัดแห่งแรกของเมืองปาย ภายในประดิษฐานพระพุทธสิหิงห์ หยิบเครื่องสักการะประจำปีเกิด เข้าไปไหว้พระกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว โอกาสนี้เราก็ได้พบกับ พ่อหนานจัน ปราชญ์ชาวบ้านมาเล่าประวัติความเป็นมาของปายให้ฟังแบบละเอียดยิบเลยค่ะ


อ่านรีวิว สักการะพระพุทธสิหิงส์ พระพุทธรูปคู่เมืองปาย วัดศรีดอนชัย เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3329366

 

จากนั้นเราไปเที่ยวกันต่อที่ Ramance Farm ฟาร์มสวยในเมืองปายภายใน Romance Pai Resort ค่ะ ฟาร์มแห่งนี้มีอาณาเขตกว้างขวาง เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ ที่นี่เค้าเลี้ยงแกะ ม้า กระต่าย และโคนมด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำเพียบทั้งการขี่ม้า ขี่ ATV น่าเสียดายที่เวลาเราไม่มาก แต่ครั้งหน้าจะต้องไปอีกให้ได้แน่นอนค่ะ


เราแวะพักดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ละเลียดชีสเค้กที่ละลายในปาก เพลิดเพลินกับการชมบรรยากาศตรงหน้า แวะให้อาหารน้องแกะสุดน่ารัก ก่อนโบกมือบ๊ายบายฟาร์มแสนน่ารักแห่งนี้


อ่านรีวิว เที่ยว Romance Farm ฟาร์มสวยในปาย แวะชิมชีสเค้กละลายในปาก ให้อาหารน้องแกะสุดน่ารัก เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3333795

 

จุดหมายถัดไปคือ วัดพระธาตุแม่เย็น เราแวะไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นเดินขึ้นไปกราบสักการะพระพุทธโลกุตระมหามุนี พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ เนื่องจากวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขา จากบนวัดจึงสามารถมองเห็นอำเภอปายเบื้องล่างได้อย่างทั่วถึงเลยค่ะ



อ่านรีวิว วัดพระธาตุแม่เย็น สักการะองค์พระใหญ่ ชมความงามเมืองปาย แม่ฮ่องสอน เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3329935

 

ประมาณ 17.00 น. ลงจากวัดพระธาตุแม่เย็นไปกินอาหารเย็นกันแบบชิลล์ๆ ที่ร้านขนาด ในโรงแรม Pai River Corner ใกล้ๆกับถนนคนเดินปายค่ะ มื้อเย็นวันนี้ได้กินอาหารอร่อยๆ บรรยากาศติดริมน้ำปาย พร้อมฟังเพลงเพราะๆ เรียกได้ว่าอิ่มอกอิ่มใจ


อิ่มท้องกันแล้วไปเดินย่อยกันต่อที่ถนนคนเดินปายค่ะ ช่วงหน้าฝนที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะแบบนี้เดินสบายเลยค่ะ เพราะร้านขายของก็เปิดกันปกติ ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายเสื้อผ้าพื้นเมือง ให้เลือกเพียบ

 

อ่านรีวิว เดินเล่นชิลล์ๆ รับลมหนาว ที่ ถนนคนเดิน ปาย แหล่งช้อปปิ้งสุดฮิปของเมืองปาย เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3264636


เดินเลือกซื้อของฝากกันจนหนำใจ เราก็กลับที่พักที่
Pai Hotspring Spa Resort ที่นี่เค้ามีความพิเศษคือมีบริการน้ำแร่ น้ำที่เราอาบก็จะเป็นน้ำแร่ที่ดีต่อผิวพรรณ ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้ดีมาก ใครคิดว่าอาบยังไม่สะใจ เค้ามีอ่างให้แช่ด้วยค่ะ สบายเลยทีนี้

 

 

วันที่ 3

เช้าวันที่ 3 เราเปลี่ยนจากการนั่งรถตู้ไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ เป็นการปั่นจักรยานเที่ยวเมืองปายกันค่ะ โดยเราเริ่มปั่นจากโรงแรม Medio de Pai ไปตามเส้นทางหลวงชนบท แม่ฮ่องสอน 4020 แม่ฮี้-วัดทรายขาว ระยะทางไปกลับ 8 กิโลเมตร ระหว่างทางเราได้ชมวิวสองข้างทางเป็นบ้านเรือนของผู้คน เข้าไปถึงทุ่งนาข้าวของชาวบ้านที่กำลังเขียวขีเลยค่ะ ระยะทางดูไกลแต่พอปั่นจริงๆ แล้วหยุดแวะถ่ายรูปกันบ่อยมาก จนไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อยเลยค่ะ


อ่านรีวิว ปั่นจักรยานเที่ยวปาย สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ชมธรรมชาติยามเช้า และทุ่งนาข้าวสีเขียว เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3333600

 

เราใช้เวลาในการปั่นจักรยานตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงประมาณ 9 โมงค่ะ จากนั้นก็กลับไปกินมื้อเช้าที่โรงแรม ช่วงที่พักนี้เราจึงเดินเล่นชมรีสอร์ทที่พักกันเมื่อคืนค่ะ ที่ Pai Hotspring Spa Resort เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวร่มรื่น ให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติสุดๆ นอกจากนี้ห้องพักเค้ายังมีทั้งแบบเห็นวิวภูเขากับวิวแม่น้ำปาย ที่สำคัญมีสระน้ำแร่บริการให้เราได้ผ่อนคลายด้วยค่ะ


อ่านรีวิว Pai Hotspring Spa Resort ที่พักสวยติดริมน้ำปาย ผ่อนคลายกับสระน้ำแร่ร้อนจากธรรมชาติ เพิ่มเติมที่ http://travel.truelife.com/detail/3334121

 

มื้อเที่ยงวันนี้เราฝากท้องที่ร้านอาหารบ้านปายค่ะ ลิ้มลองอาหารเหนืออย่าง ยำหน่อไม้ ส้าผักกาด อุ๊บไก่ แกงเห็ด ผัดซาโยเต้ อร่อยทุกอย่าง ใครอยากกินอาหารเหนือต้องแวะร้านนี้เลยค่ะ


ช่วงบ่ายวันนี้เราแวะเที่ยวหลายที่เลยค่ะ เริ่มจาก เลิฟสตรอเบอร์รี่ เพิ่มความสดชื่นให้กับวันฟ้าครึ้มด้วนสตรอเบอร์รี่ปั่นเปรี้ยวหวานชื่นใจค่ะ จากนั้นไปเล่นชิงช้า ไจแอนท์สวิง ที่คนกลัวความสูงเห็นแล้วต้องเสียว เพราะจะถูกผูกด้วยเชือกและดึงให้ลอยสูงขึ้น หลังจากกระตุกเชือก ตัวเราก็จะถูกปล่อยให้เหวี่ยงไปเหมือนเล่นชิงช้าค่ะ นับเป็นเครื่องเล่นที่ทั้งหวาดเสียวและมันส์มาก

อ่านรีวิว เที่ยว เลิฟ สตรอเบอร์รี่ ปาย ชิมสตรอเบอร์รี่หวานฉ่ำ เล่นกิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดมันส์ เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3332849

 

หลังจากเล่นแอนท์สวิงสร็จฝนก็พรำลงมา แต่เราก็ไม่หวั่นไปเที่ยวกันต่อที่ สะพานประวัติศาสตร์ปาย ค่ะ เมื่อไปถึงฝนก็หยุดตกพอดี ได้บรรยากาศหลังฝนที่ชุ่มฉ่ำ มีเสน่ห์ไม่แพ้ฤดูกาลอื่นเลยค่ะ


ใครอยากเห็นรีวิวสะพานประวัติศาตร์ปายวันฟ้าใส ตามไปอ่านรีวิว สะพานประวัติศาสตร์ปาย สถานที่แห่งความทรงจำ สงครามโลกครั้งที่ 2 เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3267012

 

หมู่บ้านสันติชล คือจุดหมายถัดไปของเราค่ะ บรรยากาศของหมู่บ้านในหน้าฝน แตกต่างจากฤดูอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน มีเพียงความเงียบสงบของหมู๋บ้าน และธรรมชาติที่ชุ่มฉ่ำหลังฝนค่ะ เดินเล่นถ่ายรูปกันเพลินๆ และเล่นโล้ชิงช้าแบบชาวเขากันสนุกๆ ค่ะ

อ่านรีวิว เที่ยวบ้านสันติชล หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน สัมผัสเสน่ห์ชุมชนบนดอย ในหน้าฝน เพิ่มเติมได้ที่ http://travel.truelife.com/detail/3328409

 

นั่งรถขึ้นไปยังจุดชมวิวดอยกิ่วลม อีกหนึ่งจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เราขึ้นไปยังสถานีทวนสัญญาฯ สูงกว่าจุดชมวิวปกติค่ะ ทางขึ้นอาจแคบและชัน แต่พอขึ้นไปถึงข้างบนแล้วได้เห็นทัศนียภาพเป็นทิวเขาสลับซับซ้อนสุดลูหูลูกตา ก็รู้วึกว่าคุ้มค่ามากจริงๆ


อ่านรีวิว จุดชมวิว ดอยกิ่วลม ชมทะเลหมอกยามเช้า รับลมหนาวให้ฉ่ำปอด เพิ่มเติมที่ http://travel.truelife.com/detail/3329721


ชมวิวกันจนถึงเวลามื้อเย็น วันนี้เราไปดินเนอร์พร้อมชมวิวสวยๆ เมืองปายกันที่ The Barn โรงแรม Puripai Villa ค่ะ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนที่ Mari-Pai Resort

 

วันที่ 4

เช้าที่ตื่นสายที่สุดของทริปค่ะ วันนี้ตื่นประมาณ 7 โมงเช้า รับประทานอาหารเสร็จแล้ว ระหว่างรอรถตู้มารับเรากลับเชียงใหม่ ก็ถ่ายรูปบรรยากาศรีสอร์ทมาให้ชมค่ะ Mari-Pai เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่มีบ้านพักสวย สงบ เป็นส่วนตัว และมีระเบียงให้ชมวิวสวยๆ


ไม่นานรถตู้ก็มารับเราเดินทางกลับไปเชียงใหม่ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ขสกลับนี้เรายังใช้บริการสายการบินแอร์เอเชียเช่นเดิม กลับดอนเมืองเที่ยวบินที่ FD 3434 เวลา 14.30 น. จบทริปปายหน้าฝนสุดประทับใจค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าปายในหน้าฝน จะสวยและมีเสน่ห์ไม่แพ้ฤดูกาลอื่นจริงๆ โดยเฉพาะธรรมชาติที่เขียวสดชุ่มฉ่ำ อากาศเย็นสบาย เวลาถ่ายรูปก็ไม่ติดนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ด้วย ใครไม่เคยไปปายหน้าฝน ต้องลองเลยค่ะ

 

 

ขอขอบคุณ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวปาย และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน

 

**บทความรีวิวร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และแนะนำวางแผนเที่ยว เป็นบทความที่ทางเว็บขอสงวนลิขสิทธิ์ผลงานการเขียน ห้ามทำซ้ำ หรือคัดลอกเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อในเว็บอื่นๆ และสื่อตีพิมพ์ จนกว่าจะได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทีมงาน

 

 

ติดตาม travel.truelife.com อีกช่องทางที่

 

ทุกเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อาหาร และที่พัก คลิกที่ http://travel.truelife.com

 

ปาย ก็ต้องไปหน้าหนาวสิ ได้บรรยากาศเมืองในหุบเขา อากาศหนาว ดูทะเลหมอก ดอกไม้สวยๆ คิดแบบนี้ใช่ไหมล่ะค่ะ วันนี้เราจะทำให้คุณเปลี่ยนใจ เพราะเราจะพาไปเที่ยวปายในหน้าฝนกันแบบเต็มอิ่ม 4 วัน 3 คืน สัมผัสปายในฤดูกาลที่เค้าว่ากันว่าสวยที่สุดค่ะ รับรองว่าจะต้องหลงรักปายในหน้าฝนแน่นอน

 

วันที่ 1

ออกเดินทางแต่เช้าด้วยเครื่องบินจากดอนเมืองไปเชียงใหม่ ทริปนี้เรานั่งสายการบินแอร์เอเชียค่ะ เที่ยวบินที่ FD 3437 เวลา 06.40 น. ไปถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณ 8 โมง หลังจากจัดแจงมื้อเช้ากันที่ม่อนระมิงค์ เรียบร้อยแล้ว เรานั่งรถตู้กันต่อยาวๆ ใช้เส้นทาง 1095 ไปยัง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ครึ่งทางเราหยุดแวะพักรถและออกมายืดเส้นยืดสายกันที่ร้าน Coffee Hill ค่ะ อยู่ติดถนนใหญ่ เขตป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ช่วงนั้นฟ้าครึ้มๆ อากาศค่อนข้างเย็นสบาย ได้จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ยิ่งสดชื่นค่ะ

พักดื่มอะไรเบาๆ ไปแล้ว ก็ออกเดินทางต่อ ก่อนเข้าสู่ตัว อ.ปาย เราต้องผ่านอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จึงแวะเข้าไปเที่ยวกันเสียหน่อยค่ะ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังในช่วงหน้าฝนนี้ธรรมชาติดูเขียวสดและชุ่มชื่นมากๆ อากาศเย็นสบาย 18 องศา นั่งชมวิวรับลมกันได้เพลินๆ เลย

เราถึงตัวอำเภอปายกันประมาณเที่ยงครึ่งค่ะ แวะรับประทานมื้อเที่ยงกันที่ The Quarter Hotel เติมพลังด้วยอาหารเมืองเหนือพร้อมลุยเที่ยวต่อช่วงบ่ายค่ะ

 

ที่เที่ยวปายที่แรกที่เราไปคือ น้ำพุร้อนไทรงาม ที่นี่เรียกได้ว่าเป็น Unseen Thailand เลยก็ว่าได้เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จัก เพราะเป็นน้ำพุที่ผุดขึ้นมาตามธรรมชาติ น้ำใสสีเขียวมรกตนั้นมีความอุ่นไม่ร้อนจนเกินไป เหมาะกับการนั่งรีแลกซ์แช่ตัว ส่วนมากคนที่มาแช่จะเป็นชาวบ้านแถวนั้นค่ะ แต่วันที่เราไปนั้นเจอนักท่องเที่ยวต่างชาติไปแช่กันเยอะเหมือนกัน และดูเหมือนว่าน้ำพุร้อนแห่งนี้จะเป็นที่ชื่นชอบของทุกๆ คนมากทีเดียว

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ รีแลกซ์เบาๆ แช่น้ำร้อนที่ปาย น้ำพุร้อนไทรงาม

 

เนื่องจากเรามีเวลาเที่ยวไม่มาก จึงได้เพียงแช่ขาสักพัก แล้วไปเที่ยวกันต่อค่ะ ที่ กองแลน หรือ ปายแคนยอน เป็นสถานที่ที่เกิดขึ้นจากความอัศจรรย์ของธรรมชาติ การยุบตัวของดินและการกัดเซาะด้วยลมและฝนในบริเวณกว้าง ทำให้พื้นดินเกิดเป็นร่องลึกและหน้าผาสูงชันค่ะ ลักษณะเหมือนแกรนด์แคนยอน

อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่ พาเที่ยวกองแลน แคนยอนเมืองปาย

 

ใช้เวลาช่วงบ่ายไปกับการเดินเที่ยวกองแลน พื้นที่ค่อนข้างกว้างเล่นเอาเหงื่ออกเหมือนได้ออกกำลังกายเลยค่ะ มื้อค่ำวันนี้เราจึงจัดมื้อค่ำกันที่ร้าน Silhouette ภายในโรงแรม Riverie Siam เพราะที่นี่บรรยากาศดีมาก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองปาย จากห้องอาหาร สามารถมองเห็นทิวทัศน์เป็นภูเขาเบื้องหลัง พร้อมรับประทานอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนรสชาติยอดเยี่ยม เป็นมื้อค่ำสุดหรูที่แนะนำให้ทุกคนต้องไปลองค่ะ

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ มื้อค่ำสุดโรแมนติก จิบไวน์ชิลล์ๆ ที่ Silhouette ปาย

ค่ำแรกเราพักกันที่โรงแรม Belle Villa ค่ะ รีบอาบน้ำพักผ่อน เพราะจุดหมายปลายทางของพรุ่งนี้เช้าคือไปชมทะเลหมอที่หยุนไหล บ้านสันติชลค่ะ

 

 

วันที่ 2

ตื่นแต่เช้าเวลาตี 5 ครึ่ง มุ่งหน้าไปยังจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล นั่งจิบชาพร้อมมองพระอาทิตย์ขึ้น น่าเสียดายเช้านี้ไม่มีทะเลหมอกเลยค่ะ อีกทั้งเมฆเยอะ ฟ้าไม่เปิด แต่วิวเบื้องหน้าสวยเกินบรรยาย ทั้งแสงแดดอ่อนที่ค่อยๆ กระทบกับหมู่บ้านเบื้องล่างและทิวเขาซับซ้อนเบื้องหลัง นั่งจิบชากินลมชมบรรยากาศกันจนลืมเวลาไปเลย

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ ชมทะเลหมอกหยุนไหล บ้านสันติชล ชิมหมั่นโถวจีนยูนนาน

 

เรากลับไปกินข้าวเช้ากันที่โรงแรม Belle Villa ค่ะ พอมีเวลาได้แสนปรูปมาฝากด้วย ที่นี่เค้ามีทั้งห้องแบบติดสระว่ายน้ำ และแบบบ้านพักเป็นหลังมองไปเห็นวิวภูเขาด้านหลังโรงแรม บรรยากาศดีรายล้อมด้วยต้นไม้ ดอกไม้ ช่วงเช้านี้ยิ่งสดชื่นเลยค่ะ

อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่ Belle Villa ที่พักสุดชิลล์ในเมืองปาย

 

10.00 น.เก็บสัมภาระให้เรียบร้อย เพราะคืนวันที่ 2 นี้เราจะไปพักอีกรีสอร์ทนึงค่ะ ก่อนจะออกเดินทางไปยัง Thom’s Pai Elephant Camp แค้มป์ช้างที่มีกิจกรรขี่ช้างให้เราได้สนุกกันค่ะ ถ้าหากอยากได้ความเป็นธรรมชาติจริงๆ แนะนำให้ขี่ช้างแบบไม่มีเก้าอี้ค่ะ เพราะทั้งสนุกและน่าตื่นเต้น เส้นทางขี่ช้างจะเดินตั้งแต่ตรงถนน ลัดเข้าป่า ผ่านไร่สวนของชาวบ้าน ซึ่งกำลังโตเป็นสีเขียวขจีค่ะ จากหลังช้างสามารถมองเห็นผืนไร่และทิวเขาสลับซับซ้อนของปายสวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีการอาบน้ำช้างด้วย ใครไปปายบอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ ขี่ช้างชมธรรมชาติที่ Thom’s Pai Elephant Camp ปาย

 

ขี่ช้างกันสนุกสนานเป็นที่เรียบร้อย เราพักกินมื้อเที่ยงที่โรงแรม Pai Hotspring Spa Resort โรงแรมติดริมน้ำปาย ที่พักของเราคืนนี้นั่นเอง ห้องอาหารของโรงแรมตั้งอยู่ติดแม่น้ำปาย บรรยากาศดีไม่น้อย แถมอาหารก็ยังอร่อยด้วยค่ะ

อิ่มแปล้กันแล้วช่วงบ่ายเราแวะไปทำบุญกันที่ วัดศรีดอนชัย กันค่ะ วัดศรีดอนชัยเป็นวัดแห่งแรกของเมืองปาย ภายในประดิษฐานพระพุทธสิหิงห์ หยิบเครื่องสักการะประจำปีเกิด เข้าไปไหว้พระกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว โอกาสนี้เราก็ได้พบกับ พ่อหนานจัน ปราชญ์ชาวบ้านมาเล่าประวัติความเป็นมาของปายให้ฟังแบบละเอียดยิบเลยค่ะ

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ สักการะพระพุทธสิหิงส์ พระพุทธรูปคู่เมืองปาย วัดศรีดอนชัย

 

จากนั้นเราไปเที่ยวกันต่อที่ Ramance Farm ฟาร์มสวยในเมืองปายภายใน Romance Pai Resort ค่ะ ฟาร์มแห่งนี้มีอาณาเขตกว้างขวาง เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ ที่นี่เค้าเลี้ยงแกะ ม้า กระต่าย และโคนมด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำเพียบทั้งการขี่ม้า ขี่ ATV น่าเสียดายที่เวลาเราไม่มาก แต่ครั้งหน้าจะต้องไปอีกให้ได้แน่นอนค่ะ

เราแวะพักดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ละเลียดชีสเค้กที่ละลายในปาก เพลิดเพลินกับการชมบรรยากาศตรงหน้า แวะให้อาหารน้องแกะสุดน่ารัก ก่อนโบกมือบ๊ายบายฟาร์มแสนน่ารักแห่งนี้

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ เที่ยว Romance Farm ฟาร์มสวยในปาย แวะชิมชีสเค้ก

 

จุดหมายถัดไปคือ วัดพระธาตุแม่เย็น เราแวะไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นเดินขึ้นไปกราบสักการะพระพุทธโลกุตระมหามุนี พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ เนื่องจากวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขา จากบนวัดจึงสามารถมองเห็นอำเภอปายเบื้องล่างได้อย่างทั่วถึงเลยค่ะ

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ วัดพระธาตุแม่เย็น สักการะองค์พระใหญ่ ชมความงามเมืองปาย

 

ประมาณ 17.00 น. ลงจากวัดพระธาตุแม่เย็นไปกินอาหารเย็นกันแบบชิลล์ๆ ที่ ร้านขนาด ในโรงแรม Pai River Corner ใกล้ๆกับถนนคนเดินปายค่ะ มื้อเย็นวันนี้ได้กินอาหารอร่อยๆ บรรยากาศติดริมน้ำปาย พร้อมฟังเพลงเพราะๆ เรียกได้ว่าอิ่มอกอิ่มใจ

อิ่มท้องกันแล้วไปเดินย่อยกันต่อที่ถนนคนเดินปาย ค่ะ ช่วงหน้าฝนที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะแบบนี้เดินสบายเลยค่ะ เพราะร้านขายของก็เปิดกันปกติ ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายเสื้อผ้าพื้นเมือง ให้เลือกเพียบ

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ ถนนคนเดิน ปาย แหล่งช้อปปิ้งสุดฮิปของเมืองปาย

เดินเลือกซื้อของฝากกันจนหนำใจ เราก็กลับที่พักที่ Pai Hotspring Spa Resort ที่นี่เค้ามีความพิเศษคือมีบริการน้ำแร่ น้ำที่เราอาบก็จะเป็นน้ำแร่ที่ดีต่อผิวพรรณ ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้ดีมาก ใครคิดว่าอาบยังไม่สะใจ เค้ามีอ่างให้แช่ด้วยค่ะ สบายเลยทีนี้

 

 

วันที่ 3

เช้าวันที่ 3 เราเปลี่ยนจากการนั่งรถตู้ไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ เป็นการปั่นจักรยานเที่ยวเมืองปายกันค่ะ โดยเราเริ่มปั่นจากโรงแรม Medio de Pai ไปตามเส้นทางหลวงชนบท แม่ฮ่องสอน 4020 แม่ฮี้-วัดทรายขาว ระยะทางไปกลับ 8 กิโลเมตร ระหว่างทางเราได้ชมวิวสองข้างทางเป็นบ้านเรือนของผู้คน เข้าไปถึงทุ่งนาข้าวของชาวบ้านที่กำลังเขียวขีเลยค่ะ ระยะทางดูไกลแต่พอปั่นจริงๆ แล้วหยุดแวะถ่ายรูปกันบ่อยมาก จนไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อยเลยค่ะ

 

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ ปั่นจักรยานเที่ยวปาย สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน

 

เราใช้เวลาในการปั่นจักรยานตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงประมาณ 9 โมงค่ะ จากนั้นก็กลับไปกินมื้อเช้าที่โรงแรม ช่วงที่พักนี้เราจึงเดินเล่นชมรีสอร์ทที่พักกันเมื่อคืนค่ะ ที่ Pai Hotspring Spa Resort เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวร่มรื่น ให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติสุดๆ นอกจากนี้ห้องพักเค้ายังมีทั้งแบบเห็นวิวภูเขากับวิวแม่น้ำปาย ที่สำคัญมีสระน้ำแร่บริการให้เราได้ผ่อนคลายด้วยค่ะ

อ่านรีวิว เพิ่มเติมที่ Pai Hotspring Spa Resort ผ่อนคลายกับสระน้ำแร่ร้อนจากธรรมชาติ

 

มื้อเที่ยงวันนี้เราฝากท้องที่ร้านอาหารบ้านปายค่ะ ลิ้มลองอาหารเหนืออย่าง ยำหน่อไม้ ส้าผักกาด อุ๊บไก่ แกงเห็ด ผัดซาโยเต้ อร่อยทุกอย่าง ใครอยากกินอาหารเหนือต้องแวะร้านนี้เลยค่ะ

ช่วงบ่ายวันนี้เราแวะเที่ยวหลายที่เลยค่ะ เริ่มจาก เลิฟสตรอเบอร์รี่ เพิ่มความสดชื่นให้กับวันฟ้าครึ้มด้วนสตรอเบอร์รี่ปั่นเปรี้ยวหวานชื่นใจค่ะ จากนั้นไปเล่นชิงช้า ไจแอนท์สวิง ที่คนกลัวความสูงเห็นแล้วต้องเสียว เพราะจะถูกผูกด้วยเชือกและดึงให้ลอยสูงขึ้น หลังจากกระตุกเชือก ตัวเราก็จะถูกปล่อยให้เหวี่ยงไปเหมือนเล่นชิงช้าค่ะ นับเป็นเครื่องเล่นที่ทั้งหวาดเสียวและมันส์มาก

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ เลิฟ สตรอเบอร์รี่ ปาย ชิมสตรอเบอร์รี่หวานฉ่ำ

 

หลังจากเล่นแอนท์สวิงสร็จฝนก็พรำลงมา แต่เราก็ไม่หวั่นไปเที่ยวกันต่อที่ สะพานประวัติศาสตร์ปาย ค่ะ เมื่อไปถึงฝนก็หยุดตกพอดี ได้บรรยากาศหลังฝนที่ชุ่มฉ่ำ มีเสน่ห์ไม่แพ้ฤดูกาลอื่นเลยค่ะ

ใครอยากเห็นรีวิวสะพานประวัติศาตร์ปายวันฟ้าใส ตามไปอ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่ สะพานประวัติศาสตร์ปาย สถานที่แห่งความทรงจำ

 

หมู่บ้านสันติชล คือจุดหมายถัดไปของเราค่ะ บรรยากาศของหมู่บ้านในหน้าฝน แตกต่างจากฤดูอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน มีเพียงความเงียบสงบของหมู๋บ้าน และธรรมชาติที่ชุ่มฉ่ำหลังฝนค่ะ เดินเล่นถ่ายรูปกันเพลินๆ และเล่นโล้ชิงช้าแบบชาวเขากันสนุกๆ ค่ะ

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ เที่ยวบ้านสันติชล หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน

 

 

นั่งรถขึ้นไปยัง จุดชมวิวดอยกิ่วลม อีกหนึ่งจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เราขึ้นไปยังสถานีทวนสัญญาฯ สูงกว่าจุดชมวิวปกติค่ะ ทางขึ้นอาจแคบและชัน แต่พอขึ้นไปถึงข้างบนแล้วได้เห็นทัศนียภาพเป็นทิวเขาสลับซับซ้อนสุดลูหูลูกตา ก็รู้วึกว่าคุ้มค่ามากจริงๆ

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ จุดชมวิว ดอยกิ่วลม ชมทะเลหมอกยามเช้า

 

ชมวิวกันจนถึงเวลามื้อเย็น วันนี้เราไปดินเนอร์พร้อมชมวิวสวยๆ เมืองปายกันที่ The Barn โรงแรม Puripai Villa ค่ะ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนที่ Mari-Pai Resort

 

 

วันที่ 4

เช้าที่ตื่นสายที่สุดของทริปค่ะ วันนี้ตื่นประมาณ 7 โมงเช้า รับประทานอาหารเสร็จแล้ว ระหว่างรอรถตู้มารับเรากลับเชียงใหม่ ก็ถ่ายรูปบรรยากาศรีสอร์ทมาให้ชมค่ะ Mari-Pai เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่มีบ้านพักสวย สงบ เป็นส่วนตัว และมีระเบียงให้ชมวิวสวยๆ

ไม่นานรถตู้ก็มารับเราเดินทางกลับไปเชียงใหม่ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ขสกลับนี้เรายังใช้บริการสายการบินแอร์เอเชียเช่นเดิม กลับดอนเมืองเที่ยวบินที่ FD 3434 เวลา 14.30 น. จบทริปปายหน้าฝนสุดประทับใจค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าปายในหน้าฝน จะสวยและมีเสน่ห์ไม่แพ้ฤดูกาลอื่นจริงๆ โดยเฉพาะธรรมชาติที่เขียวสดชุ่มฉ่ำ อากาศเย็นสบาย เวลาถ่ายรูปก็ไม่ติดนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ด้วย ใครไม่เคยไปปายหน้าฝน ต้องลองเลยค่ะ

 

 

ขอขอบคุณ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวปาย และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน

 

 

อัพเดทที่พักสุดชิลล์ ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่


Facebook

Twitter


และ แอปพลิเคชั่น


TrueID Application

Add friend ที่ ID : @TrueID