ความโดดเด่นประการหนึ่งที่สะกดสายตาทุกคู่ให้จ้องมองไปที่หุ่นทหารแต่ละตัวในสุสานจักรพรรดิจิ๋นซีอย่างชื่นชม ได้แก่ ความปราณีตวิจิตรบรรจงในการปั้นหุ่น โดยมีผู้เคยกล่าวว่าทั้งพีระมิดของอียิปต์และสุสานทหารของจีนต่างเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่อลังการ มีประวัติความเป็นมายาวนาน แต่รูปปั้นสฟิงซ์มีหน้าเดียว ขณะที่หุ่นทหารหลายพันตัวของจักรพรรดิจิ๋นซีมีรูปร่างหน้าตาและอิริยาบถที่หลากหลายไม่ซ้ำกัน หุ่นทหารแต่ละตัวมีองค์ประกอบของเสื้อผ้าหน้าผมและอิริยาบทที่แตกต่างกัน แสดงให้เห็นสถานภาพว่าเป็นใครมีบทบาทอะไรในกองทัพ โดยจุดสังเกตความแตกต่างของหุ่นทหารในเรื่องชั้นยศ ตำแหน่ง และหน้าที่ในกองทัพ สามารถแยกแยะรายละเอียดได้ดังนี้ นายทหารระดับสูงมียศมีตำแหน่งจะสวมหมวก ส่วนพลทหารมักรวบผมตึงมัดจุกไว้บนศีรษะค่อนไปทางขวา อาจใช้หมวกบางๆ คลุมผมให้เรียบร้อย หรือปล่อยให้เห็นเป็นจุกผมเพื่อโชว์ชายผ้าที่เหลือจากการมัดจุกหลากหลายรูปแบบ อีกทรงหนึ่งที่พบมากอยู่ในกองทัพคือถักเปียแล้วทบขึ้นไว้กลางศีรษะ ขณะที่พลขับรถม้าส่วนใหญ่สวมหมวกเรียบๆ ไม่หวือหวาเหมือนพวกนายทหาร จุดสังเกตอีกประการหนึ่งคือนายทหารจะสวมเสื้อเกราะดูสง่างามน่าเกรงขาม ขณะที่พลทหารจะมีทั้งแบบพลทหารในชุดเกราะและพลทหารในชุดออกศึกซึ่งเป็นชุดเครื่องแบบทหารตามปกติ เมื่อสังเกตทรงผมและหมวกเพื่อแยกแยะนายทหารและพลหารออกจากกันได้แล้ว ต่อไปคือการจำแนกชั้นยศของนายทหารว่าเป็นนายร้อย นายพัน กระทั่งรุ่นใหญ่อย่างนายพล ให้ดูที่ความหรูหราอลังการของหมวก แน่นอนว่าหมวกชั้นยศนายพลย่อมตกแต่งประดับประดาฟู่ฟ่ากว่าหมวกของนายพันลดหลั่นไปจนถึงชั้นนายร้อยเป็นแน่แท้ ในระดับพลทหารยังสามารถจำแนกได้ว่าเป็นพลเท้า พลธนู หรือพลขับรถม้า ซึ่งมีความแตกต่างในรายละเอียดของเสื้อผ้าและท่าทางที่เหมาะสมกับหน้าที่ความรับผิดชอบ รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยอย่างเช่นหมวก เสื้อเกราะและอาวุธต่างๆ เริ่มจากหุ่นทหารที่ยืนยืดตัวตรง ผมมัดจุก ไม่สวมหมวก สวมชุดออกศึก แขนทั้งสองข้างปล่อยข้างลำตัว เป็นพลเท้าแน่นอน ส่วนที่มัดผมจุกทรงเดียวกัน อยู่ในท่ากำมือข้างเดียวยื่นออกไปข้างหน้าและสวมชุดเกราะ หุ่นทหารนี้เป็นพลเท้าเช่นกัน แต่เป็นพลเท้าที่ถือหอกยาว ส่วนหุ่นทหารที่นั่งอยู่คือพลธนู มักจะพบในท่านั่งชันเข่าขวางอขาซ้าย แขนทั้งสองยืดกางออกในท่าดึงคันธนู ใบหน้าขึงขังสายตาจับจ้องจริงจัง ขณะที่หุ่นทหารที่สวมหมวกเรียบๆ ยืนตัวตรงยกไหล่สูง อยู่ในท่ากำมือทั้งสองข้างยื่นออกไปข้างหน้าเพื่อดึงอะไรบางอย่าง นั่นคือการกระตุกเชือกเพื่อควบคุมม้า หุ่นลักษณะนี้จึงเป็นพลขับรถม้า นอกจากนี้ รูปร่างหน้าตาท่าทางอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนต่างๆ ยังสามารถสะท้อนให้เห็นถึงนิสัยใจคอหรือแม้กระทั่งบอกว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด อาทิ หุ่นทหารที่มีหนวดเครารุงรังแสดงว่าเป็นทหารเก่าที่กรำศึกมาหลายสนามรบ ส่วนหุ่นทหารที่มีสีหน้าแววตาแช่มชื่นสดใสเป็นแค่เพียงพลทหารฝึกหัดที่เข้ามาปะปนอยู่ในกองทัพ หรือรูปร่างหน้าตาที่พบมากคือใบหน้าเหลี่ยม หน้าผากกว้าง กระดูกโหนกแก้มสูง คิ้วหนา ตาโต ปากกว้าง หน้าตาดูใจดี สูงประมาณ 170-180 เซนติเมตร ส่วนมากเป็นชาวกวนจงจากที่ราบตอนกลางของมณฑลส่านซีที่เรียกว่าที่ราบกวนจงซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองเสียนหยาง ราชธานีในยุคราชวงศ์ฉิน เป็นต้น *รูปภาพประกอบบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน